ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมข่าวจากกระทรวงศึกษาธิการ  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

รมว.ศธ.หารือการเลื่อนเปิด-ปิดภาคเรียนให้ตรงกับอาเซียน


ข่าวจากกระทรวงศึกษาธิการ 8 พ.ย. 2555 เวลา 06:24 น. เปิดอ่าน : 10,239 ครั้ง
รมว.ศธ.หารือการเลื่อนเปิด-ปิดภาคเรียนให้ตรงกับอาเซียน

Advertisement

นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ประชุมหารือกับนายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) และศาสตราจารย์ศิริชัย กาญจนวาสี คณบดีคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อพิจารณาเรื่องการเลื่อนเปิด-ปิดภาคเรียนของสถานศึกษาให้ตรงตามปฏิทินอาเซียน เมื่อวันที่ ๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๕ ที่ห้องทำงาน รมว.ศธ.

รมว.ศธ. กล่าวว่า ได้หารือกับคณบดีคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กรณีการเปิดภาคเรียนของมหาวิทยาลัยที่จะมีการเลื่อนออกไปจากเดิม ทำให้มีผลกระทบกับนิสิตนักศึกษาคณะครุศาสตร์ ซึ่งโดยปกติเมื่อสำเร็จการศึกษาชั้นปีที่ ๔ แล้ว จะต้องไปฝึกสอนเป็นเวลา ๑ ปี (๒ ภาคเรียน) แต่เนื่องจากการเปิดภาคเรียนของในระดับโรงเรียนประถมศึกษาและมัธยมศึกษายังเปิดภาคเรียนแบบเดิม คือ ช่วงระยะเวลากลางเดือนพฤษภาคม ทำให้เวลาการฝึกสอนของนักศึกษาไม่มีความต่อเนื่อง และอาจจะฝึกสอนได้ไม่ครบเวลา ๑ ปี ส่งผลให้จบการศึกษาล่าช้าออกไป โดย เลขาธิการ กพฐ.ก็มีมุมมองว่าอาจจะมีการปรับหรือขยับการเปิดภาคเรียนของโรงเรียนสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้บ้าง เพื่อให้นิสิตนักศึกษาสามารถไปฝึกสอนต่อได้โดยไม่เสียเวลา ซึ่งในรายละเอียดเลขาธิการ กพฐ. กับคณบดีคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จะร่วมกันพิจารณาถึงผลกระทบต่างๆ ต่อไป

เลขาธิการ กพฐ. กล่าวว่า ในความเป็นจริงได้มีการประชุมปรึกษาเรื่องนี้ในที่ประชุมผู้บริหาร สพฐ.หลายครั้ง และได้รวบรวมข้อมูลการเปิดปิดภาคเรียนของประเทศสมาชิกอาเซียนทั้ง ๑๐ ประเทศ พบว่า ในโรงเรียนระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานของประเทศอาเซียน ก็ยังมีการเปิด-ปิดภาคเรียนที่มีความหลากหลาย ซึ่งการที่มหาวิทยาลัยไทยจะเลื่อนเปิด-ปิดภาคเรียนให้สอดคล้องกับปฏิทินของอาเซียนก็เป็นเรื่องที่มีเหตุผลสำหรับนักศึกษาที่จะมีการเคลื่อนย้ายไปเรียนในมหาวิทยาลัยของอาเซียน แต่ในส่วนของการศึกษาขั้นพื้นฐาน มีความเห็นว่านักเรียนทั้งระดับประถมฯ และมัธยมฯ ซึ่งมีจำนวนกว่า ๑๐ ล้านคน การจะพิจารณาเลื่อนหรือไม่เลื่อนนั้น ควรจะต้องมีการวิเคราะห์ผลกระทบที่เกิดขึ้นให้ชัดเจน หากจะเลื่อนให้ตรงกับมหาวิทยาลัยก็คงจะมีผลกระทบค่อนข้างมาก เพราะต้องเลื่อนออกไปประมาณ ๔ เดือน กล่าวคือจากกลางเดือนพฤษภาคมไปจนถึงเดือนสิงหาคม แต่หากให้ปรับเวลาเหลือเพียง ๒ สัปดาห์ หรือไม่เกิน ๒๐ วัน ก็น่าจะมีความเป็นไปได้ เพราะไม่เป็นการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตของผู้ปกครองและนักเรียนมากจนเกินไป อย่างไรก็ตาม สพฐ.จะรับข้อคิดเห็นจากคณะครุศาสตร์ฯ ไปประชุมรับฟังความคิดเห็น และประสานงานกับคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยต่อไป โดยคาดว่าจะได้รับคำตอบในเบื้องต้นภายในเดือนพฤศจิกายนนี้

คณบดีคณะครุศาสตร์ฯ กล่าวว่า เป็นความห่วงใยของ รมว.ศธ.ที่เห็นว่าการเปิด-ปิดภาคเรียนของระดับอุดมศึกษาสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) กับระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานของ สพฐ. ยังมีความเหลื่อมล้ำกัน การที่จะปรับให้สองระบบสอดคล้องกันก็จะเป็นภาพที่ดีในแง่ของเอกภาพในการจัดการศึกษา และสอดคล้องกับนานาชาติในการร่วมจัดกิจกรรมทางวิชาการ การแลกเปลี่ยน ไม่ว่าจะเป็นนักเรียน อาจารย์ สู่เวทีสากล เพื่อให้มีความสะดวก มีความเป็นไปได้ และเกิดประโยชน์ต่อการศึกษามากขึ้น

สำหรับการศึกษาของนิสิตนักศึกษาระดับปริญญาตรี หลักสูตรครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ ในปัจจุบัน เป็นหลักสูตร ๕ ปี และมีข้อบังคับของคุรุสภาให้มีการฝึกสอนเป็นเวลา ๑ ปีการศึกษา (๒ ภาคเรียน) โดยแบ่งเป็น ๒ ลักษณะ คือ ๑) นิสิตนักศึกษา ที่เรียนสะสมหน่วยกิตครบถ้วน จะฝึกสอนในช่วงปี ๔ ภาคเรียนที่ ๒ และปี ๕ ภาคเรียนที่ ๑ และ ๒) นิสิตนักศึกษา ที่เรียนตามปกติ จะฝึกสอนในช่วงปี ๕ ในภาคเรียนที่ ๑ และ ๒ หากมีการขยับปฏิทินตามที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทยกำหนดในปีการศึกษา ๒๕๕๗ นั้น ภาคเรียนที่ ๒ ก็จะเปิดเรียนในช่วงกลางเดือนมกราคม-กลางเดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นช่วงที่นิสิตนักศึกษาต้องไปฝึกสอน ในขณะที่โรงเรียน สพฐ.ยังเปิดตามปกติ คือ กลางเดือนพฤษภาคม ก็จะทำให้นิสิตนักศึกษาเสียโอกาสในการที่จะเข้าไปฝึกสอนตั้งแต่ต้นภาคเรียน ซึ่งมีเวลาคาบเกี่ยวในส่วนนี้ประมาณ ๒ สัปดาห์ หากมีการขยับและไม่ทำให้สภาพที่คุ้นชินด้านสังคมและวัฒนธรรมเปลี่ยนแปลงไป แต่เป็นการปรับเพื่อให้สอดรับกับระดับอุดมศึกษาในการส่งนิสิตนักศึกษาไปฝึกสอนให้กับโรงเรียน สพฐ. ซึ่งถือเป็นแหล่งสำคัญในการฝึกประสบการณ์วิชาชีพ และโรงเรียนเองก็ได้ประโยชน์ในส่วนนี้ด้วย ก็จะเป็นสิ่งที่ได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย

รมว.ศธ.กล่าวด้วยว่า หากมีการขยับเวลาเปิด-ปิดภาคเรียนออกไปในเวลาที่ไม่กระทบกับการศึกษาภาพรวมมากนัก การที่นิสิตนักศึกษาคณะครุศาสตร์จะฝึกสอนต่อเนื่องทันทีก็จะมีความเป็นไปได้สูง แต่หากไม่ฝึกสอนทันทีจะเสียโอกาสและจะจบการศึกษาล่าช้าไปอีก ซึ่งขณะนี้ สพฐ. และคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จะพยายามพิจารณาหาทางออกที่ดีที่สุดสำหรับนิสิตนักศึกษาที่จะไปฝึกสอน ซึ่งก็เป็นประโยชน์ต่อโรงเรียนที่ไปฝึกสอนด้วย

 

ที่มา ข่าวสำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงศึกษาธิการ


รมว.ศธ.หารือการเลื่อนเปิด-ปิดภาคเรียนให้ตรงกับอาเซียน

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

:: เรื่องปักหมุด ::

นโยบายการรับนักเรียน

นโยบายการรับนักเรียน

เปิดอ่าน 5,247 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
กช.เห็นชอบแนวทางปรับเพิ่มเงินเดือนครูเอกชน 15,000 บาท
กช.เห็นชอบแนวทางปรับเพิ่มเงินเดือนครูเอกชน 15,000 บาท
เปิดอ่าน 13,098 ☕ คลิกอ่านเลย

พระราชทานคำขวัญวันแม่
พระราชทานคำขวัญวันแม่
เปิดอ่าน 10,242 ☕ คลิกอ่านเลย

ประชุมองค์กรหลัก ศธ ครั้งที่ 20/2558
ประชุมองค์กรหลัก ศธ ครั้งที่ 20/2558
เปิดอ่าน 5,365 ☕ คลิกอ่านเลย

ผลประชุม ก.ค.ศ. 1/2558 เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2558
ผลประชุม ก.ค.ศ. 1/2558 เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2558
เปิดอ่าน 17,807 ☕ คลิกอ่านเลย

ผลประชุมกระทรวงศึกษาธิการ 11/2558 เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2558
ผลประชุมกระทรวงศึกษาธิการ 11/2558 เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2558
เปิดอ่าน 8,526 ☕ คลิกอ่านเลย

ผลประชุมผู้บริหารองค์กรหลัก กระทรวงศึกษาธิการ ครั้งที่ 7/2559 วันที่ 6 กรกฎาคม 2559
ผลประชุมผู้บริหารองค์กรหลัก กระทรวงศึกษาธิการ ครั้งที่ 7/2559 วันที่ 6 กรกฎาคม 2559
เปิดอ่าน 12,317 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

คลิป "ควีโยมี Gwiyomi" ที่น่ารักสุดๆ และกำลังฮิตกระจาย
คลิป "ควีโยมี Gwiyomi" ที่น่ารักสุดๆ และกำลังฮิตกระจาย
เปิดอ่าน 53,596 ครั้ง

มาป้องกันและลดความเสี่ยงโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่กันเถอะ
มาป้องกันและลดความเสี่ยงโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่กันเถอะ
เปิดอ่าน 11,789 ครั้ง

โลโก้ วันเด็กแห่งชาติ ปี 2563
โลโก้ วันเด็กแห่งชาติ ปี 2563
เปิดอ่าน 11,914 ครั้ง

ตูนส์ศึกษา : จิตวิญญาณครู สำคัญที่สุด
ตูนส์ศึกษา : จิตวิญญาณครู สำคัญที่สุด
เปิดอ่าน 13,225 ครั้ง

ดีเอสไอเตือนชาวเน็ต!! ระวังติดอีเมล์ไวรัสเรียกค่าไถ่
ดีเอสไอเตือนชาวเน็ต!! ระวังติดอีเมล์ไวรัสเรียกค่าไถ่
เปิดอ่าน 9,384 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ