ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมบทความการศึกษา  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

การศึกษาในกะลา


บทความการศึกษา 26 เม.ย. 2558 เวลา 14:25 น. เปิดอ่าน : 11,161 ครั้ง
การศึกษาในกะลา

Advertisement

คอลัมน์ ชั้น 5 ประชาชาติ โดย สาโรจน์ มณีรัตน์

 

เป็นที่แน่ชัดแล้วว่าภายในปีนี้กรมสรรพากรจะเรียกเก็บภาษีโรงเรียนกวดวิชาเพิ่มขึ้นประมาณ 8-9% ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้โรงเรียนกวดวิชาหลายแห่งพยายามอย่างยิ่งที่จะให้กรมสรรพากรจัดเก็บภาษีในปีหน้า

โดยอ้างว่ายังไม่มีความพร้อมในเรื่องของรูปบัญชีเนื่องจากบางโรงเรียนมีหลายสาขาจึงมีอยู่หลายบัญชีดังนั้นถ้ากรมสรรพากรจะเรียกเก็บภาษีจริงขอจัดรูปบัญชีให้เป็นบัญชีเดียวเสียก่อน

รวมถึงการจัดการทรัพย์สินของแต่ละสาขาให้อยู่ในหมวดเดียวกัน

ผลเช่นนี้จึงทำให้หลายฝ่ายคาดการณ์ไปในทางเดียวกันว่าเมื่อโรงเรียนกวดวิชาเสียภาษีเพิ่มภาระคงตกอยู่กับผู้ปกครองที่จะต้องจ่ายค่าคอร์สเรียนของบุตรหลานเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน

ปีนี้ปีหน้าไม่ทราบได้

แต่ที่แน่ๆ ถ้าโรงเรียนกวดวิชาเพิ่มค่าเล่าเรียนในแต่ละคอร์สจริง ผู้ปกครองจะยอมจ่ายหรือไม่ เรื่องนี้แทบไม่ต้องใช้เหตุและผลใด ๆ ทั้งสิ้น

ผมว่ายอมจ่ายอย่างแน่นอน

คำถามคือ ทำไมผู้ปกครองเหล่านี้ถึงยอมจ่ายเงินให้โรงเรียนกวดวิชา บางคนจ่ายตั้งแต่ ม.1-ม.6 และไม่ใช่แห่งเดียวด้วย เพราะในระบบการเรียน อย่างที่ทุกคนทราบดี มีทั้งสายวิทย์-คณิต,ศิลป์-คณิต, ศิลป์-ภาษา และอื่น ๆ

ยกตัวอย่าง ถ้านักเรียนอยู่สายวิทย์และต้องการสอบเข้าคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาฯ นักเรียนคนนั้นจะต้องเสียค่าเรียนกวดวิชาในวิชาฟิสิกส์, คณิตศาสตร์, ภาษาอังกฤษ

ซึ่งเป็นวิชาหลักที่ใช้ในการสอบ

นอกจากนั้นต้องไปเรียนวิชาความสามารถทางด้านสถาปัตยกรรมเพิ่มเติม

ซึ่งจะต้องเรียนตั้งแต่ ม.4-ม.6

โดยเฉพาะในช่วง ม.6 จะต้องเข้าแคมป์กินนอนอย่างน้อย 2-3 คืน เพื่อติวเจาะเข้าคณะสถาปัตย์โดยตรง

ความต้องการของนักเรียน ม.6 ที่จะสอบเข้าคณะสถาปัตย์ จุฬาฯ ปีหนึ่งเป็นหมื่น ๆ คน แต่มหา"ลัยรับได้เพียง 140 คนลองคิดเล่น ๆ แล้วกันว่า จำนวน 1 หมื่นกว่าคนที่ตระเวนไปเรียนกวดวิชาในวิชาต่าง ๆ ของสถาบันกวดวิชา รวมถึงสถาบันที่เปิดสอนความสามารถทางด้านสถาปัตย์

เขารับทรัพย์ปีละเท่าไหร่

ที่ยกตัวอย่างให้เห็นนี้คณะเดียวเท่านั้น

แต่ในความเป็นจริงคณะดังๆในมหา"ลัยต่างๆมีตั้งหลายคณะ แต่ละคณะล้วนเป็นคณะในดวงใจของกลุ่มนักเรียน หนุ่ม-สาวทุกยุคทุกสมัยที่อยากจะมีที่นั่งในจำนวนเหล่านั้น

ผมจึงไม่แปลกใจที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยออกมาประมาณการมูลค่าตลาดธุรกิจกวดวิชาในปี2558อยู่ที่8,189ล้านบาท คือเติบโตขึ้นร้อยละ 6.8 จากปี 2557 ที่มีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 7,670 ล้านบาท

คำถามของผมคือ เกิดอะไรขึ้นกับระบบการศึกษาบ้านเรา ?

การเรียนการสอนล้มเหลวใช่ไหม ?

ครูไม่มีประสิทธิภาพใช่หรือไม่ ?

หรือเป็นเพราะนโยบายการจัดการการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการถอยหลังเข้าคลอง

ผมว่าถูกทุกข้อ

แต่ครั้นจะไปแก้ที่ต้นตอคือกระทรวงศึกษาธิการก็อย่างที่ทุกคนทราบกันตราบใดที่กระทรวงแห่งนี้ยังเป็นขุมทรัพย์ของนักการเมืองที่ต่างเข้ามารุมกัดแทะแสวงหาผลประโยชน์เพื่อพวกพ้อง

การศึกษาก็ยังเป็นอย่างที่เราเห็น ไม่มีทางที่จะปฏิรูปสำเร็จ

หรือจะแก้ที่โรงเรียน

ก็อีกแหละตราบใดที่ทุกโรงเรียนยังเอ่ยเรียกค่าบำรุงการศึกษากับผู้ปกครองสนนราคาตั้งแต่หลักหมื่นขึ้นไปจนถึงหลักแสนหรือหลักล้านก็เปล่าประโยชน์

หรือจะแก้ที่ครู

ก็เท่านั้นเพราะตราบใดที่ครูเปิดรับจ้างสอนนักเรียนของตัวเองตามบ้าน อพาร์ตเมนต์ คอนโดมิเนียม หรือตามร้านฟาสต์ฟู้ด โดยคิดราคาชั่วโมงละ 200-500 บาท

เรียนครั้งหนึ่งประมาณ 2 ชั่วโมงอย่างต่ำประมาณกลุ่มละ 5-7 คน ก็เสียเวลาเปล่า

ทั้งนั้นเพราะครูก็เป็นมนุษย์ มีโลภ โกรธหลง มีความอยากได้ใคร่มี เพราะต้องผ่อนรถยนต์ คอนโดมิเนียม และอะไรต่อมิอะไร เรื่องอะไรเขาจะดำเนินชีวิตแบบเรือจ้างเหมือนในอดีต

ที่ขอแค่เป็นคนส่งนักเรียนถึงฝั่งเท่านั้นก็ใจเป็นสุข

ผมว่าทางออกของเรื่องนี้คงต้องใช้วิธีสลับตัวบุคลากรทางการศึกษาโดยเอาติวเตอร์ชื่อดังทั้งหลายเข้ามาสอนในโรงเรียนมีเงินเดือนที่ดีทั้งยังมีแบ่งเปอร์เซ็นต์กันให้ชัดเจนระหว่างติวเตอร์กับทางโรงเรียน

รวมทั้งติวเตอร์เหล่านี้ก็เข้าไปประจำการคณะดังๆทั้งหลายในมหา"ลัยที่นักเรียนอยากสอบเข้าเปิดคอร์สอนโดยตรงแล้วแบ่งเปอร์เซ็นต์ให้ติวเตอร์กับคณะเหล่านั้นอย่างเป็นธรรม

พูดง่าย ๆ คือในราคาที่ทุกฝ่ายยอมรับได้

พร้อมกันนั้นก็ยุบกระทรวงศึกษาธิการทิ้งไปเลย เพราะมีก็เหมือนไม่มี เนื่องจากที่ผ่านมาไม่สามารถแก้ปัญหาวิกฤตการศึกษาของประเทศชาติได้เลย ทั้ง ๆ ที่กระทรวงแห่งนี้มีงบประมาณมากที่สุด

แต่ทำอะไรไม่เป็นชิ้นเป็นอันเลย

ผมว่าทางออกของเรื่องนี้ไม่ต้องใช้ตรรกะมากนักหรอกแค่ลองคิดเล่นๆดูถ้าทำได้จริงการศึกษาของบ้านเราอาจจะโงหัวขึ้นบ้างก็ได้

ใครจะไปรู้ ?

 

 

 

ที่มา ประชาชาติธุรกิจ 25 เม.ย 2558

 


การศึกษาในกะลา

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

การศึกษาไทย 2.0

การศึกษาไทย 2.0


เปิดอ่าน 12,626 ครั้ง
อ่านอะไร...คนไทย?

อ่านอะไร...คนไทย?


เปิดอ่าน 7,662 ครั้ง

:: เรื่องปักหมุด ::

"ของเล่นบ้านๆ" สื่อพัฒนาทักษะเด็กปฐมวัยในยุคดิจิทัล

"ของเล่นบ้านๆ" สื่อพัฒนาทักษะเด็กปฐมวัยในยุคดิจิทัล

เปิดอ่าน 23,434 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
Smart Thailand
Smart Thailand
เปิดอ่าน 8,570 ☕ คลิกอ่านเลย

อาลัยการศึกษาไทย เก่งเจ๋งในกระดาษ
อาลัยการศึกษาไทย เก่งเจ๋งในกระดาษ
เปิดอ่าน 19,349 ☕ คลิกอ่านเลย

โอเน็ต!ยัง โอเค?
โอเน็ต!ยัง โอเค?
เปิดอ่าน 9,062 ☕ คลิกอ่านเลย

ว่าด้วยเรื่อง ป.โทวิชาชีพครู
ว่าด้วยเรื่อง ป.โทวิชาชีพครู
เปิดอ่าน 48,732 ☕ คลิกอ่านเลย

ภาวะผู้นำยุค 4.0 ในพลวัตศตวรรษที่ 21
ภาวะผู้นำยุค 4.0 ในพลวัตศตวรรษที่ 21
เปิดอ่าน 33,964 ☕ คลิกอ่านเลย

ข้อคิดและข้อควรระวังในการบริหารสถานศึกษา
ข้อคิดและข้อควรระวังในการบริหารสถานศึกษา
เปิดอ่าน 32,290 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

ฟังเอ็มพี 3 ดังสุดๆ วันละแค่ 1 ชม. อันตรายร้ายแรงถึงหูดับได้
ฟังเอ็มพี 3 ดังสุดๆ วันละแค่ 1 ชม. อันตรายร้ายแรงถึงหูดับได้
เปิดอ่าน 8,539 ครั้ง

การลาศึกษาต่อต่างประเทศ
การลาศึกษาต่อต่างประเทศ
เปิดอ่าน 33,685 ครั้ง

จดหมายฉบับที่ 81 ถึงนายกรัฐมนตรี เรื่อง Active Learning เปลี่ยนห้องเรียนสู่คุณภาพศตวรรษที่ 21 อย่างเป็นรูปธรรม
จดหมายฉบับที่ 81 ถึงนายกรัฐมนตรี เรื่อง Active Learning เปลี่ยนห้องเรียนสู่คุณภาพศตวรรษที่ 21 อย่างเป็นรูปธรรม
เปิดอ่าน 9,696 ครั้ง

บางคนเกษียณแล้วร้องไห้หนักมาก เพราะไม่รู้สิบข้อนี้
บางคนเกษียณแล้วร้องไห้หนักมาก เพราะไม่รู้สิบข้อนี้
เปิดอ่าน 446,108 ครั้ง

ลูกขี้อาย ... ทำอย่างไรดี?
ลูกขี้อาย ... ทำอย่างไรดี?
เปิดอ่าน 11,859 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ