ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมบทความการศึกษา  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

การประเมินจากภายนอกสถานศึกษาจำเป็นหรือไม่?


บทความการศึกษา 5 มิ.ย. 2558 เวลา 10:42 น. เปิดอ่าน : 5,899 ครั้ง
การประเมินจากภายนอกสถานศึกษาจำเป็นหรือไม่?

Advertisement

การประเมินจากภายนอกสถานศึกษาจำเป็นหรือไม่?

ดร.รัชศักดิ์ แก้วมาลา

ในพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ ได้กำหนดให้สถานศึกษาทุกแห่งต้องได้รับการประเมินจากหน่วยงานภายนอกทุก ๕ ปี จึงทำให้เกิด สำนักงานประเมินและรับรองมาตรฐานการศึกษา (องค์การมหาชน) หรือ สมศ. ขึ้น โดยทำการประเมินรอบที่ ๑ รอบที่ ๒ และรอบที่ ๓ ผ่านไปเกือบทุกสถานศึกษาแล้ว

ทั้งนี้ โดยใช้มาตรฐานและตัวชี้วัดเป็นเกณฑ์การประเมิน มีระเบียบวิธีการประเมินจากสถานที่จริงโดยใช้นักประเมินที่ได้รับการอบรม และมีประสบการณ์ด้านการศึกษามาเป็นอย่างดี จุดมุ่งหมายสูงสุดในการประเมินแต่ครั้งอยู่ที่การนำผลการประเมินไปใช้ในการพัฒนาคุณภาพการศึกษา

กว่าทศวรรษที่ผ่านมา วัฒนธรรมการประเมินจากหน่วยงานภายนอกได้ซึมซับลงสู่สถานศึกษาไม่น้อย เกิดการเปลี่ยนแปลงในภาพรวมของแต่ละสถานศึกษา

ผู้เรียนได้รับการเอาใจใส่ดูแลให้ได้รับรางวัลระดับต่างๆ มากขึ้น ครูกระตือรือร้นปรับเปลี่ยนกระบวนการทำงาน แสวงหาความรู้และประสบการณ์ทางวิชาชีพมากขึ้น โรงเรียนมีการเปลี่ยนแปลงทั้งทางกายภาพและสาระสำคัญในการทำงาน

ทั้งหมดนี้ ไม่มีใครปฏิเสธได้ว่า เป็นผลมาจากการประเมินจาก สมศ.

แต่สิ่งที่ไม่อาจเกิดขึ้นจากการขับเคลื่อนวัฒนธรรมการประเมินของ สมศ. คือคุณภาพของผู้เรียน หรือผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน บทบาทของ สมศ. ไม่สามารถกระตุ้นสถานศึกษาให้พัฒนาผู้เรียนได้บรรลุเป้าหมายตามหลักสูตร

เพราะครูเอาเวลาส่วนใหญ่ไปทำตามมาตรฐานข้ออื่นๆ จำนวน ๑๑ ข้อมากเกินไป ส่วนอีก ๑ ข้อ คือ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนจึงปล่อยปละละเลย (มาตรฐานทั้งหมดมี ๑๒ ข้อ)

ถามว่า หัวใจสำคัญของการจัดการศึกษาอยู่ที่ใด เหตุผลหลักในการจัดตั้งโรงเรียนหรือสถานศึกษาเพื่อใคร และผู้ปกครองฝากลูกหลานไว้กับสถานศึกษาด้วยความหวังสูงสุดในเรื่องใด ในแต่ละวันที่ผู้เรียนใช้ชีวิตอยู่ในโรงเรียนนั้น เขาได้อะไรบ้าง

๑ ปี เขามาเรียน ๒๐๐ วัน ไม่เคยขาดเรียน มาโรงเรียนแต่เช้า ๗ โมงเช้า ๔ หรือ ๕ โมงเย็นค่อยกลับบ้าน บางรายต้องเรียนพิเศษตามความต้องการของพ่อแม่อีก จนถึง ๒ ทุ่ม ความเปลี่ยนแปลงในตัวผู้เรียนเหล่านี้ สมศ. มองเห็นเป็นอะไร ตีค่าผู้เรียนอย่างไร

ในเมื่อคุณภาพผู้เรียน มิได้เป็นผลโดยตรงมาจากการประเมินของ สมศ. จึงเกิดกระแสการต่อต้านการประเมินอย่างต่อเนื่องยาวนาน

แม้ในใจจะรู้สึกต่อต้าน แต่ครูและบุคลากรในสถานศึกษาก็ไม่อาจปฏิเสธได้ เพราะเป็นกฎหมายที่บรรดานักการเมืองเห็นชอบแล้วในสภาผู้แทนราษฎรตามกระบวนการประชาธิปไตย (นักการเมืองคาดหวังอะไรจากกฎหมายฉบับนี้)

ณ วันนี้ มีความเคลื่อนไหวในทำนองว่า จะเปลี่ยนวิธีการประเมิน เปลี่ยนมาตรฐานและตัวชี้วัดในการประเมิน จึงถามว่า ทำไปทำไม มีความจำเป็นแค่ไหน ทำเพื่ออะไร เด็กนักเรียนจะได้รับอานิสงส์จากการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้อย่างไรบ้าง

ในเมื่อหัวใจของการจัดการศึกษาอยู่ที่ผู้เรียน การจะดูแลบำรุงรักษาหัวใจให้แข็งแรง สามารถเป็นกำลังสำคัญของสังคมและประเทศชาติได้ จำเป็นต้องได้รับอาหารสมองที่ดีโดยผู้ปรุงอาหารที่เหมาะสม ก็ปรากฏชัดแล้วว่า ๑๐ กว่าปีที่ผ่านมา สมศ. เป็นผู้ประกอบอาหารที่ใช้ไม่ได้ แล้วจำเป็นต้องมีการประเมินรอบที่ ๔ ไปทำไม

 


ที่มา: หนังสือพิมพ์บางกอกทูเดย์ วันที่ 5 - 11 มิ.ย. 2558 


การประเมินจากภายนอกสถานศึกษาจำเป็นหรือไม่?

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

การศึกษาในอนาคต

การศึกษาในอนาคต


เปิดอ่าน 20,626 ครั้ง

:: เรื่องปักหมุด ::

ผลการสอบไม่สามารถบอกได้ทุกอย่าง

ผลการสอบไม่สามารถบอกได้ทุกอย่าง

เปิดอ่าน 6,104 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
งานประจำ 7 ประการของสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน
งานประจำ 7 ประการของสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน
เปิดอ่าน 16,510 ☕ คลิกอ่านเลย

ถอดบทเรียนปฏิรูปการศึกษาเวียดนาม ทำอย่างไรถึงสำเร็จ
ถอดบทเรียนปฏิรูปการศึกษาเวียดนาม ทำอย่างไรถึงสำเร็จ
เปิดอ่าน 15,776 ☕ คลิกอ่านเลย

แบ่งเกรดมหาลัย ความรวดร้าวของบัณฑิตจบใหม่
แบ่งเกรดมหาลัย ความรวดร้าวของบัณฑิตจบใหม่
เปิดอ่าน 16,254 ☕ คลิกอ่านเลย

เสียงสะท้อนจากนิทานเรื่องมดน้อย ของลุงตู่ ต่อการปฏิรูปการศึกษา : โดย เพชร เหมือนพันธุ์
เสียงสะท้อนจากนิทานเรื่องมดน้อย ของลุงตู่ ต่อการปฏิรูปการศึกษา : โดย เพชร เหมือนพันธุ์
เปิดอ่าน 9,447 ☕ คลิกอ่านเลย

วิเคราะห์จุดอ่อน-แข็ง การถ่ายโอนการศึกษา : เพื่อหาความเป็นไปได้
วิเคราะห์จุดอ่อน-แข็ง การถ่ายโอนการศึกษา : เพื่อหาความเป็นไปได้
เปิดอ่าน 12,795 ☕ คลิกอ่านเลย

ภาษาอังกฤษเด็กไทยไม่ก้าวหน้าปัญหาอยู่ที่ใคร?
ภาษาอังกฤษเด็กไทยไม่ก้าวหน้าปัญหาอยู่ที่ใคร?
เปิดอ่าน 13,284 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

แอบดูไลน์ เป็นไปได้หรือไม่
แอบดูไลน์ เป็นไปได้หรือไม่
เปิดอ่าน 15,679 ครั้ง

ยาสระผมเข้าตาบ่อย ๆ เป็นอันตรายต่อดวงตามั้ย
ยาสระผมเข้าตาบ่อย ๆ เป็นอันตรายต่อดวงตามั้ย
เปิดอ่าน 30,536 ครั้ง

พบดาวฤกษ์ดวงใหม่ สว่างกว่าดวงอาทิตย์ 10 ล้านเท่า
พบดาวฤกษ์ดวงใหม่ สว่างกว่าดวงอาทิตย์ 10 ล้านเท่า
เปิดอ่าน 20,375 ครั้ง

ภาษาอังกฤษเด็กไทยไม่ก้าวหน้าปัญหาอยู่ที่ใคร?
ภาษาอังกฤษเด็กไทยไม่ก้าวหน้าปัญหาอยู่ที่ใคร?
เปิดอ่าน 13,284 ครั้ง

การทำบุญสะเดาะเคราะห์
การทำบุญสะเดาะเคราะห์
เปิดอ่าน 13,450 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ