ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมข่าวการศึกษา  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

การเปลี่ยนแปลงการครุศึกษาสำหรับครูในอนาคต


ข่าวการศึกษา 3 ส.ค. 2558 เวลา 20:38 น. เปิดอ่าน : 5,855 ครั้ง
การเปลี่ยนแปลงการครุศึกษาสำหรับครูในอนาคต

Advertisement

ดร.กฤษณพงศ์ กีรติกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานเปิดการประชุมสัมมนา เรื่อง "การเปลี่ยนแปลงการครุศึกษาสำหรับครูในอนาคต (Transforming Teacher Education for Future Teachers)" พร้อมบรรยายพิเศษในหัวข้อ “การผลิตและพัฒนาครู กระบวนทัศน์ใหม่ วิถีใหม่ และวิธีใหม่” เมื่อวันจันทร์ที่ 27 กรกฎาคม 2558 ณ ห้องกรุงธนบอลรูม ชั้น 3 จัดโดยสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ร่วมกับคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา

 

รัฐบาล-สปช.-สนช.-ศธ.ล้วนให้ความสำคัญกับการปฏิรูปการศึกษา

ดร.กฤษณพงศ์ กีรติกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ บรรยายตอนหนึ่งว่า
รัฐบาลนำโดยพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญกับการพัฒนาครูเป็นอย่างมาก โดยได้กำหนดนโยบายรัฐบาลด้านการศึกษาเกี่ยวกับการผลิตและพัฒนาครูให้มีคุณภาพ เน้นการใช้เทคโนโลยี มีวุฒิการศึกษาและปรับระบบสมรรถนะ รวมทั้งแต่งตั้งคณะกรรมการนโยบายและพัฒนาการศึกษา (ซุปเปอร์บอร์ดการศึกษา) เพื่อขับเคลื่อนเรื่องของการศึกษาเป็นการเฉพาะ และในส่วนของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) รวมทั้งสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ก็ได้ตั้งคณะกรรมการเพื่อปฏิรูปการจัดการศึกษาด้วยเช่นกัน

ในส่วนของกระทรวงศึกษาธิการในฐานะรับผิดชอบการจัดการศึกษาของประเทศทั้งระบบ ได้ตั้งคณะกรรมการอำนวยการปฏิรูปการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการเป็นประธาน เพื่อเป็นกลไกในการปฏิรูปการศึกษาของประเทศ ที่จะต้องเตรียมการรองรับการพัฒนาประเทศและให้เท่าทันกับสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะในเรื่องของการพัฒนากำลังคนให้ตอบโจทย์การพัฒนาประเทศ ซึ่งครูจะเป็นกลไกสำคัญในการจัดการเรียนรู้ที่จะต้องปรับตัวตามพฤติกรรมของผู้เรียนที่เปลี่ยนแปลงไปด้วย

การศึกษาต้องใช้ระยะเวลา - ไม่มี Quick Win

อย่างไรก็ตาม ภายหลังการปฏิรูปการศึกษาปี พ.ศ.2542 ได้มีการยกฐานะทางเศรษฐกิจของครูให้มีเงินเดือนที่สูงขึ้น แต่ในขณะเดียวกันกลับพบว่าผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาของผู้เรียนต่ำลงทั้งในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานและระดับมหาวิทยาลัย

ดังนั้นจึงเป็นความท้าทายของระบบการศึกษาเป็นอย่างมาก เพราะในเรื่องของการศึกษาไม่มี Quick Win แต่จะต้องใช้เวลานานพอสมควรกว่าเห็นผลสัมฤทธิ์ แต่ก็คงต้องมีการเริ่มต้นไว้ ดังเช่นการดูแลแก้ไขปัญหาครูกินครู ครูกินนักเรียน ที่จะต้องใช้เวลาในการหาคนเข้ามาอยู่ในระบบใหม่แทน

นายกรัฐมนตรีจึงได้ฝากให้ ศธ.สร้างระบบผลิตและพัฒนาครูภายใน 1 ปี

กรณีเช่นนี้ นายกรัฐมนตรีจึงได้ฝากโจทย์ให้กระทรวงศึกษาธิการดำเนินการเรื่องระบบผลิตและพัฒนาครูให้เห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม ภายใน 1 ปี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอัตรากำลัง การดำรงมาตรฐานวิชาชีพ การประเมินวิทยฐานะ การทำให้ครูมีจิตวิญญาณ การเป็นครูมืออาชีพ ตลอดจนการใช้เทคโนโลยีเพื่อการผลิตและพัฒนาครู

การประชุมครั้งนี้ จึงเป็นโอกาสดีที่หน่วยงานในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการจะได้หารือและแลกเปลี่ยนผลการดำเนินงานด้านการผลิตและพัฒนาครู ภายใต้การครุศึกษาสำหรับครูในอนาคต เพื่อนำมาปรับปรุงการทำงานให้มีประสิทธิภาพต่อไป

เปลี่ยนแปลงประเทศด้วยการเปลี่ยนแปลงการศึกษา

รมช.ศึกษาธิการ กล่าวด้วยว่า หากเราต้องการเปลี่ยนแปลงประเทศไทย ต้องมีการเปลี่ยนแปลงการศึกษา โดยปรับบทบาทจากการเป็นผู้สนับสนุน เป็นการกระจายอำนาจการจัดการศึกษาลงสู่พื้นที่ และมีหลักสูตรเชิงพื้นที่ให้มากขึ้น เพื่อไม่ให้มีเสื้อเบอร์เดียว รองเท้าเบอร์เดียว และครูเบอร์เดียว ที่ต้องสอนเหมือนกันทั้งประเทศ เพราะบริบทและการพัฒนาในแต่ละภูมิภาคแตกต่างกัน

สำหรับโจทย์ใหม่ของการศึกษาในอนาคตอีก 30 ปีข้างหน้าที่มีอัตราการเกิดลดลง คนสูงวัยเพิ่มมากขึ้น ทำให้ครูต้องสอนคนที่ไม่ได้อยู่ในวัยเรียน แต่จะต้องสอนผู้สูงอายุหรือคนวัยทำงานที่มีความรู้ต่ำที่ต้องการจะเรียนหนังสือด้วย

พร้อมเร่งนำนวัตกรรมการศึกษาแบบใหม่มาใช้ในการศึกษา

ในอนาคตอันใกล้จะต้องมีองค์ความรู้และนวัตกรรมในการจัดการศึกษาแบบใหม่ ที่จะช่วยตอบโจทย์บริบทของสังคมที่เปลี่ยนแปลงไปและการพัฒนาประเทศในด้านต่างๆ ในหลายประการ อาทิ - กระบวนการเรียนรู้ใหม่ ที่จะนำไปสู่ทักษะในศตวรรษที่ 21 มีการเสริมสร้างทักษะชีวิต คิดวิเคราะห์ มีความรู้เรื่องคณิตศาสตร์ในชีวิตประจำวัน ย่อความ/สรุปความได้ คิดเลขในใจเป็น - เนื้อหาความรู้ใหม่ ที่ไม่ใช่แค่ 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้เท่านั้น แต่จะต้องสอนให้ผู้เรียนรู้ความหมายและคุณค่าตลอดชีวิต มองอนาคตของตัวเองได้ เตรียมความพร้อมเพื่อการประกอบอาชีพ - การบริหารจัดการแบบใหม่ ที่จะต้องกระจายอำนาจในเชิงพื้นที่มากขึ้น นำผู้ประกอบการและผู้เชี่ยวชาญมาสอนอาชีพ มีหลักสูตรเชิงพื้นที่ และมีระบบการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ

เร่งผลิตกำลังคนเพื่อตอบโจทย์การพัฒนาประเทศ

นอกจากนี้ ในอนาคตจะมีการลงทุนขนาดใหญ่ในส่วนของโครงสร้างพื้นฐานทางกายภาพ ทั้งการขนส่งระบบราง ระบบจัดการน้ำ เขตเศรษฐกิจพิเศษ เศรษฐกิจดิจิทัล ซึ่งจะมีการลงทุนกว่าล้านล้านบาท ส่งผลต่อความต้องการกำลังคนแบบใหม่ คือ คนที่ออกไปทำงาน จึงจำเป็นที่จะต้องมีครูแบบใหม่ เพื่อผลิตกำลังคนในส่วนนี้ด้วย

รศ.ดร.พินิติ รตะนานุกูล เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา กล่าวเพิ่มเติมถึงการจัดประชุมในครั้งนี้ว่า ครูเป็นบุคลากรที่มีบทบาทสำคัญในกระบวนการจัดการศึกษา เพราะเป็นผู้ที่อยู่ใกล้ชิดผู้เรียนมากที่สุด การจะได้ครูที่ดีมีคุณภาพ สถาบันผลิตครูหรือสถาบันครุศึกษาจะต้องเป็นสถาบันหลักในกระบวนการสร้าง บ่มเพาะ และพัฒนาว่าที่ครูใหม่ของประเทศ ซึ่งเป็นไปตามบทบาทสถาบันครุศึกษาทั่วโลก ได้แก่ การสร้างและบ่มเพาะบัณฑิตครูสู่สังคม การพัฒนาองค์ความรู้แก่ครูประจำการที่อยู่ในระบบการศึกษา การพัฒนาองค์ความรู้ทางวิชาการและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา และเพิ่มเติมบทบาทด้านการมีองค์ความรู้ที่ทันสมัยเท่าทันโลกปัจจุบันและโลกอนาคตในศตวรรษที่ 21

ดังนั้น สถาบันครุศึกษาจะต้องเป็นสถาบันหลักในการสร้างและส่งต่อความรู้ทางการศึกษา เพื่อสนับสนุนแนวทางการพัฒนาการศึกษาของประเทศที่เหมาะสม และมีประสิทธิภาพแก่ภาครัฐ ประกอบกับช่วงเวลานี้เป็นช่วงของการปฏิรูปประเทศ การศึกษาเป็นหนึ่งในเรื่องที่มีการปฏิรูป โดยเฉพาะด้านการผลิตและพัฒนาครู จึงควรแสวงหาองค์ความรู้และแนวปฏิบัติที่ดีที่จะสนับสนุนการเปลี่ยนแปลง ทำให้สถาบันครุศึกษาไทยสามารถปฏิบัติหน้าที่และบทบาทได้เต็มประสิทธิภาพ มีความก้าวหน้าเท่าทันการเปลี่ยนแปลงของสังคมโลกในยุคโลกาภิวัตน์

การประชุมครั้งนี้ มีผู้เข้าร่วมประชุมประมาณ 100 คน ประกอบด้วยผู้บริหารระดับนโยบาย ผู้บริหาร คณาจารย์ของสถาบันการอุดมศึกษาทั่วประเทศทั้งภาครัฐและเอกชน ตลอดจนผู้ทรงคุณวุฒิจากองค์กรหลักและองค์กรในกำกับของกระทรวงศึกษาธิการ และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับระบบผลิตและพัฒนาครูทั่วประเทศ และผู้เชี่ยวชาญจากประเทศฟินแลนด์ สิงคโปร์ และเนเธอร์แลนด์ มาร่วมบรรยายเกี่ยวกับความสำเร็จจากการใช้แนวคิดสถาบันครุศึกษาในการขับเคลื่อนและพัฒนาระบบการศึกษาของชาติ

โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และทำความเข้าใจการพัฒนาการครุศึกษาของประเทศที่ประสบความสำเร็จ รวมทั้งระดมความคิดเพื่อนำเสนอกลยุทธ์การเปลี่ยนแปลงสำหรับการสร้างครูใหม่และการพัฒนาครูประจำการของประเทศให้มีเป้าประสงค์ร่วมกันต่อไป

โดยช่วงที่สำคัญของการประชุม คือ การบรรยายของผู้เชี่ยวชาญจากประเทศฟินแลนด์ สิงคโปร์ และเนเธอร์แลนด์ ที่ประสบความสำเร็จจากแนวคิดสถาบันครุศึกษาเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนและพัฒนาระบบการศึกษาของชาติ เป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงระดับอุดมศึกษา ที่จะเสนอแนะกลยุทธ์ แนวทาง วิธีการ จากการศึกษาวิจัยอย่างเป็นระบบ

 

ที่มา ข่าวสำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงศึกษาธิการ
 

 


การเปลี่ยนแปลงการครุศึกษาสำหรับครูในอนาคต

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

:: เรื่องปักหมุด ::

ก.ค.ศ. อนุมัติให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีและเลื่อนเป็นวิทยฐานะเชี่ยวชาญ จำนวน 10 ราย เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2567

ก.ค.ศ. อนุมัติให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีและเลื่อนเป็นวิทยฐานะเชี่ยวชาญ จำนวน 10 ราย เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2567

เปิดอ่าน 18,903 ☕ 30 มี.ค. 2567

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
ปฏิทินการจ้างและการประเมินนักการภารโรง ระยะเวลา 5 เดือน (พฤษภาคม – กันยายน 2567)
ปฏิทินการจ้างและการประเมินนักการภารโรง ระยะเวลา 5 เดือน (พฤษภาคม – กันยายน 2567)
เปิดอ่าน 1,593 ☕ 24 เม.ย. 2567

คำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการในคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาเด็กปฐมวัยระดับจังหวัด
คำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการในคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาเด็กปฐมวัยระดับจังหวัด
เปิดอ่าน 471 ☕ 24 เม.ย. 2567

เล็งจัดงบฯ อาหารเช้าให้นักเรียน
เล็งจัดงบฯ อาหารเช้าให้นักเรียน
เปิดอ่าน 442 ☕ 24 เม.ย. 2567

มาตรการเตรียมความพร้อมการเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2567
มาตรการเตรียมความพร้อมการเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2567
เปิดอ่าน 6,300 ☕ 23 เม.ย. 2567

การย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู สังกัด สพฐ. (การย้ายกรณีปกติ) ประจำปี พ.ศ. 2567
การย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู สังกัด สพฐ. (การย้ายกรณีปกติ) ประจำปี พ.ศ. 2567
เปิดอ่าน 5,472 ☕ 23 เม.ย. 2567

กฏ ก.พ.ค. ว่าด้วยการร้องทุกข์และการพิจารณาวินิจฉัยเรื่องร้องทุกข์ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2567
กฏ ก.พ.ค. ว่าด้วยการร้องทุกข์และการพิจารณาวินิจฉัยเรื่องร้องทุกข์ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2567
เปิดอ่าน 464 ☕ 23 เม.ย. 2567

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

"พรมมิ" วัชพืชบำรุงสมอง
"พรมมิ" วัชพืชบำรุงสมอง
เปิดอ่าน 14,519 ครั้ง

คลิปยอดฮิต ครูนกเล็ก ร้อง PPAP สอนเด็กนักเรียน
คลิปยอดฮิต ครูนกเล็ก ร้อง PPAP สอนเด็กนักเรียน
เปิดอ่าน 18,788 ครั้ง

สารพัดวิธีกินผักแบบเนียน ๆ อร่อยไม่ฝืนใจแถมได้ประโยชน์
สารพัดวิธีกินผักแบบเนียน ๆ อร่อยไม่ฝืนใจแถมได้ประโยชน์
เปิดอ่าน 13,705 ครั้ง

น้องซีที หุ่นยนต์ เสิร์ฟอาหาร สัญชาติไทย
น้องซีที หุ่นยนต์ เสิร์ฟอาหาร สัญชาติไทย
เปิดอ่าน 10,734 ครั้ง

สาระดีๆ สำหรับครูที่ต้องการจัดทำผลงาน(คศ.3)
สาระดีๆ สำหรับครูที่ต้องการจัดทำผลงาน(คศ.3)
เปิดอ่าน 175,652 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ