ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมความรู้ทั่วไป  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

"เด็กรุ่นใหม่" ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด?


ความรู้ทั่วไป 21 พ.ค. 2559 เวลา 17:23 น. เปิดอ่าน : 12,750 ครั้ง

Advertisement

"เด็กรุ่นใหม่" ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด?

บทความพิเศษ
เจริญชัย ไชยไพบูลย์วงศ์ มหาวิทยาลัยสยาม
ที่มา มติชนสุดสัปดาห์


ตั้งแต่ยุคกรีกโบราณมาจนกระทั่งปัจจุบัน ผู้ใหญ่ก็มักจะบ่นว่าเด็กรุ่นใหม่เป็นพวกรักสบายและหมกมุ่นในเรื่องของตัวเองเท่านั้น

แต่แล้วโลกก็ยังดำรงอยู่มาได้ เมื่อเด็กพวกนั้นเติบโตขึ้นมาเป็นผู้ใหญ่และเริ่มปกครองสังคมแทนคนรุ่นเก่า นั่นเพราะพวกเขาได้ถูกขัดเกลาโดยความจริงที่โหดร้ายของโลกใบนี้ ให้กลายเป็นคนที่รับผิดชอบและอดทนยิ่งขึ้นเพื่อความอยู่รอดของตนเอง

หากทว่า นับจากการเกิดขึ้นของอินเตอร์เน็ตและสื่อสังคมออนไลน์ ทุกสิ่งก็อาจไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

ธรรมชาติของเด็กและวัยรุ่นแทบทุกคนก็คือ การมีความใฝ่ฝันและทะยานอยากในเรื่องที่ไม่สมจริง

อย่างไรก็ตาม ในโลกยุคก่อนอินเตอร์เน็ตที่ข้อมูลข่าวสารยังไม่แพร่สะพัดไปทั่วนั้น ความอยากได้ขนมและของเล่นของเด็กๆ ทั้งหลาย ก็จะถูกบั่นทอนกำลังลงได้พอสมควร จากการที่เห็นเพื่อนๆ ของตนเอง ก็ไม่ได้มีวัตถุสิ่งของที่เหนือกว่าเท่าไรนัก

เมื่อผิดหวังนานวันเข้าก็จะกลายเป็นความเคยชินและยอมรับสภาพไปในที่สุด

แน่นอนว่า ย่อมมีเพื่อนที่รวยกว่าซึ่งมีของเล่นชิ้นใหม่ๆ มาอวดเด็กคนอื่นได้อย่างสม่ำเสมอ แต่นั่นก็เป็นเพียงแค่คนส่วนน้อย ซึ่งสุดท้ายก็จะค่อยๆ ถูกลืมเลือนไป

ครั้นเมื่ออินเตอร์เน็ตและสื่อสังคมออนไลน์ได้ถือกำเนิดขึ้น ความอยากได้ทางวัตถุของเด็กๆ จะไม่ถูกเปรียบเทียบกับเด็กคนอื่นที่อยู่ร่วมโรงเรียนเดียวกันเท่านั้น หากทว่า พวกเขายังสามารถนำตนเองไปเปรียบเทียบกับเด็กทั้งหลายบนโลกใบนี้ได้

ลูกหลานมหาเศรษฐีที่อาจเป็นคนเพียงแค่ 1% บนโลกใบนี้ ก็สามารถกลายเป็น 30% ในสายตาของเด็กที่อยากได้ของเล่นเช่นกัน เนื่องจากเด็กที่ไม่มีปัญญาซื้อของเล่นแพงๆ ได้นั้น ก็ย่อมถูกตัดทิ้งไปจากกลุ่มตัวอย่างในหัวสมองของเด็กที่อยากได้ของเล่นนั้น จึงกลายเป็นว่า มองไปทางใดก็เห็นแต่คนที่เขามีของเล่นดีๆ มากกว่าเรา โดยไม่ทันเฉลียวใจเลยว่า นั่นเป็นเพียงคนกลุ่มน้อยในสังคมเท่านั้น

ที่เลวร้ายกว่า ก็คือ ความสามารถทางการตลาดของบริษัทในโลกยุคนี้ซึ่งเหนือชั้นกว่าในโลกยุคก่อน อย่างไม่เห็นฝุ่น จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่า "เด็กยุคใหม่" ย่อมถูกกระตุ้นความอยากได้มากกว่าเด็กยุคก่อนนับสิบหรือร้อยเท่า

"ทําน้อยจะเอาเยอะ ไม่ทำเลยจะเอาหมด" เป็นคำดุว่าของครูคนหนึ่งในโรงเรียนมัธยมของผมเมื่อหลายสิบปีก่อน

แต่กระนั้น มันก็ไม่อาจนำมาใช้กับคนรุ่นผมได้อย่างยั่งยืนนัก เพราะเมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่ พวกเขาเหล่านั้นก็ได้ถูกความจริงที่โหดร้ายของชีวิตขัดเกลาไปเรียบร้อยแล้ว

อย่างไรก็ตาม มันอาจจะเป็นสัญลักษณ์ที่ชัดเจนของเด็กรุ่นปัจจุบันที่จะต้องเติบโตเป็น ผู้ใหญ่ในอนาคตข้างหน้า เพราะพวกเขาได้ถูกกล่อมเกลาโดยอินเตอร์เน็ตและสื่อสังคมออนไลน์อย่างรุนแรง กว่าคนรุ่นผมนับสิบหรือร้อยเท่า

หากทว่า เราจะไปโทษเด็กรุ่นใหม่ทั้งหมดก็ไม่เป็นธรรมนัก เพราะพวกเขาเป็นเหยื่อหรือชะตากรรมของยุคสมัยมากกว่า

เมื่อชี้นิ้วไปยังบริษัททั้งหลายซึ่งงัดกลยุทธ์ทางการตลาดมาใช้อย่างบ้า คลั่ง โดยไม่คำนึงถึงผลกระทบที่มีต่อเด็กและเยาวชนเลยนั้น ก็อาจจะไม่ยุติธรรมเช่นกัน

เพราะหากบริษัทเหล่านี้ไม่สามารถทำยอดขายให้เติบโตขึ้นทุกปีแล้ว มันจะส่งผลให้เศรษฐกิจมีปัญหา แล้วก็จะลามไปถึงชีวิตความเป็นอยู่ของพวกเราทุกคนที่อาจจะต้องโดนไล่ออกหรือ ลดเงินเดือน ซึ่งย่อมไม่ใช่เรื่องที่น่าอภิรมย์นัก

การสั่งปิดอินเตอร์เน็ตและสื่อสังคมออนไลน์ทั้งหลายไม่ให้เข้าถึงลูกหลานของ เรา แม้จะเป็นการแก้ไขที่ต้นเหตุ แต่ก็เป็นทางเลือกที่ไม่ฉลาดนัก

เพราะนั่นเท่ากับเป็นการขัดขวางความก้าวหน้าของโลกใบนี้

ทางออกที่ผมคิดว่าดีที่สุด ก็คือ การคิดใหม่ทำใหม่ของผู้ปกครองทั้งหลายนั่นเอง

ผู้ปกครองควรจะเปลี่ยนทัศนคติใหม่ว่า "การให้เด็กทำงานพิเศษในช่วงปิดเทอม เป็นสิ่งที่มีคุณค่า และเหนือกว่าการส่งลูกไปเรียนกวดวิชา"

โดยผู้ปกครองจะต้องมีวิสัยทัศน์ที่ไกลกว่าคะแนนสอบของเด็กให้ได้ เพราะการให้เด็กทำงานพิเศษจะเป็นวิธีเดียวในการทำให้พวกเขาได้รู้ซึ้งรสชาติ ความลำบากของชีวิตได้ตั้งแต่อยู่ในช่วงวัยรุ่น

การที่พวกเขาได้ตระหนักรู้ว่าเงินทองนั้นไม่ได้มาโดยง่าย ก็อาจจะเป็นสิ่งกระตุ้นให้พวกเขาขยันเรียนหนังสือได้มากกว่าเดิมอีกด้วย เพราะพวกเขาย่อมรู้ซึ้งจากประสบการณ์ของการทำงานพิเศษว่า หากพวกเขาเรียนไม่สำเร็จแล้ว บทสรุปสุดท้ายก็จะต้องมาทำงานที่เหนื่อยกาย แต่ได้ค่าจ้างน้อยกว่าทั้งหลายนี้

ที่สำคัญก็คือ ทัศนคติของบริษัทในทุกวันนี้ก็ได้มีความเปลี่ยนแปลงไปอย่างขนานใหญ่

หลายบริษัทเริ่มให้ความสนใจกับพลังไฟและความกระตือรือร้นในการทำงาน (Passion) มากกว่าคะแนนสวยหรูในใบปริญญาบัตร

เพราะพวกเขาล้วนซาบซึ้งดีว่า เบื้องหลังความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่นั้นล้วนมาจากหยาดเหงื่อและความทุ่มเท มากกว่าความฉลาดในหัวสมองที่ไม่ยอมลงมือทำ

ชีวิตที่เต็มไปด้วยความกระหายต้องการเงินเดือนสูงๆ ตั้งแต่เริ่มต้นทำงานในปีแรก ขณะที่ไม่ยอมทุ่มเทอะไรให้บริษัทเลย หากงานนั้นไม่ได้รางวัลตอบแทนที่มากพอ ก็ย่อมไม่เป็นที่สบอารมณ์ของนายจ้างหรือหัวหน้างานอย่างแน่นอน

และนั่นย่อมหมายถึงชีวิตการทำงานที่ไม่ราบรื่นของเด็กคนนั้น แม้ว่าจะเรียนจบมาจากสถาบันการศึกษาชื่อดังก็ตาม

จงเริ่มเปลี่ยนชีวิตของเยาวชนไทยตั้งแต่ในวัยที่ยังพอดัดได้

เพราะหากไม่กระทำในวันนี้ ก็จะมีแรงงานสมองจากเวียดนามหรือประเทศที่ขยันขันแข็งอื่นๆ ในอาเซียน เข้ามาแย่งงานคนไทยไปอย่างหน้าตาเฉย

ยังไม่นับว่าเศรษฐกิจไทยที่ไม่มีนวัตกรรมมาหลายปีแล้ว ก็อาจจะถึงขั้นทรุดโทรมไปแบบกู่ไม่กลับ เพียงเพราะคนรุ่นใหม่ของไทยไม่มีความอดทนเพียงพอที่จะต่อสู้ในโลกทุนนิยมที่ โหดร้ายนี้

ยังคงมีความหวังอยู่เสมอว่าประเทศไทยจะมีโอกาสแก้ตัวอีกสักครั้ง? 

 

ที่มา ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ วันที่ 20 พ.ค. 2559 เวลา 14:28:58 น.


"เด็กรุ่นใหม่" ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด?เด็กรุ่นใหม่ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด?

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

ลายมือคนใจมีเมตตาธรรม

ลายมือคนใจมีเมตตาธรรม


เปิดอ่าน 14,752 ครั้ง
ทักษะที่จำเป็นของคนอายุ 18

ทักษะที่จำเป็นของคนอายุ 18


เปิดอ่าน 20,870 ครั้ง
วิธีแต่งบ้านคลายร้อน

วิธีแต่งบ้านคลายร้อน


เปิดอ่าน 10,730 ครั้ง
ขจัดกลิ่นเหม็น ภายในบ้าน

ขจัดกลิ่นเหม็น ภายในบ้าน


เปิดอ่าน 12,176 ครั้ง

:: เรื่องปักหมุด ::

เลือกกระเบื้องให้เข้ากับห้อง

เลือกกระเบื้องให้เข้ากับห้อง

เปิดอ่าน 17,626 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
วิธีดูแลผิวพรรณในหน้าฝนให้ผิวสวยใสเสมอ
วิธีดูแลผิวพรรณในหน้าฝนให้ผิวสวยใสเสมอ
เปิดอ่าน 10,230 ☕ คลิกอ่านเลย

ปลุกสมองตื่นตัวด้วย
ปลุกสมองตื่นตัวด้วย 'มื้อเช้า'
เปิดอ่าน 15,363 ☕ คลิกอ่านเลย

ถือศีล กินเจ
ถือศีล กินเจ
เปิดอ่าน 11,931 ☕ คลิกอ่านเลย

สมาธิสั้นเทียม
สมาธิสั้นเทียม
เปิดอ่าน 12,345 ☕ คลิกอ่านเลย

วิธีต้มไข่ให้ปอกง่าย
วิธีต้มไข่ให้ปอกง่าย
เปิดอ่าน 25,265 ☕ คลิกอ่านเลย

อยากเพิ่มหรือลดน้ำหนัก... 10 สีนี้ช่วยได้นะ
อยากเพิ่มหรือลดน้ำหนัก... 10 สีนี้ช่วยได้นะ
เปิดอ่าน 12,078 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

การเรียนการสอนผ่านเว็บ (Web-Based Instruction)
การเรียนการสอนผ่านเว็บ (Web-Based Instruction)
เปิดอ่าน 121,407 ครั้ง

คุณครอบครองลูกได้กี่ปี? ทุกๆปีสำคัญขนาดไหน? อ่านดูแล้วรู้เลยว่าทุกเวลามีค่าขนาดไหน!
คุณครอบครองลูกได้กี่ปี? ทุกๆปีสำคัญขนาดไหน? อ่านดูแล้วรู้เลยว่าทุกเวลามีค่าขนาดไหน!
เปิดอ่าน 17,042 ครั้ง

กลเม็ดหาเงินสร้างธุรกิจ
กลเม็ดหาเงินสร้างธุรกิจ
เปิดอ่าน 10,715 ครั้ง

รับชมหรือยัง? แกะรอย "มาเฟีย ศธ." เงามืด "ปฏิรูปวงการศึกษา"
รับชมหรือยัง? แกะรอย "มาเฟีย ศธ." เงามืด "ปฏิรูปวงการศึกษา"
เปิดอ่าน 22,869 ครั้ง

พระประวัติ  สมเด็จพระญาณสังวร  สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
พระประวัติ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
เปิดอ่าน 16,164 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ