ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมความรู้ทั่วไป  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

อย่ารีรอ !! เรื่องสุขภาพหน้าจอ


ความรู้ทั่วไป เปิดอ่าน : 11,600 ครั้ง
อย่ารีรอ !! เรื่องสุขภาพหน้าจอ

Advertisement

❝ โดย LuckyAries ❞

         เคยอ่านพบในพระไตรปิฎกว่า แม้แต่เทวดา นางฟ้าที่เสวยสุขในสวรรค์ยังสามารถหมดอายุขัยได้ก่อนกำหนด เพราะเพลิดเพลินอยู่ในความสุข จนลืมรับประทานอาหารทิพย์ เรื่องนี้ผุดขึ้นมาแวบแรก เมื่อได้อ่านข่าวที่มีคนไหลตาย จากการเล่นเกมหน้าคอมพิวเตอร์ต่อเนื่องข้ามวันข้ามคืน เลยทำให้ฉุกคิดว่า ในชีวิตคนทำงานในปัจจุบัน เราก็จำเป็นต้องขลุกอยู่กับมันหลายพันชั่วโมงต่อปี อย่างนี้อาจมีโอกาสไหลตาย หรือเป็นโรคร้ายสะสม

         ดังนั้นสาวเวิร์กกิ้งทั้งหลาย จึงไม่ควรนิ่งนอนใจ ก่อนที่คุณอาจจะนอนไม่กลับ หลับไม่ตื่น จึงควรได้รู้ถึงผลกระทบ วิธีเซฟสุขภาพ จากจอคอมพ์และนี่คือข้อเท็จจริง

           1. การเล่นเกมคอมพิวเตอร์ ถ้าเล่นจนเกินขอบเขต เกินความพอดี อาจเป็นอย่างที่หนังสือพิมพ์ลงข่าวว่ามีนักศึกษา  เล่นเกมจนช็อกตายหรือไหลตายคาร้านอินเทอร์เน็ต

           2. กลุ่มคนที่มีโอกาสพบปัญหาไหลตายในอนาคต คือ เด็กวัยรุ่นที่เล่นเกมโดยไม่นอนทั้งคืน หรือคนทำงานที่เสพข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตแบบหามรุ่งหามค่ำบ่อยๆ ในทางการแพทย์เชื่อว่ามันเป็นโรคทางพันธุกรรม และเกิดจากการขาดวิตามินบางตัว และส่วนหนึ่งเกิดจากร่างกายทำงานหนักเกินจะรับไม่ไหว จากสถิติพบว่าคนในวัยกลางคนที่มีพฤติกรรมเช่นนี้ มีความเสี่ยงมากที่สุด

          3.การไหลตายหน้าจอคอมพิวเตอร์ เกิดด้วยสาเหตุรวมของการอดนอนมาก ๆ ขาดวิตามินบางตัวหรือสารอาหารบางตัว มีปัญหาโรคโดยไม่ทราบสาเหตุ ติดคอมพิวเตอร์คล้ายติดสิ่งเสพติดจนต้องเพิ่มขนาดปริมาณ เดี๋ยวอีก 10 นาทีจะนอน กลายเป็นตีสาม และ 6 โมงเช้าต้องตื่นกลางวันต้องทำงาน ก็ดื่มกาแฟไปมาก ๆ บางครั้งต้องใช้ยากระตุ้นประสาทเพื่อไม่ให้ง่วง ถ้ามีพฤติกรรมแบบนี้ คุณต้องคิดใหม่ทำใหม่ ด่วน!!!!

          4.ผลกระทบทางตรงของคอมพิวเตอร์ คือ ดวงตา อาจเกิดอาการเบลอๆ มองภาพไม่ชัดเจน ซึ่งเกิดชั่วคราวจากรังสีที่แผ่ออกจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ อาการที่เกิดขึ้นจากการมองจอภาพเป็นเวลานาน ๆ นี้เรียกว่า Computer Vision Syndrome (CVS) และเมื่อเราใช้คอมพิวเตอร์ไปนาน ๆ หรือเพ่งจอมาก ๆ จะทำให้รู้สึกว่าปวดตา อาจทำให้สายตา มีปัญหา เช่น สายตาสั้น จึงควรพักสายตา เมื่อใช้มันจ้องหน้าจอนาน ๆ จนเริ่มปวดตาควรหยุด โดยละสายตามองทางอื่น หรือลุกขึ้นไปเพื่อผ่อนคลายก่อน แล้วจึงลงมานั่งทำงานต่อ อย่าฝืนมากเกินไปอาจจะเป็นผลเสียต่อตัวเอง

          5. เกิดอาการ Repetitive Strain Injury หรือ RSIซึ่งสามารถเป็นได้กับทุกส่วนของร่างกาย จากการนั่งทำงานหน้าเครื่องคอมพิวเตอร์แบบไม่ถูกสุขลักษณะ ตั้งแต่แขน, ข้อมือ, ข้อนิ้ว, แผ่นหลัง, ต้นคอ, หัวไหล่ และสายตา เนื่องจากอวัยวะส่วนที่มีปัญหาถูกวางค้าง ถูกทิ้งน้ำหนัก หรือกดทับนานๆ จนอักเสบ หากปล่อยไว้นานๆ อาจต้องผ่าตัดเอ็น ปัจจุบันมีบริษัทที่ได้พยายามผลิตเครื่องป้องกันอันตรายจากคอมพิวเตอร์ ที่มีผลต่อร่างกาย เช่น ทำให้เมาส์มีรูปทรงการใช้งานในแบบขนานเหมาะมือ ไม่เล็กหรือใหญ่จนเกินไป นอกจากนี้ยังมีการคิดค้นเพื่อสร้างโต๊ะวางคอมพิวเตอร์ และเก้าอี้นั่งพิมพ์ให้เหมาะสมกับร่างกาย ของใหม่อาจจะมีราคาแพงกว่าของทั่วไป แต่ก็คุ้มกว่าค่ารักษาพยาบาล และสุขภาพที่เสื่อมโทรม

           6. ในอเมริกาอาการของโรค RSI เป็นโรคที่เกิดจากการทำงานที่ มีตัวเลขสูงเป็นอันดับหนึ่งมีผู้ป่วยใหม่เพิ่มขึ้นในแต่   ละปีประมาณ 300,000 คน อัตราการเจริญเติบโตเพิ่มสูงขึ้นในแต่ละปี ประมาณ 20% พนักงานต้องขาดงานโดยเฉลี่ย 30 วันทำงานต่อปี แม้ขณะนี้ RSI จะยังไม่ใช่ปัญหาของสังคมไทย แต่คาดว่าอนาคตอันใกล้ คนไทยจะมีเปอร์เซ็นต์จาก อาการเจ็บป่วยเมื่อใช้คอมพิวเตอร์นาน ๆ มากขึ้น เพราะมีการใช้เทคโนโลยีที่เพิ่มขึ้นจนน่ากลัวในทุกกลุ่มคน
            
          7. ระวังจะเป็น Qwerty Tummyโรคที่ตั้งชื่อตามตัวอักษรชุดแรกบนแป้นคีย์บอร์ด ซึ่งอาจระบาดในที่ทำงานได้ หากว่าแป้นคีย์บอร์ดมีแบคทีเรีย สาเหตุเกิดจากอาหารเป็นพิษ โดยผู้ใช้รับประทานอาหารไปพร้อมกับใช้งานคีย์บอร์ด การ ศึกษาแสดงว่าคีย์บอร์ด เป็นแหล่งเพาะแบคทีเรียที่น่ากลัวด้วยคนทำงาน 1 ใน 10 ไม่เคยทำความสะอาดคีย์บอร์ด และ 20% ไม่เคยทำความสะอาดเมาส์ ขณะที่ 50%ไม่เคยทำความสะอาดคีย์บอร์ดภายในเวลาหนึ่งเดือน ดังนั้นจึงควรทำความสะอาด คีย์บอร์ดเป็นประจำไม่ให้เป็นแหล่งสะสมของเชื้อแบคทีเรีย ด้วยผ้าเนื้อนุ่มชุบน้ำหมาดๆ อย่างน้อยเดือนละครั้งเสมอ

          8. จัดระเบียบรัด (กุม) เพื่อระบบสุขภาพที่ดี ด้วยการสำรวจ ท่านั่งเวลาทำงานของตัวเอง ควรนั่งตัวตรง ห่างจากจอคอมพิวเตอร์ ประมาณ 18-24 นิ้ว เก้าอี้ที่ดีควรจะมีล้อ สามารถปรับพนักพิงได้ และต้องมีที่วางแขน โต๊ะควรจะมีพื้นที่ว่างสำหรับวางเครื่องมืออื่น ๆ ในการทำงาน และ สุดท้ายที่อยากตระหนักกันให้มากคือ อันตรายคลื่นลูกใหม่ที่มาจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า และหลอดภาพของจอคอมพิวเตอร์ เมื่อเราเปิดเครื่องใช้ก็จะมีรังสีแผ่ออกมา จึงไม่ควรนั่งใกล้จอเกินไป โดยเฉพาะเวลาใช้แล็ปท็อปซึ่งทำให้เราต้อง นั่งใกล้เครื่องมากกว่าพีซี ถ้าเป็นไปได้ให้ใช้แผ่นป้องกันรังสี หรือเลือกใช้จอคอมพิวเตอร์ที่ไม่แผ่พลังรังสีไฟฟ้าออกมา แม้ราคาจะแพงกว่า แต่ปลอดภัยกว่า หากไม่ใช้เครื่องก็ควรปิด โดยเฉพาะคอมพิวเตอร์ที่ตั้งอยู่ในห้องนอน
 
7 นิสัยเสียสุขภาพ ที่ควร ลด ละ เลิก

           ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ ๆ จอ
           ตั้งจอให้แสงสะท้อนเข้าตา
           อยู่หน้าจอโดยไม่ลุกเดิน
           วางคีย์บอร์ดผิดทิศทาง
           จ้องจอนาน ๆ
           นั่งหลังเกร็ง
           กินขนมหน้าคอมพิวเตอร์

          ภทภัยที่น่ากลัวและอันตรายที่สุดมักมากับความเงียบในรูปแบบของความเพลิด เพลิน ดังนั้นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับใครไม่อยากมีอันตรายผ่อนส่ง คือการรู้จักสำรวจตัวเองเป็นระยะด้วยการตรวจสุขภาพ และใช้เวลากับทุกอย่างรอบตัวอย่างสมดุล โดยเฉพาะอย่างยิ่งการกำจัดนิสัยเสีย ๆ จากความสุขที่ส่งผลต่อร่างกาย

ขอบคุณข้อมูลจาก ::  WAMAN PLUS


อย่ารีรอ !! เรื่องสุขภาพหน้าจออย่ารีรอ!!เรื่องสุขภาพหน้าจอ

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

 ประโยชน์ของการดื่มน้ำ

ประโยชน์ของการดื่มน้ำ


เปิดอ่าน 10,644 ครั้ง
วิธีต้มไข่ให้ปอกง่าย

วิธีต้มไข่ให้ปอกง่าย


เปิดอ่าน 25,254 ครั้ง
ความหมายยันต์

ความหมายยันต์


เปิดอ่าน 34,227 ครั้ง
8 นาที กับโยคะบนที่นอน

8 นาที กับโยคะบนที่นอน


เปิดอ่าน 11,999 ครั้ง

:: เรื่องปักหมุด ::

สุดยอด 5 ผลไม้บำรุงเลือด

สุดยอด 5 ผลไม้บำรุงเลือด

เปิดอ่าน 18,582 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
ยาสีฟันทำมาจากอะไร?
ยาสีฟันทำมาจากอะไร?
เปิดอ่าน 32,961 ☕ คลิกอ่านเลย

"โฉนดที่ดิน" เคลือบ เท่ากับ "ชำรุด"
"โฉนดที่ดิน" เคลือบ เท่ากับ "ชำรุด"
เปิดอ่าน 489 ☕ คลิกอ่านเลย

ประโยชน์ของมังคุด ราชินีแห่งผลไม้ไทยที่ต้องลิ้มลอง
ประโยชน์ของมังคุด ราชินีแห่งผลไม้ไทยที่ต้องลิ้มลอง
เปิดอ่าน 14,108 ☕ คลิกอ่านเลย

ไฟหมุนร้านตัดผมมีที่มาอย่างไร
ไฟหมุนร้านตัดผมมีที่มาอย่างไร
เปิดอ่าน 12,692 ☕ คลิกอ่านเลย

เผยอีโคไลตัวใหม่ ทนยาปฏิชีวนะ ถึงตายได้
เผยอีโคไลตัวใหม่ ทนยาปฏิชีวนะ ถึงตายได้
เปิดอ่าน 13,539 ☕ คลิกอ่านเลย

การปลูกต้นไม้ตามทิศ
การปลูกต้นไม้ตามทิศ
เปิดอ่าน 14,857 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

Chat & Hi5 อาจนำภัยถึงตัว
Chat & Hi5 อาจนำภัยถึงตัว
เปิดอ่าน 11,543 ครั้ง

ยาสระผมเข้าตาบ่อย ๆ เป็นอันตรายต่อดวงตามั้ย
ยาสระผมเข้าตาบ่อย ๆ เป็นอันตรายต่อดวงตามั้ย
เปิดอ่าน 30,536 ครั้ง

6 เหตุผลธรรมดา แต่เป็นเหตุผลหลักที่ทำให้คุณไม่รวยสักที
6 เหตุผลธรรมดา แต่เป็นเหตุผลหลักที่ทำให้คุณไม่รวยสักที
เปิดอ่าน 14,081 ครั้ง

ภูกระดึงเปิดฤดูท่องเที่ยว รับอากาศเย็น 1 ต.ค.นี้
ภูกระดึงเปิดฤดูท่องเที่ยว รับอากาศเย็น 1 ต.ค.นี้
เปิดอ่าน 9,666 ครั้ง

8 ตำรับใช้ข้าวเป็นยารักษาโรค
8 ตำรับใช้ข้าวเป็นยารักษาโรค
เปิดอ่าน 20,546 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ