ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมความรู้ทั่วไป  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

ล้างพิษตับ...ทำเพื่ออะไร?


ความรู้ทั่วไป 11 พ.ย. 2556 เวลา 08:57 น. เปิดอ่าน : 14,735 ครั้ง
ล้างพิษตับ...ทำเพื่ออะไร?

Advertisement

ล้างพิษตับ...ทำเพื่อ ?! (Lisa)

แม้สรรพคุณของการดีท็อกซ์ตับที่เล่าลือกันมาจะเลิศเว่อร์จนดูไม่น่าเชื่อถือ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเรื่องนี้ไม่จริง หรือไม่ดีนะ แต่ทำแล้วดีแค่ไหน? วิธีง่าย ๆ มีไหม? นพ.วัชชิระ ตีระพิพัฒนกุล ผู้อำนวยการศูนย์ตรวจสุขภาพโรงพยาบาลปิยะเวท มีคำตอบ

ทุกวันนี้ร่างกายคนเรารับสารพิษต่าง ๆ เข้าไปมากมาย ทั้งยาฆ่าแมลง สารกันบูด สารปรุงแต่งในอาหารต่าง ๆ เหล้า บุหรี่ แม้แต่ยารักษาโรคที่กินเข้าไปก็ถือเป็นสารพิษชนิดหนึ่งเหมือนกัน และหน้าที่หนึ่งของ "ตับ" ก็คือทำลายสารพิษ ดังนั้น เมื่อร่างกายมีสารพิษเยอะ ตับก็ต้องทำงานหนัก เราจึงต้องหันมาใจดูแลอวัยวะชิ้นนี้กันสักหน่อย

 ตับนั้น...สำคัญไฉน?

หน้าที่ของตับมีมากมายหลายร้อยอย่าง หลัก ๆ ก็จะเกี่ยวข้องกับการสร้างโปรตีน เม็ดเลือด ฮอร์โมน และน้ำดีที่จะช่วยในการย่อยอาหารจำพวกไขมัน การทำลายสารพิษต่าง ๆ ที่รับเข้ามา รวมถึงของเสียที่ร่างกายผลิตขึ้นมาเอง และการกักเก็บเลือด ไขมัน อาหารไว้ให้ร่างกายใช้ในยามจำเป็น ทำให้เราสามารถอดอาหารได้นานเป็นวัน ๆ

ถึงแม้ตับจะเป็นโรงงานทำลายสารพิษ แต่อย่าเข้าใจผิดว่าตับเป็นแหล่งสะสมของสารพิษนะคะ คุณหมอวัชชิระ ชี้ว่า เมื่อสารพิษเข้ามาในร่างกายก็จะไปอยู่ในเลือด ไม่ได้คั่งอยู่ตับ เมื่อเลือดพาสารพิษเข้ามากำจัด ตับก็จะแปรสภาพให้เป็นของที่ไม่เป็นพิษต่อร่างกาย ถ้าเป็นสารที่ละลายน้ำก็จะขับออกทางไตระบายไปเป็นเหงื่อและปัสสาวะ แต่ถ้าเป็นสารที่ไม่ละลายน้ำก็จะขับออกมาทางน้ำดี ผ่านมาทางลำไส้ใหญ่ ผสมปนออกไปกับอุจจาระ



 แล้วทำไมเรายังต้องดีท็อกซ์ตับ?

ร่างกายเรามีระบบกำจัดของเสียอยู่แล้ว แต่การดีท็อกซ์ก็เป็นเหมือนตัวช่วยที่จะเร่งกระบวนการนี้ให้เร็วขึ้น และให้เวลาตับได้ทำลายพิษเก่า ๆ ที่ตกค้างอยู่ในร่างกายมากขึ้น เนื่องจากทุกวันนี้เรารับสารพิษกันเข้าไปไม่หยุดหย่อน ในขณะที่ความสามารถของตับก็มีจำกัด เมื่ออัตราการทำลายไม่เท่ากับอัตราการรับ อาการเจ็บป่วยก็จะเกิดขึ้นได้




 ดีท็อกซ์ตับ...ทำได้ยังไง

สูตรการดีท็อกซ์ตับที่พูดถึงกันอย่างมากในช่วงนี้เป็นสูตรที่ผู้คิดค้นคือ คุณแก่นฟ้า แสนเมือง ได้ผสมผสานวิธีการล้างพิษในต่างประเทศกับภูมิปัญญาแพทย์แผ่นไทย มีการจัดเข้าแคมป์เพื่อดีท็อกซ์ตับโดยเฉพาะ กระบวนการทั้งหมดจะใช้เวลาประมาณ 6 วัน หลักการสำคัญแบ่งออกเป็น 3 ขั้นตอนคือ

1. ในช่วง 4 วันแรกอดอาหาร ดื่มเพียงเครื่องดื่มที่ไม่มีมาก และดื่มน้ำลิดท็อกซ์ (เครื่องดื่มสมุนไพรชนิดหนึ่ง) แทนอาหาร

2. ทำการสวนล้างลำไส้จนแน่ใจว่าไม่มีอะไรตกค้างแล้ว

3. ดื่มน้ำดีเกลือ และในช่วงเวลาที่ท่อน้ำดีเปิดกว้างที่สุดตามนาฬิกาชีวิต (22.00 น.) ให้ดื่มน้ำมันมะกอก 150 ซี.ซี. ผสมน้ำมะนาว 150 ซี.ซี. และดีท็อกซ์ออกในช่วงเช้าของวันรุ่งขึ้น เมื่อในลำไส้ไม่มีสิ่งตกค้าง จึงเชื่อกันว่าสิ่งที่ออกมานั้นน่าจะออกมาจากตับและถุงน้ำดี



 ทำตามสูตรนี้แล้วดีแค่ไหน?

เราคงปฏิเสธไม่ได้ว่าวิธีการนี้ก็เป็นหนึ่งในการแพทย์ทางเลือกที่ได้ผลและน่าสนใจ ถ้าวิเคราะห์ตามหลักการทางวิทยาศาสตร์ สิ่งที่พอจะบอกได้ถึงประโยชน์ของการทำดีท็อกซ์ตามสูตรดังกล่าว เรื่องแรกก็คือ ผลจากการอดอาหาร เมื่อเราไม่กินอาหารก็หมายถึงเราจะงดรับสารพิษเข้าสู่ร่างกายไปโดยปริยาย เมื่อไม่มีพิษใหม่ ๆ ร่างกายก็จะกำจัดพิษตกค้างได้อย่างเต็มที่

เรื่องถัดมาก็คือ การดื่มน้ำมันมะกอก ทุกครั้งที่ร่างกายเราได้รับไขมัน ก็จะมีการส่งสัญญาณให้ตับผลิตน้ำดีออกมาเพื่อช่วยในการย่อย เมื่อดื่มน้ำมันมะกอกเข้าไปจำนวนมาก น้ำดีก็จะถูกผลิตออกมามาก และเนื่องจากตับจะขับสารพิษส่วนหนึ่งออกมาทางน้ำดี กระบวนการนี้จึงเหมือนกับเพิ่มการพาสารพิษออกจากร่างกายนั่นเอง อีกอย่างการที่น้ำดีถูกผลิตออกมามาก ๆ ยังทำให้ความเข้มข้นเปลี่ยนไป นิ่วในถุงน้ำดีที่เกิดจากการตกตะกอนของคอเลสเตอรอลก็จะละลาย มีขนาดเล็กลง หรือหายไปได้


 สรรพคุณไม่ได้ดีเลิศครอบจักรวาล

แม้แต่ผู้ที่จัดหลักสูตรล้างพิษตับเองยังเคยกล่าวไว้ว่า หลักสูตรนี้ไม่ใช่หลักสูตรรักษาคนป่วย คนป่วยควรจะไปหาหมอที่มีหน้าที่โดยตรง คนมาเข้าหลักสูตรต้องมีร่างกายแข็งแรงพอที่จะเข้าร่วมกิจกรรมได้ ดังนั้น อย่าคาดหวังว่าการดีท็อกซ์ตับจะสามารถช่วยเหลือคุณได้ทั้งหมด ประโยชน์ของการดีท็อกซ์ตับยังไม่มีการค้นคว้าวิจัยอย่างจริงจัง และยังไม่มีการพิสูจน์ในเชิงวิทยาศาสตร์

ในเรื่องของสิ่งที่ออกมาหลังจากการดีท็อกซ์ที่มาระบุว่าอันนี้เป็นนิ่ว อันนั้นเป็นมะเร็งนั้น คุณหมอวัชชิระบอกว่า ท่อน้ำดีของคนเราที่ใหญ่ที่สุดมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1 เซนติเมตรเท่านั้น ไม่มีทางที่ก้อนใหญ่ ๆ ที่เราเห็นจะเป็นนิ่วที่หลุดมาจากถุงน้ำดีได้ น่าจะเป็นผลของปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นจากสิ่งที่เรากินเข้าไปต่างหาก การที่คนมีนิ่วในถุงน้ำดีแล้วนิ่วหายไปหลังจากดีท็อกซ์ น่าจะเป็นเพราะนิ่วนั้นละลายไปมากกว่าจะหลุดออกมาทั้งก้อน และบางคนที่ไม่มีมีนิ่วในถุงน้ำดีเลย เมื่อกินสิ่งที่เขาให้กินตามสูตรก็จะออกมาลักษณะอย่างนั้น เช่นนั้น

ส่วนกรณีที่มีคนไข้หายจากมะเร็งนั้นก็ไม่ได้หมายความว่าก้อนมะเร็งหลุดออกมาจากการดีท็อกซ์ต้องเข้าใจก่อนว่าปกติทุกคนมีเซลล์มะเร็งเกิดขึ้นในตัวทุกวันอยู่แล้ว แต่ร่างกายเราจัดการไม่ได้ มะเร็งจึงเติบโตขึ้นมา มีความเป็นไปได้ว่าเมื่อล้างพิษออกไปแล้วสุขภาพก็ดีขึ้น ภูมิต้านทานของร่างกาย ก็แข็งแรงจนสามารถจัดการกับเซลล์มะเร็งได้

 ดูน่ากลัว...แต่เป็นเรื่องปกติ

หลังจากเห็นสิ่งที่ออกมาจากการดีท็อกซ์หลายคนอาจจะถึงกับช็อกกับภาพของเสียที่เห็นและกลิ่นเหม็นที่รุนแรง คุณหมอบอกว่ารูปลักษณ์และกลิ่นแย่ ๆ ของสิ่งที่ออกมานั้นเป็นเพราะกระบวนการย่อยยังไม่เสร็จสิ้น เราก็ไปสวนล้างลำไส้เร่งให้เขาออกมา มันถึงดูน่ากลัวว่าอุจจาระตามปกติหลายเท่า แต่ไม่ได้หมายความว่าอวัยวะข้างในของเราเน่าหรือสกปรกแต่อย่างใด
 

ขอบคุณที่มาจาก นิตยสาร Lisa


ล้างพิษตับ...ทำเพื่ออะไร?

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

10 วิธีบำบัดเด็กสมาธิสั้น

10 วิธีบำบัดเด็กสมาธิสั้น


เปิดอ่าน 17,994 ครั้ง
วิธีดูแลรักษาโซฟาหนัง

วิธีดูแลรักษาโซฟาหนัง


เปิดอ่าน 17,574 ครั้ง

:: เรื่องปักหมุด ::

เยือน "ศูนย์จราจรอัจฉริยะไทย" ที่ บก.02

เยือน "ศูนย์จราจรอัจฉริยะไทย" ที่ บก.02

เปิดอ่าน 11,752 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
8 วิธีถนอมหลังห่างไกลอาการปวด
8 วิธีถนอมหลังห่างไกลอาการปวด
เปิดอ่าน 14,609 ☕ คลิกอ่านเลย

เสียงร้องทารก บอก"อะไร"คุณแม่
เสียงร้องทารก บอก"อะไร"คุณแม่
เปิดอ่าน 92,874 ☕ คลิกอ่านเลย

ฟื้นฟูอารมณ์ดีๆ ด้วยของกินสีส้ม
ฟื้นฟูอารมณ์ดีๆ ด้วยของกินสีส้ม
เปิดอ่าน 15,162 ☕ คลิกอ่านเลย

คุณมีความลับในการใช้งานคอมพิวเตอร์หรือไม่
คุณมีความลับในการใช้งานคอมพิวเตอร์หรือไม่
เปิดอ่าน 11,015 ☕ คลิกอ่านเลย

21 ตุลาคม วันรักต้นไม้แห่งชาติ
21 ตุลาคม วันรักต้นไม้แห่งชาติ
เปิดอ่าน 14,191 ☕ คลิกอ่านเลย

Google Me เตรียมชนขาใหญ่ Facebook
Google Me เตรียมชนขาใหญ่ Facebook
เปิดอ่าน 8,153 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เทควันโด : ประโยชน์ของการเล่นกีฬาเทควันโด
เทควันโด : ประโยชน์ของการเล่นกีฬาเทควันโด
เปิดอ่าน 38,715 ครั้ง

เทคนิคการปลูกกล้วย ให้มีกลิ่นต่างๆ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มได้อย่างดี
เทคนิคการปลูกกล้วย ให้มีกลิ่นต่างๆ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มได้อย่างดี
เปิดอ่าน 19,935 ครั้ง

3 วิธีแกะกล่องพัสดุให้ปลอดภัยห่างไกลจากโควิด-19
3 วิธีแกะกล่องพัสดุให้ปลอดภัยห่างไกลจากโควิด-19
เปิดอ่าน 38,985 ครั้ง

10 มายากล เทคนิควิทยาศาสตร์ จำไว้ไปโชว์เพื่อนๆ
10 มายากล เทคนิควิทยาศาสตร์ จำไว้ไปโชว์เพื่อนๆ
เปิดอ่าน 64,490 ครั้ง

8 วิธี ฟื้นฟูจิตใจ
8 วิธี ฟื้นฟูจิตใจ
เปิดอ่าน 15,752 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ