ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
เรื่อง การพัฒนาและทดลองใช้แบบฝึกทักษะการอ่านเพื่อความเข้าใจภาษาอังกฤษ โดยใช้ เทคนิคกลุ่มร่วมมือกั

เรื่อง การพัฒนาและทดลองใช้แบบฝึกทักษะการอ่านเพื่อความเข้าใจภาษาอังกฤษ โดยใช้

เทคนิคกลุ่มร่วมมือกันเรียนรู้แบบแบ่งกลุ่มตามสัมฤทธิ์ผลทางการเรียน

(Student Teams – achievement Division : STAD) สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

ผู้ศึกษา นางทิชากร วงศรีลา

หน่วยงาน โรงเรียนเทศบาล ๑ (บ้านบัวใหญ่)

สังกัดเทศบาลเมืองบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา

ปีการศึกษา 2558

บทคัดย่อ

แบบฝึกทักษะมีความสำคัญมากต่อการจัดการเรียนรู้ เพื่อให้การจัดกิจกรรมการเรียนรู้มีประสิทธิภาพจึงต้องมีการพัฒนาแบบฝึกทักษะ การศึกษาค้นคว้าครั้งนี้มีความมุ่งหมาย 1) เพื่อพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านเพื่อความเข้าใจภาษาอังกฤษ โดยใช้เทคนิคกลุ่มร่วมมือกันเรียนรู้แบบแบ่งกลุ่มตามสัมฤทธิ์ผลทางการเรียน (Student Teams – achievement Division : STAD) สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อหาค่าดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะการอ่านเพื่อความเข้าใจภาษาอังกฤษ โดยใช้เทคนิคกลุ่มร่วมมือกันเรียนรู้แบบแบ่งกลุ่มตามสัมฤทธิ์ผลทางการเรียน (Student Teams – achievement Division : STAD) สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนที่เรียนด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านเพื่อความเข้าใจภาษาอังกฤษ โดยใช้เทคนิคกลุ่มร่วมมือกันเรียนรู้แบบแบ่งกลุ่มตามสัมฤทธิ์ผลทางการเรียน (Student Teams – achievement Division : STAD) สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6/1 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2558 ของโรงเรียนเทศบาล ๑ (บ้านบัวใหญ่) สังกัดเทศบาลเมืองบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา จำนวน 1 ห้องเรียน จำนวน 18 คน ซึ่งได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) ใช้เวลาในการทดลอง 15 ชั่วโมง (ไม่รวมเวลาที่ใช้ในการทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน)

เครื่องมือที่ใช้ ได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้จำนวน 15 แผน แบบฝึกทักษะ จำนวน 15 ชุด แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการอ่านเพื่อความเข้าใจภาษาอังกฤษ ชนิด 4 ตัวเลือก จำนวน 1 ฉบับ 40 ข้อ ซึ่งมีค่าความยาก (P) อยู่ระหว่าง 0.48 ถึง 0.70 และมีค่าอำนาจจำแนกอยู่ระหว่าง 0.26 ถึง 0.82 และมีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.97 สถิติที่ใช้ ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและการทดสอบสมมติฐานใช้ t-test (Dependent Samples)

ผลการศึกษาค้นคว้า พบว่า 1) แบบฝึกทักษะการอ่านเพื่อความเข้าใจภาษาอังกฤษ โดยใช้เทคนิคกลุ่มร่วมมือกันเรียนรู้แบบแบ่งกลุ่มตามสัมฤทธิ์ผลทางการเรียน (Student Teams – achievement Division : STAD) สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่ผู้รายงานสร้างขึ้นมีประสิทธิภาพ 89.56/91.94 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ 80/80 2) ดัชนีประสิทธิผลทางการเรียนเท่ากับ 0.7836 แสดงว่า ผู้เรียนมีทักษะการอ่านเพื่อความเข้าใจภาษาอังกฤษสูงขึ้นร้อยละ 78.36 3) นักเรียนที่เรียนด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านเพื่อความเข้าใจภาษาอังกฤษ โดยใช้เทคนิคกลุ่มร่วมมือกันเรียนรู้แบบแบ่งกลุ่มตามสัมฤทธิ์ผลทางการเรียน (Student Teams – achievement Division : STAD) สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

โดยสรุป การพัฒนาและทดลองใช้แบบฝึกทักษะการอ่านเพื่อความเข้าใจภาษาอังกฤษ โดยใช้เทคนิคกลุ่มร่วมมือกันเรียนรู้แบบแบ่งกลุ่มตามสัมฤทธิ์ผลทางการเรียน (Student Teams – achievement Division : STAD) สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีประโยชน์ต่อการพัฒนาการเรียนรู้ของครูและส่งผลให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนดีขึ้น และช่วยให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้ร่วมกัน มีปฏิสัมพันธ์ต่อกัน มีการช่วยเหลือซึ่งกันและกันระหว่างสมาชิกภายในกลุ่มที่นักเรียนแต่ละคนมีความแตกต่างกัน ไม่เห็นแก่ตัว โดยครูจะเป็นผู้คอยให้คำแนะนำปรึกษาในการเรียนอย่างใกล้ชิด นักเรียนจึงเกิดการเรียนรู้ที่ดีและมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนดีขึ้นด้วย

โพสต์โดย ทิชากร วงศรีลา : [7 ก.ค. 2559 เวลา 10:36 น.]
อ่าน [3835] ไอพี : 180.183.68.118
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โพสต์โดย

คุณ -

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 7,651 ครั้ง
แนะนำ 10 เครื่องมือดี ๆ ช่วยครูในการสอนออนไลน์
แนะนำ 10 เครื่องมือดี ๆ ช่วยครูในการสอนออนไลน์

เปิดอ่าน 10,322 ครั้ง
ล้างไก่กลับแพร่โรค หว่านเชื้อโรคทำให้อาหาร เป็นพิษไปทั่วครัว
ล้างไก่กลับแพร่โรค หว่านเชื้อโรคทำให้อาหาร เป็นพิษไปทั่วครัว

เปิดอ่าน 29,662 ครั้ง
คอลัมน์: การศึกษา: ถึงคิว...พักงาน(ยาว) "ผอ.สมศ." ปลดล็อก..."ประเมินภายนอกรอบ 4"!!
คอลัมน์: การศึกษา: ถึงคิว...พักงาน(ยาว) "ผอ.สมศ." ปลดล็อก..."ประเมินภายนอกรอบ 4"!!

เปิดอ่าน 16,879 ครั้ง
4 เกาะที่น่าไป หลังเกษียณอายุ
4 เกาะที่น่าไป หลังเกษียณอายุ

เปิดอ่าน 9,943 ครั้ง
แอสเพอร์เกอร์ซินโดรม อีกหนึ่งอาการที่ไม่ควรมองข้าม
แอสเพอร์เกอร์ซินโดรม อีกหนึ่งอาการที่ไม่ควรมองข้าม

เปิดอ่าน 13,143 ครั้ง
โลกออนไลน์แชร์คลิปดีๆ "ครูบุ๋ม" ชวนเด็กๆเต้น T26 ก่อนเรียนคาบแรก
โลกออนไลน์แชร์คลิปดีๆ "ครูบุ๋ม" ชวนเด็กๆเต้น T26 ก่อนเรียนคาบแรก

เปิดอ่าน 16,638 ครั้ง
TEPE Online มีอะไรดีๆ เยอนะ รู้จักกันหรือยัง?
TEPE Online มีอะไรดีๆ เยอนะ รู้จักกันหรือยัง?

เปิดอ่าน 15,134 ครั้ง
ดังใหญ่! คลิปล้อ iron man 3 ของแก๊งเฟดเฟ่ ฮาแล้วทั่วโลก
ดังใหญ่! คลิปล้อ iron man 3 ของแก๊งเฟดเฟ่ ฮาแล้วทั่วโลก

เปิดอ่าน 16,569 ครั้ง
อาหารอันตรายขณะท้องว่าง
อาหารอันตรายขณะท้องว่าง

เปิดอ่าน 34,807 ครั้ง
ย้อนอดีตสอนภาษาไทย : แจกลูก-สะกดคำ
ย้อนอดีตสอนภาษาไทย : แจกลูก-สะกดคำ

เปิดอ่าน 9,998 ครั้ง
ภาษาอังกฤษไม่แข็ง
ภาษาอังกฤษไม่แข็ง

เปิดอ่าน 3,599 ครั้ง
แนะนำอาหารสำหรับผู้ป่วยลองโควิด (Long COVID)
แนะนำอาหารสำหรับผู้ป่วยลองโควิด (Long COVID)

เปิดอ่าน 19,704 ครั้ง
ตู้เก็บของจำเป็นต้องมีสำหรับโรงเรียนบ้านนอกหรือไม่
ตู้เก็บของจำเป็นต้องมีสำหรับโรงเรียนบ้านนอกหรือไม่

เปิดอ่าน 27,180 ครั้ง
"จินตนาการ" สำคัญกว่า "ความรู้"
"จินตนาการ" สำคัญกว่า "ความรู้"

เปิดอ่าน 10,227 ครั้ง
หูป่วย! เพราะโลกใบนี้..
หูป่วย! เพราะโลกใบนี้..

เปิดอ่าน 136,704 ครั้ง
ประวัติย่อของคณิตศาสตร์ : กาลิเลโอ กาลิเลอี
ประวัติย่อของคณิตศาสตร์ : กาลิเลโอ กาลิเลอี
เปิดอ่าน 9,997 ครั้ง
สีแดงกับสมอง ความเชื่อมโยงอันน่าอัศจรรย์ที่คุณไม่เคยรู้
สีแดงกับสมอง ความเชื่อมโยงอันน่าอัศจรรย์ที่คุณไม่เคยรู้
เปิดอ่าน 16,902 ครั้ง
สุดทึ่ง นักโบราณคดีอึ้ง รูปปั้นนักรบเฝ้าสุสานจีน 7 พันตัว ถูกปั้น"ตามใบหน้าจริงแต่ละคน
สุดทึ่ง นักโบราณคดีอึ้ง รูปปั้นนักรบเฝ้าสุสานจีน 7 พันตัว ถูกปั้น"ตามใบหน้าจริงแต่ละคน
เปิดอ่าน 20,684 ครั้ง
ประโยชน์ของมะระ
ประโยชน์ของมะระ
เปิดอ่าน 64,375 ครั้ง
หลักภาษาไทย ฉันทลักษณ์
หลักภาษาไทย ฉันทลักษณ์

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ