ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
ผลการใช้ชุดกิจกรรมเรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD สำหรับนักเร

ชื่อเรื่อง ผลการใช้ชุดกิจกรรมเรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ โดยใช้กระบวนการ

เรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2

ผู้วิจัย นางนิตยา ไชยทองรักษ์

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อ 1) พัฒนาชุดกิจกรรมเรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 75/75 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนและหลังการใช้ ชุดกิจกรรมเรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่2 3) ศึกษาดัชนีประสิทธิผลของชุดกิจกรรมเรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 4) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่มีต่อการเรียนด้วยชุดกิจกรรมเรื่อง อัตราส่วนและร้อยร้อยละ โดยกระบวนการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/2 โรงเรียนมัธยมเทศบาลวัดท่าแพ สังกัดเทศบาลเมืองทุ่งสง อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2558 จำนวน 1 ห้องเรียน จำนวน 32 คน ได้มาโดยการสุ่มอย่างง่าย(Simple Random Sampling) โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยสุ่ม(Sampling Unit) เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลประกอบด้วย ชุดกิจกรรมเรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ใช้ชุดกิจกรรม โดยกระบวนการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อชุดกิจกรรมเรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบค่าทีแบบ Dependent Samples t-test ผลการวิจัยพบว่า

1. ชุดกิจกรรมเรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีประสิทธิภาพ 81.68/79.48 สูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ 75/75

2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนหลังเรียน ด้วยชุดกิจกรรมเรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิคSTAD สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

3. ดัชนีประสิทธิผลของชุดกิจกรรมเรื่อง เศษส่วน โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เท่ากับ 0.7153 หรือคิดเป็นร้อยละ 71.53

4. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่เรียนด้วยชุดกิจกรรมเรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD มีความพึงพอใจโดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด

โพสต์โดย แป๋ม : [23 ส.ค. 2559 เวลา 22:12 น.]
อ่าน [4127] ไอพี : 1.10.249.56
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โพสต์โดย

คุณ หมีด

  ความคิดเห็นที่ 1

ชุดกิจกรรมเรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ใช้ได้จริง และทำให้นักเรียนเข้าใจบทเรียนได้ดีขึ้นครั

วันที่โพสต์ [24 ส.ค. 2559 เวลา 11:09 น.] ไอพี : [119.42.81.222] หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 

โพสต์โดย

คุณ หนึ่ง

  ความคิดเห็นที่ 2

ครูใช้เทคนิคการการสอนพร้อมทั้งเครื่องมือในการจัดการเรียนรู้ นี่หละครับครูชำนาญการพิเศษ "เอาใจช่วยครับผม"

วันที่โพสต์ [24 ส.ค. 2559 เวลา 12:06 น.] ไอพี : [182.93.153.119] หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 

โพสต์โดย

คุณ หยาด

  ความคิดเห็นที่ 3

เป็นการวิจัยที่มีประโยชน์แก่ผู้เรียน ใช้ได้จริง และสามารถทำให้ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์เพิ่มขึ้น และทำให้ผู้เรียนเกิดความอยากเรียนรู้เพิ่มขึ้น

วันที่โพสต์ [24 ส.ค. 2559 เวลา 12:06 น.] ไอพี : [101.109.245.140] หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 

โพสต์โดย

คุณ หมวย

  ความคิดเห็นที่ 4

ชุดกิจกรรมเรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ใช้ได้จริง สุดยอดจริงๆ

วันที่โพสต์ [24 ส.ค. 2559 เวลา 12:11 น.] ไอพี : [182.93.204.188] หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 

โพสต์โดย

คุณ อ้อย

  ความคิดเห็นที่ 5

อัตราส่วนและร้อยละ เป็นกระบวนการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เข้าใจง่าย สามารถใช้ได้จริงค่ะ

วันที่โพสต์ [24 ส.ค. 2559 เวลา 12:12 น.] ไอพี : [101.109.245.140] หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 

โพสต์โดย

คุณ นพ

  ความคิดเห็นที่ 6

เป็นเรื่องที่ดีมีประโยชน์สำหรับนักเรียน

วันที่โพสต์ [24 ส.ค. 2559 เวลา 12:35 น.] ไอพี : [182.232.108.235] หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 

โพสต์โดย

คุณ นิต

  ความคิดเห็นที่ 7

รายงานการใช้ชุดกิจกรรมเรื่องอัตราส่วนและร้อยละเป็นการจัดกิจกรรมที่น่าสนใจเเละเหมาะสมกับผู้เรียนเป็นอย่างมาก

วันที่โพสต์ [25 ส.ค. 2559 เวลา 19:39 น.] ไอพี : [182.232.133.70] หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 

โพสต์โดย

คุณ -

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 12,182 ครั้ง
ลูกหมาเดินวนกินนม แบบกังหัน น่ารักมากครับ
ลูกหมาเดินวนกินนม แบบกังหัน น่ารักมากครับ

เปิดอ่าน 24,707 ครั้ง
เลค ฮิลเลอร์ ทะเลสาบสีชมพู ประเทศออสเตรเลีย
เลค ฮิลเลอร์ ทะเลสาบสีชมพู ประเทศออสเตรเลีย

เปิดอ่าน 9,547 ครั้ง
จริง...หรือ ?
จริง...หรือ ?

เปิดอ่าน 8,131 ครั้ง
วิธีลดหน้าท้องแบบเร่งด่วน เห็นผลเร็วจนใคร ๆ ก็ต้องทัก
วิธีลดหน้าท้องแบบเร่งด่วน เห็นผลเร็วจนใคร ๆ ก็ต้องทัก

เปิดอ่าน 55,706 ครั้ง
ใครว่าการเขียนด้วยลายมือนั้นล้าสมัย?
ใครว่าการเขียนด้วยลายมือนั้นล้าสมัย?

เปิดอ่าน 8,257 ครั้ง
การศึกษาไทยด้อยคุณภาพ....แล้วจะปฏิรูปอย่างไร?
การศึกษาไทยด้อยคุณภาพ....แล้วจะปฏิรูปอย่างไร?

เปิดอ่าน 14,977 ครั้ง
เกษตรทำเงิน : ปลูกสตรอเบอร์รี่แซมยางพารา แก้วิกฤติราคายางตกต่ำ
เกษตรทำเงิน : ปลูกสตรอเบอร์รี่แซมยางพารา แก้วิกฤติราคายางตกต่ำ

เปิดอ่าน 13,679 ครั้ง
ข่าวจริง! การใส่หน้ากากอนามัย ส่งผลร้ายต่อการทำงานของสมองของเด็กต่ำกว่า 12 ปี
ข่าวจริง! การใส่หน้ากากอนามัย ส่งผลร้ายต่อการทำงานของสมองของเด็กต่ำกว่า 12 ปี

เปิดอ่าน 15,455 ครั้ง
ติดกาแฟทั้งที อย่างนี้ต้องดื่มให้ฉลาด
ติดกาแฟทั้งที อย่างนี้ต้องดื่มให้ฉลาด

เปิดอ่าน 12,366 ครั้ง
ปรนัย-อัตนัย เรียงความ-ย่อความ
ปรนัย-อัตนัย เรียงความ-ย่อความ

เปิดอ่าน 3,961 ครั้ง
พกมือถือในกระเป๋ากางเกง หันหน้าเข้าหรือหันหน้าออกดี?
พกมือถือในกระเป๋ากางเกง หันหน้าเข้าหรือหันหน้าออกดี?

เปิดอ่าน 28,872 ครั้ง
อกคศ.เขตพื้นที่ฯ เลื่อนเงินเดือนครู : ต้อนคนเข้าพวก
อกคศ.เขตพื้นที่ฯ เลื่อนเงินเดือนครู : ต้อนคนเข้าพวก

เปิดอ่าน 12,148 ครั้ง
เกมลับสมองกับการศึกษาและความสำเร็จอื่น ๆ
เกมลับสมองกับการศึกษาและความสำเร็จอื่น ๆ

เปิดอ่าน 11,009 ครั้ง
8 เรื่องควรใส่ใจดูแล รถใช้ก๊าซ
8 เรื่องควรใส่ใจดูแล รถใช้ก๊าซ

เปิดอ่าน 13,076 ครั้ง
การเลี้ยงไก่ไข่
การเลี้ยงไก่ไข่

เปิดอ่าน 23,208 ครั้ง
การเขียนที่ถูกต้องของคำว่า "โรฮีนจา-เมียนมา" แทน "โรฮิงญา-เมียนมาร์"
การเขียนที่ถูกต้องของคำว่า "โรฮีนจา-เมียนมา" แทน "โรฮิงญา-เมียนมาร์"
เปิดอ่าน 21,659 ครั้ง
รู้จักวิตามิน H
รู้จักวิตามิน H
เปิดอ่าน 58,494 ครั้ง
การปฐมพยาบาล
การปฐมพยาบาล
เปิดอ่าน 2,735 ครั้ง
ศรีลังกาสั่งปิดโรงเรียน-หน่วยราชการ ให้จนท.ทำงานที่บ้านประหยัดน้ำมัน
ศรีลังกาสั่งปิดโรงเรียน-หน่วยราชการ ให้จนท.ทำงานที่บ้านประหยัดน้ำมัน
เปิดอ่าน 26,992 ครั้ง
เทคโนโลยี 3G คืออะไร
เทคโนโลยี 3G คืออะไร

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ