ชื่อเรื่อง การพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น เรื่อง พันธุกรรม
วิชาวิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
ผู้วิจัย นางมุนี ภวภูตานนท์ ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการ
สถานศึกษา โรงเรียนประชาพัฒนา สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 26
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมาย ดังนี้ 1) เพื่อพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น เรื่อง พันธุกรรม วิชาวิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น เรื่อง พันธุกรรม วิชาวิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน เรื่อง พันธุกรรม วิชาวิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่เรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น และ 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น เรื่อง พันธุกรรม วิชาวิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/2 ที่กำลังศึกษาในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2558 จำนวน 32 คน ในโรงเรียนประชาพัฒนา อำเภอวาปีปทุม จังหวัดมหาสารคาม สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 26 ได้มาโดยการสุ่มแบบแบ่งกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ 1) ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น เรื่อง พันธุกรรม วิชาวิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 6 ชุด มีค่าเฉลี่ยความเหมาะสมจากความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญ ตั้งแต่ 4.55 ถึง 4.66 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง พันธุกรรม วิชาวิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เป็นแบบเลือกตอบ ชนิด 4 ตัวเลือก จำนวน 40 ข้อ มีค่าความยากง่าย (P) ตั้งแต่ .28 ถึง .78 และค่าอํานาจจําแนก (B) ตั้งแต่ .29 ถึง .86 และมีค่าความเชื่อมั่น (rcc ) เท่ากับ .97 3) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อชุดกิจกรรมการเรียนรู้เรื่อง พันธุกรรม วิชาวิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เป็นแบบสอบถามชนิดมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ จำนวน 20 ข้อ มีค่าอำนาจจำแนกรายข้อตั้งแต่ .33 ถึง .78 และมีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ .91 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการเปรียบเทียบคะแนนก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยการทดสอบค่าที แบบไม่เป็นอิสระต่อกัน (t test Dependent)
ผลการวิจัยปรากฏดังนี้
1. ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น เรื่อง พันธุกรรม วิชาวิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้นมีประสิทธิภาพเท่ากับ 82.98/81.33 เป็นไปตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้
2. ดัชนีประสิทธิผลของชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น เรื่อง พันธุกรรม กลุ่มวิชาวิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้น มีค่าเท่ากับ 0.6063 หมายความว่า นักเรียนมีความรู้เพิ่มขึ้นหลังจากการเรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ร้อยละ 60.63
3. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียน ที่เรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น เรื่อง พันธุกรรม วิชาวิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
4. ความพึงพอใจของนักเรียนต่อการเรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะ
หาความรู้ เรื่อง พันธุกรรม วิชาวิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยภาพรวม นักเรียนมีความ
พึงพอใจอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า นักเรียนส่วนใหญ่พึงพอใจในด้านประโยชน์ที่ได้รับอยู่ในระดับมากเป็นลำดับที่หนึ่ง รองลงมาตามลำดับ คือ พึงพอใจในด้านการวัดและประเมินผลอยู่ในระดับมาก พึงพอใจในด้านกิจกรรมการเรียนการสอนอยู่ในระดับมาก พึงพอใจในด้านสื่อ/อุปกรณ์การเรียนอยู่ในระดับมาก และพึงพอใจในด้านเนื้อหาอยู่ในระดับมากเป็นลำดับสุดท้าย