ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การประเมินโครงการโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพ ของโรงเรียนโยธินบำรุง ปีการศึกษา 2558

ชื่อเรื่อง : การประเมินโครงการโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพ ของโรงเรียนโยธินบำรุง

ปีการศึกษา 2558

ชื่อผู้รายงาน : นายชัยมิตร วงศ์สวัสดิ์ รองผู้อำนวยการโรงเรียนโยธินบำรุง

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 12

ปีที่ประเมิน : ปีการศึกษา 2558

การประเมินโครงการโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพ ของโรงเรียนโยธินบำรุง ตำบลปากพูนอำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 12

ปีการศึกษา 2558 ใช้รูปแบบการประเมินแบบซิปป์ (CIPP Model) มีวัตถุประสงค์ (1) เพื่อประเมินสภาพแวดล้อมของโครงการโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพ (2) เพื่อประเมินปัจจัยของโครงการโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพ(3) เพื่อประเมินกระบวนการของโครงการโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพ (4) เพื่อประเมินผลผลิตของโครงการโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพ โรงเรียนโยธินบำรุงมีนักเรียนทั้งหมด 2,025 คน ครู 132 คน คณะกรรมการส่งเสริมสุขภาพโรงเรียนโยธินบำรุงจำนวน 15 คนซึ่งมาจากครูของโรเรียนโยธินบำรุง กำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างโดยกรณีทราบจำนวนประชากรที่แน่นอนที่ระดับความเชื่อมั่น 95% ค่าความคลาดเคลื่อน ± 5% ตาม แนวคิดของทาโร่ ยามาเน่ (Taro Yamane) (Yamane, Taro 1973 อ้างอิงในศิริพงศ์ พฤทธิพันธ์. 2553, น.203)กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการประเมิน ได้แก่ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพ จำนวน 5 คน คณะกรรมการส่งเสริมสุขภาพโรงเรียนโยธินบำรุง จำนวน 15 คน ครูโรงเรียนโยธินบำรุง จำนวน 91 คน นักเรียนโรงเรียนโยธินบำรุง จำนวน 1,079 คน ผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนโยธินบำรุง จำนวน 1,079 คน และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนโยธินบำรุง จำนวน 15 คน กำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างแบบแบ่งชั้นอย่างเป็นสัดส่วน (Proportionate Stratified Random Sampling) โดยใช้ระดับชั้นเรียนเป็นชั้นของการกำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่าง ได้กลุ่มตัวอย่างดังนี้ คือ นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 221 คน นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 210 คน นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 180 คน นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 150 คน นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 158 คน และนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 160 คน รวมกลุ่มตัวอย่างนักเรียนทั้งหมด 1,079 คน กำหนดกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจงเป็นผู้ปกครองของนักเรียนที่ได้รับการคัดเลือกเป็นกลุ่มตัวอย่าง และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนโยธินบำรุง จำนวน 15 คนกำหนดกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจงไม่นับรวมผู้อำนวยการโรงเรียน และตัวแทนครูในคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน รวมกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการประเมินครั้งนี้ จำนวน 2,284 คน โดยสถิติที่ใช้ในการประเมิน ได้แก่ หาค่าความสอดคล้อง (IOC) หาค่าความเชื่อมั่น (Reliability) และการหาค่าอำนาจจำแนก (r) เป็นการวิเคราะห์เพื่อหาคุณภาพของเครื่องมือ ส่วนสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ( ) และค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.)

สรุปผลการประเมิน

ผลการประเมินพบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมินทั้ง 4 ด้าน และตัวชี้วัดทั้ง 17 ตัวชี้วัด พบว่า ผ่านเกณฑ์ทุกตัวชี้วัด โดยมีรายละเอียดสรุปดังนี้

1. ผลการประเมินด้านสภาพแวดล้อมของโครงการ โดยการประเมิน 5 ตัวชี้วัด พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมินและอยู่ในระดับมาก และตัวชี้วัดทั้ง 5 ตัวชี้วัดมีดังนี้

1.1 ด้านความต้องการจำเป็นของโครงการ พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมินและอยู่ในระดับมาก

1.2 ด้านความเป็นไปได้ของโครงการ พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมินและอยู่ในระดับมาก

1.3 ด้านความเหมาะสมของวัตถุประสงค์ พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมินและอยู่ในระดับมาก

1.4 ด้านความเหมาะสมของการจัดกิจกรรมการเรียนรู้และกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพ พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมินและอยู่ในระดับมาก

1.5 ด้านความสอดคล้องกับนโยบายของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พบว่า ผ่านเกณฑ์ การประเมินและอยู่ในระดับมาก

2. ผลการประเมินด้านปัจจัยของโครงการโดยการประเมิน จำนวน 6 ตัวชี้วัด พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมินและในภาพรวมอยู่ในระดับดีมาก และตัวชี้วัดทั้ง 6 ตัวชี้วัดมีดังนี้

2.1 ด้านความพร้อมของบุคลากร พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมินและอยู่ในระดับมาก

2.2 ความเหมาะสมของงบประมาณ พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมินและอยู่ในระดับมาก

2.3 ความเหมาะสมของวัสดุ อุปกรณ์ เวชภัณฑ์และสื่อ พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมินและอยู่ในระดับมากที่สุด

2.4 ความเหมาะสมด้านระบบข้อมูลสารสนเทศ พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมินและอยู่ในระดับมากที่สุด

2.5 ความเหมาะสมด้านสถานที่ สภาพแวดล้อมและสาธารณูปโภค พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมินและอยู่ในระดับมากที่สุด

2.6 หน่วยงานที่สนับสนุน พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมินและอยู่ในระดับมาก

3. ผลการประเมินด้านกระบวนการดำเนินโครงการโดยการประเมิน 2 ตัวชี้วัด พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมิน และในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด และตัวชี้วัดทั้ง 2 ตัวชี้วัดมีดังนี้

3.1 ด้านกระบวนการดำเนินงานขั้นตอนสู่โรงเรียนส่งเสริมสุขภาพ พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมินและอยู่ในระดับมาก

3.2 ด้านกระบวนการดำเนินงานพัฒนาโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพ พบว่า ผ่านเกณฑ์ การประเมินและอยู่ในระดับมาก

4. ผลการประเมินด้านผลผลิตของโครงการ โดยการประเมินจำนวน 4 ตัวชี้วัด พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมินทั้ง 4 ตัวชี้วัด ในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด และตัวชี้วัด 4 ตัวชี้วัด มีดังนี้

4.1 ด้านผลการดำเนินงานโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพ พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมิน โดยอยู่ในระดับมาก

4.2 ด้านความรู้ความเข้าใจของนักเรียนด้านการส่งเสริมสุขภาพ พบว่า ผ่านเกณฑ์ การประเมินและอยู่ในระดับมาก

4.3 ความพึงพอใจต่อการดำเนินงานโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพ พบว่า ผ่านเกณฑ์ การประเมินและอยู่ในระดับมากที่สุด

4.4 สภาวะสุขภาพของนักเรียน พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมินและอยู่ในระดับมาก

5. ผลการประเมินโครงการ ในภาพรวมของโครงการโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพ พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมิน และอยู่ในระดับมาก โดยการประเมินทั้ง 4 ด้าน พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมิน และอยู่ในระดับมากที่สุด 2 ด้าน คือ ด้านผลผลิตของโครงการและด้านปัจจัยของโครงการ ระดับมาก 2 ด้าน คือ ด้านสภาพแวดล้อมของโครงการ และด้านกระบวนการดำเนินโครงการ และตัวชี้วัดทั้ง 17 ตัวชี้วัด พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมินทุกตัวชี้วัด โดยอยู่ในระดับมากที่สุด 4 ตัวชี้วัด และอยู่ในระดับมาก 13 ตัวชี้วัด

โพสต์โดย อดิศร อินทรสุวรรณ : [1 ม.ค. 2560 เวลา 12:42 น.]
อ่าน [4171] ไอพี : 182.53.97.36
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 13,871 ครั้ง
ชีวิตหลังเกษียณ (1)
ชีวิตหลังเกษียณ (1)

เปิดอ่าน 14,804 ครั้ง
วัดป่าที่แม่ฮ่องสอนดังทั่วโลก ต่างชาติแห่เรียนสมาธิปีละกว่า 2 พันคน
วัดป่าที่แม่ฮ่องสอนดังทั่วโลก ต่างชาติแห่เรียนสมาธิปีละกว่า 2 พันคน

เปิดอ่าน 18,739 ครั้ง
กำราบหวัดร้ายด้วยฟ้าทะลายโจร
กำราบหวัดร้ายด้วยฟ้าทะลายโจร

เปิดอ่าน 9,766 ครั้ง
หมดยุคหลอดไฟของ"โทมัส เอดิสัน"แล้ว
หมดยุคหลอดไฟของ"โทมัส เอดิสัน"แล้ว

เปิดอ่าน 9,754 ครั้ง
จามบ่อย ๆ เสี่ยงเป็นโรคไหมนะ
จามบ่อย ๆ เสี่ยงเป็นโรคไหมนะ

เปิดอ่าน 55,694 ครั้ง
ใครว่าการเขียนด้วยลายมือนั้นล้าสมัย?
ใครว่าการเขียนด้วยลายมือนั้นล้าสมัย?

เปิดอ่าน 938 ครั้ง
ประโยชน์ของการบริหารจิตและการเจริญปัญญา
ประโยชน์ของการบริหารจิตและการเจริญปัญญา

เปิดอ่าน 15,619 ครั้ง
8 เทคนิครักษาดอกกุหลาบให้อยู่ได้นานขึ้น
8 เทคนิครักษาดอกกุหลาบให้อยู่ได้นานขึ้น

เปิดอ่าน 13,910 ครั้ง
แนวทางการดำเนินงานตามนโยบายการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษา อนุบาล-จบการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปี2557
แนวทางการดำเนินงานตามนโยบายการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษา อนุบาล-จบการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปี2557

เปิดอ่าน 33,233 ครั้ง
ดอกไม้ประจำชาติอาเซียน
ดอกไม้ประจำชาติอาเซียน

เปิดอ่าน 33,921 ครั้ง
7 วิชาชีพที่สามารถย้ายแรงงานฝีมืออย่างเสรีในประชาคมอาเซียน
7 วิชาชีพที่สามารถย้ายแรงงานฝีมืออย่างเสรีในประชาคมอาเซียน

เปิดอ่าน 13,701 ครั้ง
ชมคลิป น้องปุ๊ กุลปรียา นักเรียนบุรีรัมย์ โชว์เล่านิทานไข่ทองคำยุคอาเซียน
ชมคลิป น้องปุ๊ กุลปรียา นักเรียนบุรีรัมย์ โชว์เล่านิทานไข่ทองคำยุคอาเซียน

เปิดอ่าน 13,228 ครั้ง
ชมคลิป ครูนครสวรรค์ แปลงร่างเป็นฮีโร่ เด็กๆ ชอบมาก
ชมคลิป ครูนครสวรรค์ แปลงร่างเป็นฮีโร่ เด็กๆ ชอบมาก

เปิดอ่าน 29,224 ครั้ง
infographic หลักการและแนวทางการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาและการบริหารราชการของกระทรวงศึกษาธิการในภูมิภาค
infographic หลักการและแนวทางการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาและการบริหารราชการของกระทรวงศึกษาธิการในภูมิภาค

เปิดอ่าน 10,614 ครั้ง
คลิปแชร์ต่อเมื่อพ่อต้องโกหกลูก (ชมคลิป)
คลิปแชร์ต่อเมื่อพ่อต้องโกหกลูก (ชมคลิป)

เปิดอ่าน 1,811 ครั้ง
นมฟลูออไรด์ ป้องกันฟันผุ
นมฟลูออไรด์ ป้องกันฟันผุ
เปิดอ่าน 18,707 ครั้ง
อันซีนเมอร์คิวรี "ดาวพุธ" ในมุมที่ชาวโลกไม่เคยเห็น
อันซีนเมอร์คิวรี "ดาวพุธ" ในมุมที่ชาวโลกไม่เคยเห็น
เปิดอ่าน 10,892 ครั้ง
12 สุขลักษณะ การนอนที่ดี
12 สุขลักษณะ การนอนที่ดี
เปิดอ่าน 10,734 ครั้ง
กรมอนามัย แนะผู้ป่วยลองโควิด-19 เน้นกิน "โปรตีน – โพรไบโอติกส์ – วิตามิน" ช่วยฟื้นฟูร่างกาย
กรมอนามัย แนะผู้ป่วยลองโควิด-19 เน้นกิน "โปรตีน – โพรไบโอติกส์ – วิตามิน" ช่วยฟื้นฟูร่างกาย
เปิดอ่าน 96,037 ครั้ง
ทฤษฎีพัฒนาการเชาน์ปัญญาของเพียเจต์
ทฤษฎีพัฒนาการเชาน์ปัญญาของเพียเจต์

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ