ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การประเมินโครงการนิเทศการปฏิบัติงานวิชาการแบบเสริมพลังในสถานศึกษาสังกัดอบจ.ขอนแก่น เพื่อยกระดับผลสัม

การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินโครงการนิเทศการปฏิบัติงานวิชาการแบบเสริมพลังในสถานศึกษา สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โดยใช้รูปแบบการประเมินแบบซิปป์ (CIPP Model) ของ Daneil L. Stufflebeam ประกอบไปด้วย 4 ด้าน คือ ด้านบริบท (Context) ด้านปัจจัยนำเข้า (Input) ด้านกระบวนการ (Process) และ ด้านผลผลิต (Product) เกี่ยวกับ 1. ผลสัมฤทธิ์ของโครงการนิเทศการปฏิบัติงานวิชาการแบบเสริมพลังในสถานศึกษา สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 2. สภาพผลการพัฒนาการปฏิบัติงานวิชาการในสถานศึกษา 3. ความพึงพอใจของครู ผู้บริหารสถานศึกษา คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ผู้ปกครอง และนักเรียนที่มีต่อของโครงการนิเทศการปฏิบัติงานวิชาการแบบเสริมพลังในสถานศึกษา สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน

กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย ผู้บริหารสถานศึกษา จากวิธีการเลือกแบบเจาะจง ข้าราชการครู คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน นักเรียนและผู้ปกครองนักเรียน จากวิธีสุ่มตัวอย่างแบบง่าย โดยการเปิดตารางของ R.V.Krejcie และ D.W.Morgan จำนวนรวม 1,142 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือ แบบสอบถามที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น และ แบบสัมภาษณ์ที่มีโครงสร้าง วิเคราะห์ข้อมูลทั้งเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ สถิติที่ใช้ในการศึกษาคือ ค่าร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย ( ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และค่า t-test โดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ทางสังคมศาสตร์ ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้

1. ด้านบริบท พบว่า นโยบาย และวัตถุประสงค์ของโครงการ ในภาพรวมมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูง 3 อันดับแรก คือ 1) การวางแผน กำหนดขอบเขตหน้าที่ของผู้รับผิดชอบโครงการประสานงานกับสถานศึกษาในสังกัด การจัดบรรยากาศให้เอื้อต่อการดำเนินโครงการ 2) วัตถุประสงค์ของโครงการสอดคล้องกับนโยบายการจัดการศึกษาท้องถิ่น และ 3) วัตถุประสงค์ของโครงการสอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ

2. ด้านปัจจัยนำเข้า พบว่า การจัดบุคลากร ทรัพยากร และปัจจัยสนับสนุนอื่น ๆ ในการดำเนินงานโดยภาพรวมมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูง 3 อันดับแรกคือ 1) โรงเรียนมีการสนับสนุนการจัดกิจกรรมการปฏิบัติงานวิชาการในสถานศึกษาอย่างหลากหลายและเหมาะสม 2) ระบบการบริหารจัดการส่งเสริมให้โครงการดำเนินการได้ และ 3) บุคลากรได้รับการสนับสนุน อบรม ศึกษาดูงานเกี่ยวกับการจัดกิจกรรมการปฏิบัติงานวิชาการในสถานศึกษา

3. ด้านกระบวนการ การประเมินการดำเนินงานโครงการ โดยภาพรวมมีความเหมาะสม อยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายกิจกรรมพบว่า การดำเนินโครงการที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดคือ การดำเนินงานด้านที่ 3 และเมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด 3 อันดับแรกคือ 1) การจัดกิจกรรมโครงการแต่ละกิจกรรมตามขั้นตอนที่กำหนด 2) มีการบันทึกผลการดำเนินกิจกรรมแต่ละกิจกรรมอย่างต่อเนื่องเป็นปัจจุบัน และ 3) การดำเนินการประเมินเป็นไปตามแผนและปฏิทินที่กำหนด

4. ด้านผลผลิต โดยภาพรวมมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายกิจกรรมพบว่า โดยภาพรวมมีความเหมาะสม อยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด 3 อันดับแรกคือ 1) จัดทำหลักสูตรให้เหมาะสมสอดคล้องกับสภาพความพร้อมของโรงเรียนเป็นสำคัญ 2) พัฒนาปรับปรุงวิธีการและรูปแบบการวัดผลประเมินผลให้เหมาะสมอยูเสมอ และ 3) ส่งเสริมสนับสนุนให้ครูปฏิบัติงานวิชาการด้วยการทำงานเป็นทีม จากผลสัมฤทธิ์ของโครงการ(Product) พบว่า

4.1 ผลสัมฤทธิ์ของโครงการนิเทศการปฏิบัติงานวิชาการแบบเสริมพลังในสถานศึกษา สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ผลการดำเนินงาน อยู่ในระดับดี

4.2 สภาพผลการพัฒนาการปฏิบัติงานวิชาการในสถานศึกษาสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น พบว่า ผลการเปรียบเทียบสภาพการปฏิบัติงานวิชาการในสถานศึกษาก่อนและหลังดำเนินโครงการมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 แสดงว่า หลังการเข้าร่วมโครงการนิเทศการปฏิบัติงานวิชาการในสถานศึกษา สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ผลการพัฒนาการปฏิบัติงานวิชาการในสถานศึกษามากขึ้น นั่นคือเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น

4.3 ความพึงพอใจต่อโครงการโดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด จากความคิดเห็นของครู นักเรียน ผู้ปกครองและคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน มีความพึงพอใจต่อโครงการอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด 3 อันดับแรกคือ 1) การดำเนินงานที่หน่วยงานศึกษานิเทศก์จัดขึ้นมีความหลากหลายน่าสนใจ 2) โครงการกระตุ้นความเอาใจใส่ในการปฏิบัติงานวิชาการ และ 3) การจัดกิจกรรมตามโครงการมีความเหมาะสม เนื่องจากโครงการนิเทศการปฏิบัติงานวิชาการแบบเสริมพลังในสถานศึกษา ส่งเสริมให้ครูพัฒนาการปฏิบัติงานวิชาการ ซึ่งส่งผลให้นักเรียนพัฒนาความสามารถในด้านการเรียนรู้ มีการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่ดีขึ้น ผู้ปกครองและชุมชนมีความพึงพอใจ ดังนั้น ควรจัดโครงการนิเทศการปฏิบัติงานวิชาการแบบเสริมพลังในสถานศึกษาเพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ

โพสต์โดย เทวา ตั้งวานิชกพงษ์ : [31 ม.ค. 2560 เวลา 21:46 น.]
อ่าน [3860] ไอพี : 110.78.151.219
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 81,096 ครั้ง
ที่มาของชื่อเดือนทั้ง 12 เดือนในภาษาอังกฤษ
ที่มาของชื่อเดือนทั้ง 12 เดือนในภาษาอังกฤษ

เปิดอ่าน 22,145 ครั้ง
บุญบั้งไฟ
บุญบั้งไฟ

เปิดอ่าน 13,816 ครั้ง
[Clip] เล็กๆ เปลี่ยนโลก : เคล็ดลับง่ายๆ บริหารสมองสองซีก จากการนับเลข 1-10
[Clip] เล็กๆ เปลี่ยนโลก : เคล็ดลับง่ายๆ บริหารสมองสองซีก จากการนับเลข 1-10

เปิดอ่าน 8,665 ครั้ง
ปรับฮวงจุ้ย รับหน้าฝน
ปรับฮวงจุ้ย รับหน้าฝน

เปิดอ่าน 14,588 ครั้ง
ดาวน์โหลดเอกสารประกอบการประชุมชี้แจง เรื่องแนวทางการปรับเงินเดือน ขรก.ที่ปรับใหม่
ดาวน์โหลดเอกสารประกอบการประชุมชี้แจง เรื่องแนวทางการปรับเงินเดือน ขรก.ที่ปรับใหม่

เปิดอ่าน 13,312 ครั้ง
เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของโลก 17 ประการ
เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของโลก 17 ประการ

เปิดอ่าน 11,669 ครั้ง
โลกต้องให้ความสำคัญกับครู (1)
โลกต้องให้ความสำคัญกับครู (1)

เปิดอ่าน 10,661 ครั้ง
สมุนไพรที่ช่วยบรรเทา ไข้หวัดใหญ่‏
สมุนไพรที่ช่วยบรรเทา ไข้หวัดใหญ่‏

เปิดอ่าน 32,240 ครั้ง
ถอดบทเรียน ครอบครัว-การศึกษา สร้าง “เด็ก” เเตกต่าง “เก่ง” ในทางของตัวเอง
ถอดบทเรียน ครอบครัว-การศึกษา สร้าง “เด็ก” เเตกต่าง “เก่ง” ในทางของตัวเอง

เปิดอ่าน 27,216 ครั้ง
คำอธิษฐานวันลอยกระทง
คำอธิษฐานวันลอยกระทง

เปิดอ่าน 9,783 ครั้ง
เตือนปั่นจักรยานหนักกระเทือน จนเป็นเหตุให้ "นกเขาไม่ขันได้"
เตือนปั่นจักรยานหนักกระเทือน จนเป็นเหตุให้ "นกเขาไม่ขันได้"

เปิดอ่าน 8,631 ครั้ง
ใช้ร้านเน็ตให้ปลอดภัย
ใช้ร้านเน็ตให้ปลอดภัย

เปิดอ่าน 14,951 ครั้ง
ทำความรู้จักโครงการประเมินผลนักเรียนนานาชาติ (PISA)
ทำความรู้จักโครงการประเมินผลนักเรียนนานาชาติ (PISA)

เปิดอ่าน 2,614 ครั้ง
ปลูกมะเขือเปราะกี่วันเก็บได้
ปลูกมะเขือเปราะกี่วันเก็บได้

เปิดอ่าน 33,733 ครั้ง
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 15 การเตะโทษ ณ จุดโทษ
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 15 การเตะโทษ ณ จุดโทษ

เปิดอ่าน 10,030 ครั้ง
ใช้ฟุตบอลเป็นยา กระตุ้นฟื้นความทรงจำคนไข้สมองเสื่อม
ใช้ฟุตบอลเป็นยา กระตุ้นฟื้นความทรงจำคนไข้สมองเสื่อม
เปิดอ่าน 11,552 ครั้ง
โรคทางใจที่ควรรู้ไว้พิจารณา >> ว.วชิรเมธี
โรคทางใจที่ควรรู้ไว้พิจารณา >> ว.วชิรเมธี
เปิดอ่าน 17,415 ครั้ง
แต่งบ้านเรียกทรัพย์
แต่งบ้านเรียกทรัพย์
เปิดอ่าน 11,815 ครั้ง
รสชาติแบบไหนดีต่อสุขภาพ
รสชาติแบบไหนดีต่อสุขภาพ
เปิดอ่าน 12,174 ครั้ง
เปิดเทอมทั้งที "ของดี ๆ" ในกระเป๋าหายหมด
เปิดเทอมทั้งที "ของดี ๆ" ในกระเป๋าหายหมด

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ