ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
รายงานผลการใช้หนังสือส่งเสริมการอ่านภาษาอังกฤษ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่1

ชื่อเรื่อง รายงานผลการใช้หนังสือส่งเสริมการอ่านภาษาอังกฤษ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่1

ชื่อผู้ศึกษา นางสุภาวดี เกลี้ยงทอง ตำแหน่งครู วิทยฐานะชำนาญการ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๑๙ จังหวัดนครศรีธรรมราช อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช สำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ

ปีที่ศึกษา 2559

บทคัดย่อ

การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อหาค่าประสิทธิภาพของหนังสือส่งเสริมการอ่านภาษาอังกฤษ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ของโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๑๙ จังหวัดนครศรีธรรมราช ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ด้านความเข้าใจในการอ่านภาษาอังกฤษ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาศึกษาปีที่ 1 ก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้หนังสือส่งเสริมการอ่านภาษาอังกฤษ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 3) เพื่อหาค่าดัชนีประสิทธิผลของการเรียนรู้โดยใช้หนังสือส่งเสริมการอ่านภาษาอังกฤษ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1

กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ใช้วิธีเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง เป็นนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/2 โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๑๙ จังหวัดนครศรีธรรมราช สำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2559 จำนวน 32 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ 1) หนังสือส่งเสริมการอ่านภาษาอังกฤษ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 7 เรื่อง 2) แผนการจัดการเรียนรู้ประกอบการใช้หนังสือส่งเสริมการอ่านภาษาอังกฤษ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จำนวน 20 ข้อ รูปแบบการศึกษาเป็นการศึกษาเชิงทดลอง ใช้รูปแบบ One Group Pretest Posttest Design ( หนึ่งกลุ่มสอบก่อนเรียน – หลังเรียน) วิเคราะห์ข้อมูลโดย 1) การหาค่าประสิทธิภาพของหนังสือส่งเสริมการอ่านภาษาอังกฤษ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ตามเกณฑ์ 80/80 คำนวณจากสูตร E1 / E2 2) การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้ก่อนเรียนและหลังเรียน วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้การทดสอบค่าที (t-test) แบบ Dependent Sample 3) การตรวจสอบคุณภาพของแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าดัชนีความสอดคล้อง (IOC) ค่าความยาก (p) ค่าอำนาจจำแนก (r ) ค่าความเชื่อมั่น ( rtt ) และ 4) การหาค่าดัชนีประสิทธิผลการเรียนรู้ใช้สูตรในการคำนวณ ดังนี้

E.I. = คะแนนทดสอบหลังเรียน - คะแนนทดสอบก่อนเรียน

(จำนวนนักเรียนทั้งหมด x คะแนนเต็ม) - คะแนนทดสอบก่อนเรียน

ผลการศึกษาพบว่า

1.หนังสือส่งเสริมการอ่านภาษาอังกฤษ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่1 ที่ผู้ศึกษาสร้างขึ้น มีประสิทธิ ภาพเท่ากับ 81.34/81.72 สูงกว่าเกณฑ์ 80/80

2.นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่เรียนโดยใช้หนังสือส่งเสริมการอ่านภาษาอังกฤษ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0 .01

3.ค่าดัชนีประสิทธิผลของการเรียนรู้โดยใช้หนังสือส่งเสริมการอ่านภาษาอังกฤษ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีค่า 0.63 แสดงว่า นักเรียนมีความรู้เพิ่มขึ้นร้อยละ 63

โพสต์โดย แหม่ม : [11 ก.พ. 2560 เวลา 20:13 น.]
อ่าน [3703] ไอพี : 118.173.254.30
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 19,907 ครั้ง
โรคของเส้นผม ขน และเล็บ
โรคของเส้นผม ขน และเล็บ

เปิดอ่าน 9,972 ครั้ง
สตอเรจแก้วเก็บข้อมูลได้หลายร้อยล้านปี
สตอเรจแก้วเก็บข้อมูลได้หลายร้อยล้านปี

เปิดอ่าน 404,243 ครั้ง
ดาวน์โหลด แบบฝึกเพื่อพัฒนาทักษะการคิดเลขเร็ว ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6
ดาวน์โหลด แบบฝึกเพื่อพัฒนาทักษะการคิดเลขเร็ว ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6

เปิดอ่าน 37,199 ครั้ง
การทำระบบน้ำสำหรับการเกษตร และวิธีการติดตั้งที่ดี
การทำระบบน้ำสำหรับการเกษตร และวิธีการติดตั้งที่ดี

เปิดอ่าน 11,541 ครั้ง
Google จัดอันดับคำค้นฮิตปี 52
Google จัดอันดับคำค้นฮิตปี 52

เปิดอ่าน 10,393 ครั้ง
จดหมายฉบับที่ 57 ถึงนายกรัฐมนตรี+รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง จุดเด่นการใช้มาตรา 44
จดหมายฉบับที่ 57 ถึงนายกรัฐมนตรี+รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง จุดเด่นการใช้มาตรา 44

เปิดอ่าน 16,445 ครั้ง
จระเข้เขมือบครูฝึกทั้งเป็น ที่เป็นข่าว
จระเข้เขมือบครูฝึกทั้งเป็น ที่เป็นข่าว

เปิดอ่าน 33,693 ครั้ง
การลาศึกษาต่อต่างประเทศ
การลาศึกษาต่อต่างประเทศ

เปิดอ่าน 102,434 ครั้ง
เทคนิคเดลฟาย (Delphi technique)
เทคนิคเดลฟาย (Delphi technique)

เปิดอ่าน 16,172 ครั้ง
ฮือฮา! ดาวอังคารใกล้โลกที่สุดรอบ7ปี คืน14เม.ย.2557 เฉิดฉายกลางท้องฟ้าคู่ดวงจันทร์
ฮือฮา! ดาวอังคารใกล้โลกที่สุดรอบ7ปี คืน14เม.ย.2557 เฉิดฉายกลางท้องฟ้าคู่ดวงจันทร์

เปิดอ่าน 28,458 ครั้ง
เกลือในทะเล มาจากไหน?
เกลือในทะเล มาจากไหน?

เปิดอ่าน 45,185 ครั้ง
ลมบกและลมทะเล
ลมบกและลมทะเล

เปิดอ่าน 22,864 ครั้ง
วิธีเก็บไข่ให้ได้นานๆ
วิธีเก็บไข่ให้ได้นานๆ

เปิดอ่าน 11,027 ครั้ง
โซเชียลทำพิษ... 5 โรคฮิตของคนติดจอ
โซเชียลทำพิษ... 5 โรคฮิตของคนติดจอ

เปิดอ่าน 20,626 ครั้ง
เช็กสุขภาพ 12 ราศี พื้นดวงแบบนี้มีอะไรต้องระวัง
เช็กสุขภาพ 12 ราศี พื้นดวงแบบนี้มีอะไรต้องระวัง

เปิดอ่าน 11,084 ครั้ง
ปราบกลิ่นเท้าให้อยู่หมัด
ปราบกลิ่นเท้าให้อยู่หมัด
เปิดอ่าน 11,312 ครั้ง
ผลสำรวจพบคนใช้รถ50%เลือกซื้อรถในใจ
ผลสำรวจพบคนใช้รถ50%เลือกซื้อรถในใจ
เปิดอ่าน 14,906 ครั้ง
ลดสารพิษเพื่อสุขภาพด้วยสมุนไพร
ลดสารพิษเพื่อสุขภาพด้วยสมุนไพร
เปิดอ่าน 13,218 ครั้ง
qr code คืออะไร
qr code คืออะไร
เปิดอ่าน 2,016 ครั้ง
กรมอนามัย เตือน นมข้นหวานห้ามใช้เลี้ยงทารก ให้กินนมแม่อย่างเดียวต่อเนื่อง 6 เดือน ดีที่สุด
กรมอนามัย เตือน นมข้นหวานห้ามใช้เลี้ยงทารก ให้กินนมแม่อย่างเดียวต่อเนื่อง 6 เดือน ดีที่สุด

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ