ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การประเมินโครงการพัฒนาศักยภาพครูโดยใช้กระบวนการสร้างระบบพี่เลี้ยงของโรงเรียน สังกัดองค์การบริหารส่วน

ชื่อเรื่อง การประเมินโครงการพัฒนาศักยภาพครูโดยใช้กระบวนการสร้างระบบพี่เลี้ยงของ

โรงเรียนสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดสกลนคร

ปีที่วิจัย 2558-2559

ผู้วิจัย นางนภาพร ศรีมรกต ตำแหน่งศึกษานิเทศก์ วิทยฐานะศึกษานิเทศก์ชำนาญการพิเศษ

สำนักการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม อำเภอเมืองสกลนคร จังหวัดสกลนคร

บทคัดย่อ

การวิจัยประเมินโครงการพัฒนาศักยภาพครูโดยใช้กระบวนการสร้างระบบพี่เลี้ยงของโรงเรียนสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดสกลนคร วัตถุประสงค์ เพื่อวิจัยประเมินโครงการในด้านบริบท ด้านปัจจัยนำเข้า ด้านกระบวนการ และด้านผลลัพธ์ของโครงการ โดยในด้านนี้ได้ทำการประเมินใน 4 ด้าน คือ ด้านผลกระทบ ด้านประสิทธิผล ด้านความยั่งยืน และด้านการถ่ายทอดส่งต่อ

ประชากรที่ใช้ในการวิจัย จำนวน 78 คน คือ 1) กลุ่มครูครูผู้สอน จากโรงเรียน จำนวน 6 แห่ง โดยการคัดเลือกจากครูผู้สอนใน 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ จำนวน 48 คน คือ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี และ กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา 2) ผู้บริหารสถานศึกษา จำนวน 12 คน 3) ครูพี่เลี้ยง จำนวน 10 คน และ 4) อาจารย์พี่เลี้ยง จากคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร จำนวน 8 คน

เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประเมิน ประกอบด้วย 1) แบบสัมภาษณ์ความต้องการจำเป็นในการพัฒนาครู และการสัมภาษณ์แบบไม่เป็นทางการ 2) แบบสอบถามความรู้ความสามารถในการจัดการเรียนรู้ของครูก่อนและหลังการเข้าร่วมโครงการ 3) แบบสอบถามความคิดเห็นเกี่ยวกับ กระบวนการสร้างระบบพี่เลี้ยง (Mentoring System) 4) แบบประเมินคุณภาพแผนจัดการเรียนรู้ที่ส่งเสริมความสามารถด้านภาษา (Literacy) ความสามารถด้านคำนวณ (Numeracy) และความสามารถเชิงเหตุผล (Reasoning Ability) และ 5) แบบประเมินคุณภาพงานวิจัยเพื่อพัฒนาการเรียนการสอน (วิจัยในชั้นเรียน)

การวิเคราะห์ข้อมูล ข้อมูลที่ได้มีทั้งเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาคุณภาพของเครื่องมือวัดความเที่ยงตรง (ioc) ความถี่ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์เนื้อหา

ผลการประเมินโครงการ

1. ผลการประเมินด้านบริบท (Context Evaluation) พบว่า ครูส่วนใหญ่มีปัญหาในด้าน การจัดการเรียนการสอน การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ การพัฒนาสื่อและเทคโนโลยี และการทำวิจัยในชั้นเรียนเพื่อพัฒนาการเรียนการสอน และพบว่า ผู้บริหารสถานศึกษา ศึกษานิเทศก์ และคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร มีความพร้อมในการพัฒนาครูตามความต้องการ ขององค์การบริหารส่วนจังหวัดสกลนคร

2. ผลการประเมินด้านปัจจัยนำเข้า (Input Evaluation) พบว่า ครูผู้สอนที่เข้าร่วมโครงการมีความพร้อม และมีความสมัครใจที่จะพัฒนาวิชาชีพของตนเอง ซึ่งกระบวนการกำกับติดตามดูแลให้คำปรึกษา หรือกระบวนการระบบพี่เลี้ยง (Mentoring System) นั้นเปิดโอกาสให้ครูได้ร่วมพัฒนาจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ พัฒนานวัตกรรม ทดลองใช้ในชั้นเรียน ปรับปรุงพัฒนา เยี่ยมชั้นเรียนสะท้อนคิดร่วมกัน และจัดทำรายงานวิจัยในชั้นเรียน

3. ผลการประเมินด้านกระบวนการ (Process Evaluation) พบว่า การดำเนินงานโครงการเป็นไปตามแผนพัฒนาครู และ พบว่า ครูส่วนใหญ่มีความมั่นใจในการทำวิจัยในชั้นเรียนใช้วิธีการสอนและสื่อการเรียนรู้ เนื่องจากการติดตามดูแลของครูพี่เลี้ยง (Mentor) มีผลการประเมินในระดับดีถึง ดีเยี่ยม

4. ผลการประเมินด้านผลลัพธ์ (IEST: Evaluation) จากการประเมินผลลัพธ์ของโครงการ มีรายละเอียด ดังนี้

4.1 ด้านผลกระทบ (Impact Evaluation) พบว่า ผลที่ได้จากการดำเนินงานโครงการ ส่วนใหญ่มีความเห็นว่ามีความพอใจ โดยผู้เข้าร่วมโครงการส่วนใหญ่เห็นว่า ได้ประโยชน์หรือเกิดผลทางบวกมากกว่าทางลบ ส่งผลให้ครูสามารถสร้างผลงานทางวิชาการ หรือนวัตกรรมการเรียน การสอน มีการพัฒนาคุณภาพการศึกษาด้วยมิติความร่วมมือ ร่วมใจ ร่วมพัฒนาของครูพี่เลี้ยง สู่ครูผู้สอนเกิดครูมืออาชีพ เกิดเครือข่ายร่วมพัฒนาวิชาชีพ และเครือข่ายครูร่วมนิเทศ

4.2 ด้านประสิทธิผล (Effectiveness Evaluation) พบว่า ครู ผู้บริหารสถานศึกษา และศึกษานิเทศก์ส่วนใหญ่เข้ารับการฝึกอบรม และพัฒนาตามระยะเวลา และมีผลงานเป็นไปตามเกณฑ์ ที่กำหนด โดยผลงานส่วนใหญ่มีคุณภาพอยู่ในระดับดีเยี่ยม

4.3 ด้านความยั่งยืน (Sustainability Evaluation) พบว่า การดำเนินโครงการฯ ส่งผลให้ครูมีความมุ่งมั่น มีแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ มีความสามารถในการทำวิจัย แสวงหาความรู้จากแหล่งต่าง ๆ มีเครือข่ายสังคม (social network)

4.4 ด้านการถ่ายทอดส่งต่อ (Transportability Evaluation) พบว่า การดำเนินโครงการฯ ส่งให้มีการขยายผลเกิดระบบการนิเทศภายในที่เป็นระบบ โดยใช้กระบวนการนิเทศแบบพี่เลี้ยง กระบวนการนิเทศแบบสอนแนะ เกิดการเรียนรู้เทคนิคใหม่ๆ สามารถนำเทคนิคการเรียนการสอนใหม่ๆ สู่การพัฒนาผู้เรียน ทำให้การถ่ายทอดส่งต่อ และ องค์การบริหารส่วนจังหวัดสกลนคร จะนำรูปแบบหรือกระบวนการดำเนินงานโครงการในแต่ละกลุ่มไปดำเนินการต่อกับโรงเรียนในสังกัด

โพสต์โดย นางนภาพร ศรีมรกต : [28 มี.ค. 2560 เวลา 08:17 น.]
อ่าน [3675] ไอพี : 202.29.177.153
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 19,800 ครั้ง
มือถือและคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กควรอยู่ในห้องเรียนหรือไม่? โดย : ทีปกร วุฒิพิทยามงคล
มือถือและคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กควรอยู่ในห้องเรียนหรือไม่? โดย : ทีปกร วุฒิพิทยามงคล

เปิดอ่าน 14,409 ครั้ง
ที่แท้ ซีอิ๊ว ก็มีต้นกำเนิดจากน้ำปลาบ้านเรานี่เอง
ที่แท้ ซีอิ๊ว ก็มีต้นกำเนิดจากน้ำปลาบ้านเรานี่เอง

เปิดอ่าน 18,755 ครั้ง
อันซีนเมอร์คิวรี "ดาวพุธ" ในมุมที่ชาวโลกไม่เคยเห็น
อันซีนเมอร์คิวรี "ดาวพุธ" ในมุมที่ชาวโลกไม่เคยเห็น

เปิดอ่าน 47,435 ครั้ง
ประโยชน์ของคอมพิวเตอร์กราฟิก
ประโยชน์ของคอมพิวเตอร์กราฟิก

เปิดอ่าน 27,320 ครั้ง
จะซื้อกล้องดิจิตอล ต้องดูอะไรบ้าง
จะซื้อกล้องดิจิตอล ต้องดูอะไรบ้าง

เปิดอ่าน 16,984 ครั้ง
"จันทรุปราคา"กับ"ทางช้างเผือก" 15มิถุนาฯ-ค่ำคืนมองฟ้าสุดอัศจรรย์
"จันทรุปราคา"กับ"ทางช้างเผือก" 15มิถุนาฯ-ค่ำคืนมองฟ้าสุดอัศจรรย์

เปิดอ่าน 16,946 ครั้ง
อาถรรพณ์..สุวรรณภูมิ 12 พญายักษ์..ส่งพลังร้าย
อาถรรพณ์..สุวรรณภูมิ 12 พญายักษ์..ส่งพลังร้าย

เปิดอ่าน 16,855 ครั้ง
ฮอร์โมนเพศชายDHT-ต้นตอศีรษะล้าน
ฮอร์โมนเพศชายDHT-ต้นตอศีรษะล้าน

เปิดอ่าน 69,012 ครั้ง
รูปแบบการรายงานผลการวิจัยแบบเป็นทางการ
รูปแบบการรายงานผลการวิจัยแบบเป็นทางการ

เปิดอ่าน 20,883 ครั้ง
รูปแบบของผลการเรียนในโรงเรียน
รูปแบบของผลการเรียนในโรงเรียน

เปิดอ่าน 12,191 ครั้ง
รู้ทันแก๊งบัตรเครดิต ขโมยง่ายกว่า ATM
รู้ทันแก๊งบัตรเครดิต ขโมยง่ายกว่า ATM

เปิดอ่าน 11,441 ครั้ง
"ครู" ผู้เปลี่ยนชีวิต "ศิษย์"
"ครู" ผู้เปลี่ยนชีวิต "ศิษย์"

เปิดอ่าน 19,114 ครั้ง
วิธีแก้ปวดหลัง
วิธีแก้ปวดหลัง

เปิดอ่าน 23,876 ครั้ง
กระบอกน้ำสแตนเลสกับกระบอกน้ำอลูมิเนียม แบบไหนปลอดภัยมากที่สุด ?
กระบอกน้ำสแตนเลสกับกระบอกน้ำอลูมิเนียม แบบไหนปลอดภัยมากที่สุด ?

เปิดอ่าน 40,922 ครั้ง
14 ท่าโพสต์ถ่ายรูปง่ายๆ ถ่ายเมื่อไหร่ก็สวย
14 ท่าโพสต์ถ่ายรูปง่ายๆ ถ่ายเมื่อไหร่ก็สวย

เปิดอ่าน 9,457 ครั้ง
เสียงสะท้อนจากนิทานเรื่องมดน้อย ของลุงตู่ ต่อการปฏิรูปการศึกษา : โดย เพชร เหมือนพันธุ์
เสียงสะท้อนจากนิทานเรื่องมดน้อย ของลุงตู่ ต่อการปฏิรูปการศึกษา : โดย เพชร เหมือนพันธุ์
เปิดอ่าน 13,403 ครั้ง
ประวัติความเป็นมาของยางพารา
ประวัติความเป็นมาของยางพารา
เปิดอ่าน 12,128 ครั้ง
สี่ข้อควรระวังเพื่อการใช้ smartphone ที่ปลอดภัยกว่า
สี่ข้อควรระวังเพื่อการใช้ smartphone ที่ปลอดภัยกว่า
เปิดอ่าน 23,066 ครั้ง
ข้อห้ามของคนอกหัก
ข้อห้ามของคนอกหัก
เปิดอ่าน 12,152 ครั้ง
ทานผลไม้ ก็ช่วยป้องกันผมร่วงก่อนวัยได้
ทานผลไม้ ก็ช่วยป้องกันผมร่วงก่อนวัยได้

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ