ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
รายงานผลการใช้แบบฝึกทักษะเรื่องทศนิยมและเศษส่วนที่มีผลต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์โดยใช้เทคนิค

ชื่อผลงาน รายงานผลการใช้แบบฝึกทักษะเรื่องทศนิยมและเศษส่วนที่มีผลต่อผล

สัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์โดยใช้เทคนิค STAD ของนักเรียนชั้น

มัธยมศึกษาปีที่ 1

ชื่อผู้นำเสนอ นางนันทิยา  แวโน๊ะ

กลุ่มสาระการเรียนรู้ คณิตศาสตร์ ปีการศึกษา 2558

 

บทคัดย่อ

 

              รายงานผลการใช้แบบฝึกทักษะเรื่องทศนิยมและเศษส่วนที่มีผลต่อผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนคณิตศาสตร์โดยใช้เทคนิค STAD ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีวัตถุประสงค์เพื่อ พัฒนาแบบฝึกทกัษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ทศนิยมและเศษส่วน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่มี ประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 75/75 เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน ด้วยแบบ ฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ทศนิยมและเศษส่วน โดยใช้เทคนิค STAD สำหรับนักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 1 และศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่มีต่อแบบฝึกทักษะ คณิตศาสตร์ เรื่อง ทศนิยมและเศษส่วน โดยใช้เทคนิค STAD กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้น มธัยมศึกษาปีที่ 1/5 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2558  โรงเรียนสตรียะลา  อำเภอเมือง จังหวัดยะลา  จำนวน 32 คน ซ่ึงได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง(Purposive Sampling) ซ่ึงเป็นห้องที่ผูร้ายงาน รับผิดชอบในการสอน เครื่องมือที่ใช้ในการดำ เนินการ ประกอบด้วย 1)แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ทศนิยมและเศษส่วน โดยใช้เทคนิค STAD สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาศึกษาปีที่ 1 จำนวน 5 เล่ม  31 แบบฝึก 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง ทศนิยมและ เศษส่วน  ชั้นมัธยมศึกษาศึกษาปีที่ 1 เป็นแบบปรนัย  4  ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ  3) แผนการจัดการ เรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง ทศนิยมและเศษส่วน ชั้นมัธยมศึกษาศึกษาปีที่ 1 โดยใช้เทคนิค STAD จำนวน 5 แผน เวลา 20 ชั่วโมง และ 4) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ด้วยแบบฝึกทักษะ เรื่อง ทศนิยมและเศษส่วน โดยใช้เทคนิค STAD เป็นแบบ มาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดบั จำนวน 10 ข้อ สถิติที่ใช้ ได้แก่ ค่าเฉลี่ย (X)ค่าส่วน เบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) ค่าร้อยละ และค่าที (t-test)  

              สรุปผล 

             1. ประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะเรื่องทศนิยมและเศษส่วน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 พบว่า คะแนนระหว่างเรียน มีคะแนนเฉลี่ย 418.13 คิดเป็นร้อยละ 76.86  และคะแนนทดสอบหลังเรียนมี คะแนนเฉลี่ย 23.19  คิดเป็นร้อยละ 77.30  สรุปว่าประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะเรื่องทศนิยมและ เศษส่วนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1  มีประสิทธิภาพ

E1 / E2 = 76.86 / 77.30

             2. การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ ก่อนเรียนและหลังจัดกิจกรรม การเรียนรู้ เรื่องทศนิยมและเศษส่วน  ชั้นมัธยมศึกษาศึกษาปีที่ 1ด้วยแบบฝึกทักษะ โดยใช้เทคนิค STAD หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0 .01 

            3. ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาศึกษาปีที่ 1/5 ที่มีต่อที่การจัดการ เรียนรู้ดว้ยแบบฝึกทกัษะ เรื่อง ทศนิยมและเศษส่วน โดยใช้เทคนิค STAD  โดยรวมอยู่ในระดับมาก (X=4.45 , S.D =0.33)

โพสต์โดย นันท์ : [11 เม.ย. 2560 เวลา 09:14 น.]
อ่าน [3447] ไอพี : 202.29.178.250
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 12,329 ครั้ง
7 เคล็ดลับ รักษาความจำยืนยาว
7 เคล็ดลับ รักษาความจำยืนยาว

เปิดอ่าน 6,725 ครั้ง
ว่ากันว่า นี่คือจุดจบของคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ เมื่อมีเจ้านี่!! คอมพิวเตอร์ที่เสียบเข้าทีวีใช้ได้เลย
ว่ากันว่า นี่คือจุดจบของคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ เมื่อมีเจ้านี่!! คอมพิวเตอร์ที่เสียบเข้าทีวีใช้ได้เลย

เปิดอ่าน 96,301 ครั้ง
ความหมายของ e-Learning (โดย รศ.ดร.ถนอมพร เลาหจรัสแสง)
ความหมายของ e-Learning (โดย รศ.ดร.ถนอมพร เลาหจรัสแสง)

เปิดอ่าน 191,616 ครั้ง
เทคโนโลยี มีกี่ระดับอะไรบ้าง
เทคโนโลยี มีกี่ระดับอะไรบ้าง

เปิดอ่าน 8,839 ครั้ง
มากกว่า Like! เฟซบุ๊กเตรียมเปิดตัวปุ่ม "Want" เร็ว ๆ นี้
มากกว่า Like! เฟซบุ๊กเตรียมเปิดตัวปุ่ม "Want" เร็ว ๆ นี้

เปิดอ่าน 13,368 ครั้ง
โฮย่า ชนิดใหม่ พบขึ้นที่อุ้มผางแห่งเดียวในโลก
โฮย่า ชนิดใหม่ พบขึ้นที่อุ้มผางแห่งเดียวในโลก

เปิดอ่าน 20,242 ครั้ง
ลักษณะของช้างดี
ลักษณะของช้างดี

เปิดอ่าน 7,061 ครั้ง
ซูปเปอร์ไฮเวย์การศึกษา
ซูปเปอร์ไฮเวย์การศึกษา

เปิดอ่าน 81,732 ครั้ง
วิธีปฐมพยาบาลคนเป็นลม
วิธีปฐมพยาบาลคนเป็นลม

เปิดอ่าน 11,484 ครั้ง
ระวังนะ "ความร้อน" สามารถทำลายข้อมูลใน SSD ได้
ระวังนะ "ความร้อน" สามารถทำลายข้อมูลใน SSD ได้

เปิดอ่าน 15,931 ครั้ง
ปะการัง
ปะการัง

เปิดอ่าน 10,841 ครั้ง
ใช้คอมมากระวัง.. โรควุ้นในตาเสื่อม !!
ใช้คอมมากระวัง.. โรควุ้นในตาเสื่อม !!

เปิดอ่าน 10,247 ครั้ง
5 วิธีในการตกลงเจรจาในภาษาอังกฤษให้เป็นผลสำเร็จ
5 วิธีในการตกลงเจรจาในภาษาอังกฤษให้เป็นผลสำเร็จ

เปิดอ่าน 22,310 ครั้ง
สเตียรอยด์ (Steroids) คืออะไร ?
สเตียรอยด์ (Steroids) คืออะไร ?

เปิดอ่าน 74,379 ครั้ง
ถึงเวลาปลุก “จิตวิญญาณ” ความเป็น “ครู” ก่อนจะไปถึงการศึกษาไทย 4.0
ถึงเวลาปลุก “จิตวิญญาณ” ความเป็น “ครู” ก่อนจะไปถึงการศึกษาไทย 4.0

เปิดอ่าน 638 ครั้ง
การเรียนการสอนแบบ e-Learning
การเรียนการสอนแบบ e-Learning
เปิดอ่าน 8,101 ครั้ง
บิดซ้ายยืดขวา หยุดปวดจากคอมพิวเตอร์
บิดซ้ายยืดขวา หยุดปวดจากคอมพิวเตอร์
เปิดอ่าน 29,823 ครั้ง
เคล็ดลับการทอดไข่ดาวให้ฟองใหญ่น่ากิน
เคล็ดลับการทอดไข่ดาวให้ฟองใหญ่น่ากิน
เปิดอ่าน 54,760 ครั้ง
แผนที่แสดงอัตราการ ขาด-เกิน ข้าราชการครู/พนักงานราชการ (ภาพจังหวัด)
แผนที่แสดงอัตราการ ขาด-เกิน ข้าราชการครู/พนักงานราชการ (ภาพจังหวัด)
เปิดอ่าน 23,481 ครั้ง
มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ปี 58 ใน 7 สาขา 32 รายการ มีอะไรบ้าง คลิกเลย
มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ปี 58 ใน 7 สาขา 32 รายการ มีอะไรบ้าง คลิกเลย

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ