ชื่อ-ชื่อสกุลผู้ทำวิจัย : นางเบญจวรรณ ดาบทอง
ปีที่ศึกษาวิจัย : 2559
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ เป็นการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้แนวคิดการสอนแนะให้รู้คิด (Cognitive Guided Instruction: CGI) ร่วมกับรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือแบบกลุ่มช่วยรายบุคคล (Team Assisted Individualization: TAI) เรื่องการคูณและการหาร สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปี่ที่ 4 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โรงเรียนเทศบาล ๒ บ้านกะทู้ มีวัตถุประสงค์ของการวิจัย การพัฒนาในครั้งนี้ ผู้วิจัยมีวัตถุประสงค์ในการศึกษาดังนี้ 1) เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพของรูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้แนวคิดการสอนแนะให้รู้คิด(Cognitive Guide Instruction: CGI) ร่วมกับวิธีการการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค TAI เรื่อง การคูณและการหาร สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ก่อนและหลังใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้แนวคิดการสอนแนะให้รู้คิด(Cognitive Guide Instruction: CGI) ร่วมกับวิธีการการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค TAI เรื่อง การคูณและการหาร สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 3) เพื่อประเมินความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่มีต่อรูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้แนวคิดการสอนแนะให้รู้คิด(Cognitive Guide Instruction: CGI) ร่วมกับวิธีการการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค TAI เรื่อง การคูณและการหาร สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเทศบาล ๒ บ้านกะทู้ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2559 โรงเรียนเทศบาล ๒ บ้านกะทู้ สังกัดเทศบาลเมืองกะทู้ จำนวน 31 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยการสุ่ม (Sampling Unit) เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ รูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้แนวคิดการสอนแนะให้รู้คิด (Cognitive Guide Instruction: CGI) ร่วมกับวิธีการการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค TAI เรื่อง การคูณและการหาร สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ตามรูปแบบการเรียนการสอนวิชาคณิตศาสตร์ ITDSPIA Model แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การคูณและการหาร ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 และ แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่มีต่อการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้แนวคิดการสอนแนะให้รู้คิด (Cognitive Guide Instruction: CGI) ร่วมกับวิธีการการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค TAI
ผลการวิจัยพบว่า
1. รูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้แนวคิดการสอนแนะให้รู้คิด(Cognitive Guide Instruction: CGI) ร่วมกับวิธีการการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค TAI เรื่อง การคูณและการหาร สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ตามรูปแบบITDSPIA Model มีองค์ประกอบ คือ องค์ประกอบที่ 1 องค์ประกอบเชิงหลักการและวัตถุประสงค์ องค์ประกอบที่ 2 องค์ประกอบเชิงกระบวนการการเรียนการสอน และองค์ประกอบที่ 3 องค์ประกอบเชิงเงื่อนไขการนำรูปแบบไปใช้ กระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน ประกอบด้วย 6 ขั้นตอน โดยมีรายละเอียดดังนี้ ขั้นที่ 1 ขั้นเตรียมและนำเข้าสู่บทเรียน (Introduction) ขั้นที่ 2 ขั้นนำเสนอปัญหา (Topic presentation) ขั้นที่ 3 ขั้นการวิเคราะห์ข้อมูล (Data analysis) ขั้นที่ 4 ขั้นฝึกทักษะและการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ (Practical and Sharing) ขั้นที่ 5 ขั้นบูรณาการแนวคิดและเชื่อมโยงสู่ชีวิตประจำวัน (Integration) ขั้นที่ 6 ขั้นชื่นชมความสำเร็จ (Appreciation) โดยที่รูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้แนวคิดการสอนแนะให้รู้คิด (Cognitive Guide Instruction: CGI) ร่วมกับวิธีการการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค TAI เรื่องการคูณและการหาร สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่พัฒนาขึ้นมานั้นมีประสิทธิภาพของรูปแบบการเรียนการสอนเท่ากับ 85.67/88.17 สูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้
2. นักเรียนที่เรียนโดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้แนวคิดการสอนแนะให้รู้คิด (Cognitive Guide Instruction: CGI) ร่วมกับวิธีการการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค TAI เรื่อง การคูณและการหาร สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
3. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่มีต่อรูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้แนวคิดการสอนแนะให้รู้คิด (Cognitive Guide Instruction: CGI) ร่วมกับวิธีการการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค TAI เรื่อง การคูณและการหาร ทุกประเด็นอยู่ในระดับมาก (x̄ = 4.63)