ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนาการปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรม ตามค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการ โดยใช้นิทานเป็นฐานในการจัดประสบกา

ชื่องานวิจัย : การพัฒนาการปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรม ตามค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการ

โดยใช้นิทานเป็นฐานในการจัดประสบการณ์ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 1 โรงเรียนอนุบาล

บ้านศรีมงคล สังกัดเทศบาลเมืองหล่มสัก

ผู้วิจัย : นางชญานิศ บุตรศรี

ตำแหน่ง : ครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนอนุบาลบ้านศรีมงคล

ปีที่ทำวิจัย : ปีการศึกษา 2558

การวิจัยเรื่องการพัฒนาการปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรมตามค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการ โดยใช้นิทานเป็นฐานในการจัดประสบการณ์ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 1 โรงเรียนอนุบาลบ้านศรีมงคล สังกัดเทศบาลเมืองหล่มสัก เป็นการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) วัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนานิทานการปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรม ตามค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการ ในการจัดประสบการณ์ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 1 โรงเรียนอนุบาลบ้านศรีมงคล สังกัดเทศบาลเมืองหล่มสัก ก่อนและหลังการใช้ชุดกิจกรรมการเตรียมความพร้อมการการปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรม ตามค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการ 2) เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมการเตรียมความพร้อมการพัฒนานิทานการปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรมตามค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการ ในการจัดประสบการณ์ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 1 โรงเรียนอนุบาลบ้านศรีมงคล สังกัดเทศบาลเมืองหล่มสัก ก่อนและหลังการใช้ชุดกิจกรรมการเตรียมความการพัฒนาการปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรมตามค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการ มีประสิทธิภาพถึง 80/80 3) เพื่อพัฒนาชุดกิจกรรมการเตรียมความพร้อมการพัฒนานิทานการปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรม ตามค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการ ในการจัดประสบการณ์ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 1 โรงเรียนอนุบาลบ้านศรีมงคล สังกัดเทศบาลเมืองหล่มสัก ก่อนและหลังการทดลองใช้ชุดกิจกรรมการพัฒนานิทานการปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรมตามค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการ 4) เพื่อประเมินผลความสามารถการพัฒนาการปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรมตามค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการ ในการจัดประสบการณ์ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 1 โรงเรียนอนุบาลบ้านศรีมงคล สังกัดเทศบาลเมืองหล่มสัก แตกต่างกันหรือไม่และความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อการจัดประสบการณ์ด้วยนิทานการปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรม ตามค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการ ในการจัดประสบการณ์ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 1 โรงเรียนอนุบาลบ้านศรีมงคล สังกัดเทศบาลเมืองหล่มสัก กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยเป็นเด็กปฐมวัย ชาย-หญิง อายุระหว่าง 3-4 ปี ที่กำลังศึกษาอยู่ในชั้นอนุบาลปีที่ 1/3 ภาคเรียนที่ 1 ปการศึกษา 2558 โรงเรียนอนุบาลบ้านศรีมงคล สังกัดเทศบาลเมืองหล่มสัก จำนวน 22 คน ระยะเวลาในการทดลองโดยมีระยะเวลาในการทดลอง 14 สัปดาห์ สัปดาห์ละ 1 วัน ในวันอังคาร ในช่วงกิจกรรมเสริมประสบการณ์ เป็นเวลา 40 นาที โดยการเก็บข้อมูลจากแบบสังเกตพฤติกรรม ก่อนการทดลองในสัปดาห์ที่ 1 เก็บข้อมูลจากแบบสังเกตพฤติกรรม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย 1) แผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ ประกอบด้วย สาระการเรียนรู้ในเรื่อง เรื่องราวเกี่ยวกับตัวเด็ก เรื่องราวเกี่ยวกับบุคลและสถานที่แวดล้อมเด็ก ธรรมชาติรอบตัว และสิ่งต่าง ๆ รอบตัวเด็ก ได้แก่ ชุดนิทานการปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรม ตามค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการ โดยใช้นิทานเป็นฐานในการจัดประสบการณ์ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 1 โรงเรียนอนุบาลบ้านศรีมงคล สังกัดเทศบาลเมืองหล่มสัก จำนวน 20 เกม ที่ผ่านการตรวจหาค่าดัชนีความสอดคล้องจากผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 3 คน มีประสิทธิภาพเท่ากับ 1.00 2) แบบสัมภาษณ์ความคิดเห็นเกี่ยวกับผู้เกี่ยวข้องด้านการศึกษาครูผู้สอนปฐมวัยและผู้เชี่ยวชาญด้านชุดนิทานการปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรม ตามค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการ โดยใช้นิทานเป็นฐานในการจัดประสบการณ์ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 1 โรงเรียนอนุบาลบ้านศรีมงคล สังกัดเทศบาลเมืองหล่มสัก 3) แบบทดสอบประเมินความพร้อมชุดนิทานการปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรม ตามค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการ โดยใช้นิทานเป็นฐานในการจัดประสบการณ์ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 1 โรงเรียนอนุบาลบ้านศรีมงคล สังกัดเทศบาลเมืองหล่มสัก จำนวน 20 ข้อ วิเคราะห์ข้อมูลด้วยค่าสถิติร้อยละ (%) ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D) ค่า t-test แบบ dependent 4) แบบสอบถามความคิดเห็นที่มีต่อชุดนิทานการปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรม ตามค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการ โดยกำหนดตัวเลือกภาพหน้า 3 แบบ 1) หน้ายิ้ม เห็นด้วยมาก 2) หน้าเฉย เห็นด้วยปานกลาง 3) หน้าบึ้ง เห็นด้วยน้อย จำนวน 10 ข้อ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าทางสถิติร้อยละ(%) ค่า,S.D.แล้วนำเสนอแบบพรรณาความ มีค่า ความยากง่าย (p) อยู่ระหว่าง 0.68 - 0.86 และ มีค่าอำนาจจำแนก (r) อยู่ระหว่าง 0.27 - 0.97 และค่าความเชื่อมั่นรวมทั้งฉบับ มีค่าเท่ากับ 0.9960

ผลการวิจัยพบว่า

1. นักเรียนและทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องการให้มีการพัฒนาการปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรมตามค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการ โดยใช้นิทานเป็นฐานในการจัดประสบการณ์ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 1 โดยให้มีรูปแบบที่เหมาะสมวิธีการเล่านิทานให้มีหลากหลายวิธี เวลาในการปฏิบัติกิจกรรมที่นำมาใช้ในการพัฒนาการปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรมตามค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการ โดยใช้นิทานเป็นฐานในการจัดประสบการณ์ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 1 และชุดนิทานการปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรม ตามค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการ ยังสอดคล้องกับหน่วยการเรียนการสอนของหลักสูตรสถานศึกษา โดยเรียนรู้จากการปฏิบัติ โดยเรื่องที่นำมาพัฒนาการปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรมตามค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการ มีเนื้อหาจากความต้องการและความสนใจของนักเรียนเป็นสำคัญ ควรจัดกิจกรรมการเรียนการสอนทั้งในห้องเรียนและนอกห้องเรียนโดยยึดนักเรียนเป็นสำคัญและความแตกต่างระหว่างบุคคล

2. การหาค่าประสิทธิภาพชุดนิทานการปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรม ตามค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการ โดยใช้นิทานเป็นฐานในการจัดประสบการณ์ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 1 ประกอบด้วย นิทาน 12 เรื่อง มีค่าประสิทธิภาพรายเดี่ยว (Individual Tryout) เท่ากับ 80.57/83.33 ค่าประสิทธิภาพแบบกลุ่มเล็ก (Small Group Tryout) เท่ากับ 86.25/89.45 และชุดนิทานการปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรม ตามค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการ โดยใช้นิทานเป็นฐานในการจัดประสบการณ์ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 1 มีค่าประสิทธิภาพแบบภาคสนาม (Field Tryout) 83.93/85.25 ซึ่งสอดคล้องกับสมมติฐานการวิจัยข้อที่ 1

3. การใช้ชุดนิทานการปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรมตามค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการ โดยใช้นิทานเป็นฐานในการจัดประสบการณ์ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 1 ก่อนและหลังการทดลองใช้ชุดกิจกรรมการพัฒนานิทานการปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรม ตามค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการ มีคุณธรรมจริยธรรมดีมากขึ้น พบว่า นักเรียนส่วนใหญ่ให้ความสนใจ กระตือรือร้น รู้จักทำงานเป็นกลุ่มช่วยเหลือซึ่งกันและกันรู้จักยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่นมากขึ้น

4. ผลการประเมินความสามารถในการเตรียมความพร้อมชุดนิทานการปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรมตามค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการ โดยใช้นิทานเป็นฐานในการจัดประสบการณ์ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 1 แตกต่างกัน พบว่าคะแนนความสามารถในการเตรียมความพร้อมในแต่ละชุดนิทาน หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 และความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อชุดนิทานการปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรม ตามค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการ โดยใช้นิทานเป็นฐานในการจัดประสบการณ์ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 1 โดยภาพรวมเห็นด้วยในระดับมากเมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า ทุกด้านนักเรียนเห็นด้วยในระดับมากเช่นเดียวกันกล่าวคือนักเรียนมีความคิดเห็นว่าชุดนิทานการปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรมตามค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการ โดยใช้นิทานเป็นฐานในการจัดประสบการณ์ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 1 มีรูปแบบสวยงามที่น่าสนใจช่วยกระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้

โพสต์โดย ครูยุ : [26 ส.ค. 2560 เวลา 10:48 น.]
อ่าน [3716] ไอพี : 223.207.244.143
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 19,174 ครั้ง
กิน "มะรุม" ยับยั้งมะเร็งแพร่ลำไส้ใหญ่ได้ แต่กินดิบระวังตับพัง แนะนำให้ปรุงสุกก่อนรับประทาน
กิน "มะรุม" ยับยั้งมะเร็งแพร่ลำไส้ใหญ่ได้ แต่กินดิบระวังตับพัง แนะนำให้ปรุงสุกก่อนรับประทาน

เปิดอ่าน 14,992 ครั้ง
จดหมายฉบับที่ 47 ถึงนายกรัฐมนตรี+รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
จดหมายฉบับที่ 47 ถึงนายกรัฐมนตรี+รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ

เปิดอ่าน 14,471 ครั้ง
แฉ! ภัยร้านซ่อมคอมพ์ที่คุณต้องรู้
แฉ! ภัยร้านซ่อมคอมพ์ที่คุณต้องรู้

เปิดอ่าน 11,905 ครั้ง
ปรับระบบสอบคัดเลือกปีการศึกษา 2561"เคลียริ่งเฮาส์" สะเทือนสังคมไทย : ใครได้-ใครเสีย...?
ปรับระบบสอบคัดเลือกปีการศึกษา 2561"เคลียริ่งเฮาส์" สะเทือนสังคมไทย : ใครได้-ใครเสีย...?

เปิดอ่าน 20,465 ครั้ง
รวม ส.ค.ส.พระราชทานจากในหลวง อดีตจนถึงปัจจุบัน เป็นสิริมงคลคนไทยทุกคน
รวม ส.ค.ส.พระราชทานจากในหลวง อดีตจนถึงปัจจุบัน เป็นสิริมงคลคนไทยทุกคน

เปิดอ่าน 19,138 ครั้ง
ดูทีวีเวลานอน...ผู้ใหญ่เสี่ยงโรค-เด็กเสี่ยงโง่
ดูทีวีเวลานอน...ผู้ใหญ่เสี่ยงโรค-เด็กเสี่ยงโง่

เปิดอ่าน 20,845 ครั้ง
ปัญหาการศึกษาไทย...อยู่ตรงไหน?
ปัญหาการศึกษาไทย...อยู่ตรงไหน?

เปิดอ่าน 9,862 ครั้ง
เคล็ดลับเพื่อผิวสวยใสของสาววัย 20+
เคล็ดลับเพื่อผิวสวยใสของสาววัย 20+

เปิดอ่าน 14,252 ครั้ง
5 นิสัยของคนประสบความสำเร็จ
5 นิสัยของคนประสบความสำเร็จ

เปิดอ่าน 10,031 ครั้ง
ใช้ฟุตบอลเป็นยา กระตุ้นฟื้นความทรงจำคนไข้สมองเสื่อม
ใช้ฟุตบอลเป็นยา กระตุ้นฟื้นความทรงจำคนไข้สมองเสื่อม

เปิดอ่าน 11,681 ครั้ง
รัดผมตึง...ระวังโรคเครียด
รัดผมตึง...ระวังโรคเครียด

เปิดอ่าน 17,387 ครั้ง
[ อยากมีเงินเหลือ อ่านเลย! ] วิธีลดค่าไฟฟ้าเดือนละ 1 พันบาท
[ อยากมีเงินเหลือ อ่านเลย! ] วิธีลดค่าไฟฟ้าเดือนละ 1 พันบาท

เปิดอ่าน 17,482 ครั้ง
สร้าง logo Icon ใส่ใน Favorite
สร้าง logo Icon ใส่ใน Favorite

เปิดอ่าน 22,394 ครั้ง
ประวัติของทุเรียนในประเทศไทย
ประวัติของทุเรียนในประเทศไทย

เปิดอ่าน 16,254 ครั้ง
กรมแพทย์แผนไทยเผย 6โรคห้ามนวด
กรมแพทย์แผนไทยเผย 6โรคห้ามนวด

เปิดอ่าน 3,264 ครั้ง
คนกินเค็มต้องระวัง "โซเดียมในเลือดสูง"
คนกินเค็มต้องระวัง "โซเดียมในเลือดสูง"
เปิดอ่าน 12,996 ครั้ง
วิธีทาลิปกลอสให้สวย
วิธีทาลิปกลอสให้สวย
เปิดอ่าน 17,739 ครั้ง
รู้จัก 3 แมลงร้าย..พาหะนำโรค ที่แฝงตัวอยู่ใน “บ้าน”
รู้จัก 3 แมลงร้าย..พาหะนำโรค ที่แฝงตัวอยู่ใน “บ้าน”
เปิดอ่าน 7,770 ครั้ง
"ฟุตบอล"...สอนอะไร
"ฟุตบอล"...สอนอะไร
เปิดอ่าน 49,017 ครั้ง
ระบียบว่าด้วยการลาของข้าราชการ พ.ศ. 2535
ระบียบว่าด้วยการลาของข้าราชการ พ.ศ. 2535

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ