ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
รายงานการประเมินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านเพื่อยกผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โรงเรียนพญาเม็งราย ปีการศ

บทสรุปสำหรับผู้บริหาร

ชื่อเรื่อง: รายงานการประเมินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านเพื่อยกผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โรงเรียนพญาเม็งราย ปีการศึกษา 2559 เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 36

ผู้รายงาน: นางสาวพัชรินทร์ อิ่นคำ รองผู้อำนวยการโรงเรียนพญาเม็งราย

ปีการศึกษา 2559

การประเมินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านเพื่อยกผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โรงเรียนพญาเม็งราย ปีการศึกษา 2559 เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 36 มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมิน ด้านบริบท ด้านปัจจัยเบื้องต้น ด้านกระบวนการ ด้านผลกระทบ ประสิทธิผล ความยั่งยืน และการถ่ายทอดส่งต่อ โครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านเพื่อยกผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โรงเรียนพญาเม็งราย ปีการศึกษา 2559 เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 36 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการประเมินประกอบด้วย ผู้บริหารสถานศึกษา คณะครู คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน นักเรียน และผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนพญาเม็งราย รวมทั้งสิ้น 519 คน เครื่องมือที่ใช้ในการประเมินประกอบด้วย แบบสอบถามเพื่อประเมินด้านบริบท ปัจจัยเบื้องต้น กระบวนการ ผลกระทบ ประสิทธิผล ความยั่งยืน และการถ่ายทอดส่งต่อ ตลอดจนการตรวจสอบข้อมูลเอกสาร ของปีการศึกษา 2559 โรงเรียนพญาเม็งราย เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 36 วิเคราะห์ข้อมูลโดยค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน แปลผลจัดอันดับ และนำเสนอในรูปแบบตารางประกอบการบรรยาย ซึ่งสามารถสรุปผลการประเมิน ได้ดังนี้

ผลประเมินด้านบริบท (Context Evaluation) ของโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านเพื่อยกผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โรงเรียนพญาเม็งราย ปีการศึกษา 2559 เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 36 ตามความคิดเห็นของผู้บริหาร คณะกรรมการสถานศึกษาและคณะครู พบว่า ภาพรวมมีความสอดคล้องและความเหมาะสมระดับมาก มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.46 ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ 0.22 ผ่านเกณฑ์การประเมินที่กำหนดไว้ เมื่อพิจารณาแต่ละรายการ พบว่า โครงการมีความสอดคล้องกับนโยบายส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของกระทรวงศึกษาธิการ มีความสอดคล้องและความเหมาะสม ระดับมากที่สุด รองลงมาคือ วัตถุประสงค์ของโครงการสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ พันธกิจเป้าประสงค์ของโรงเรียน มีความสอดคล้องและความเหมาะสม ระดับมาก

ผลประเมินด้านปัจจัยเบื้องต้น (Input Evaluation) ของโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านเพื่อยกผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โรงเรียนพญาเม็งราย ปีการศึกษา 2559 เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 36 ตามความคิดเห็นของผู้บริหาร คณะกรรมการสถานศึกษาและคณะครู พบว่า ภาพรวมมีความเหมาะสม ระดับมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.55 ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ 0.21 ผ่านเกณฑ์การประเมินที่กำหนดไว้ เมื่อพิจารณาแต่ละปัจจัย พบว่า ปัจจัยด้านบุคลากร มีความเหมาะสม ระดับมากที่สุด โดยรายการที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือ ผู้บริหารเป็นผู้นำในการดำเนินงานส่งเสริมการอ่านเพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ปัจจัยด้านงบประมาณ มีความเหมาะสมระดับมาก โดยรายการที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือ มีการจัดหางบประมาณจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนจากแหล่งทุนภายในและภายนอก เพื่อสนับสนุน ปัจจัยด้านวัสดุอุปกรณ์ มีความเหมาะสม ระดับมากที่สุด โดยรายการที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือ ห้องสมุดมีบรรยากาศที่เอื้อต่อการเรียนรู้ วัสดุ ครุภัณฑ์ในห้องสมุดเพียงพอกับการใช้บริการ ปัจจัยด้านบริหารจัดการ มีความเหมาะสมระดับมากที่สุด โดยรายการที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือ สถานศึกษามีนโยบายส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของนักเรียน

ผลประเมินด้านกระบวนการ (Process Evaluation) ของโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านเพื่อยกผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โรงเรียนพญาเม็งราย ปีการศึกษา 2559 เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 36 ตามความคิดเห็นของผู้บริหาร คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานและคณะครู พบว่า ภาพรวมมีการปฏิบัติในระดับมาก มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.36 ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ 0.13

ผ่านเกณฑ์การประเมินที่กำหนดไว้ เมื่อพิจารณาแต่ละกระบวนการ พบว่า การวางแผนการดำเนินโครงการ (P=Plan) มีการปฏิบัติในระดับมาก โดยรายการที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือ

การประชาสัมพันธ์เผยแพร่โครงการฯให้บุคลากรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบ การดำเนินงานตามแผนการดำเนินงานและกิจกรรมโครงการ (D=Do) มีการปฏิบัติในระดับมาก โดยรายการที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือการดำเนินกิจกรรม PMR. Read for Fun การตรวจสอบผลการปฏิบัติงาน (C=Check) การนิเทศ กำกับ ติดตาม ประเมินผล รายงานผล มีการปฏิบัติในระดับมากที่สุด โดยรายการที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือ มีการนิเทศ กำกับ ติดตามและประเมินผลการดำเนินงานในกิจกรรม และการประเมินผล ปรับปรุง/แก้ไข การดำเนินโครงการ (A=Action) มีการปฏิบัติในระดับมากที่สุด โดยรายการที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือ มีการสรุปผลการประเมินการดำเนินงานโครงการส่งเสริมการอ่านเพื่อยกผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน

ผลประเมินด้านผลกระทบ (Impact Evaluation)ของโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านเพื่อยกผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โรงเรียนพญาเม็งราย ปีการศึกษา 2559 เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 36 ตามความคิดเห็นของ คณะครู นักเรียน และผู้ปกครองนักเรียน พบว่า ภาพรวม

มีความเหมาะสม ระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.50 ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ 0.30 ผ่านเกณฑ์การประเมินที่กำหนดไว้ เมื่อพิจารณาแต่ละรายการ พบว่า นักเรียนเห็นความสำคัญของการอ่านมากขึ้นหลังจากได้เข้าร่วมกิจกรรมตามโครงการฯ มีความเหมาะสม ระดับมากที่สุด รองลงมาคือนักเรียนมีความใฝ่รู้ใฝ่เรียน มากขึ้นหลังจากเข้าร่วมกิจกรรมตามโครงการฯ มีความเหมาะสม ระดับมากที่สุด นอกจากนี้ยังพบว่า การดำเนินงานโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน เพื่อยกผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ส่งผลให้คุณลักษณะอันพึงประสงค์ที่มีระดับคุณภาพดีขึ้นไปมีจำนวนมากขึ้น นักเรียนแสดงออกความสามารถทางด้านวิชาการจนได้รับรางวัลจากการแข่งขันทักษะวิชาการ

และมีผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) สูงขึ้น

ผลประเมินประสิทธิผล (Effectiveness Evaluation) ของโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านเพื่อยกผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โรงเรียนพญาเม็งราย ปีการศึกษา 2559 เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 36 ตามความคิดเห็นของ คณะครู นักเรียน และผู้ปกครองนักเรียน พบว่า ภาพรวมมีความเหมาะสม ระดับมาก มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.40 ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ 0.37 ผ่านเกณฑ์การประเมินที่กำหนดไว้ เมื่อพิจารณาแต่ละรายการ พบว่า นักเรียนยืมหนังสือ สื่ออิเล็กทรอนิกส์ หรือสิ่งพิมพ์จากห้องสมุด หรือแหล่งเรียนรู้ไปอ่านเพิ่มเติม มีความเหมาะสม ระดับมาก รองลงมาคือนักเรียนใช้ห้องสมุดอย่างสม่ำเสมอ มีความเหมาะสม ระดับมาก นอกจากนี้ครู นักเรียนและผู้ปกครองมีความพึงพอใจ ระดับมาก ต่อโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านเพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โรงเรียนพญาเม็งราย ปีการศึกษา 2559 เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 36 และ จากการประเมินมาตรฐานที่ 3 ผู้เรียนมีทักษะในการแสวงหาความรู้ ด้วยตนเอง รักการเรียนรู้ และพัฒนาตนเอง อย่างต่อเนื่อง นักเรียนที่ได้ ระดับ 3 ขึ้นไปมีจำนวนมากเพิ่มขึ้น และนักเรียนที่มีเกรดเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนแต่ละรายวิชาในระดับ 3 ขึ้นไปใน สูงกว่า ปีการศึกษา 2558

ผลประเมินความยั่งยืน (Sustainable Evaluation) ของโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านเพื่อยกผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โรงเรียนพญาเม็งราย ปีการศึกษา 2559 เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 36 ตามความคิดเห็นของ คณะครู นักเรียน และผู้ปกครองนักเรียน พบว่า ภาพรวม

มีความเหมาะสม ระดับมาก มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.42 ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ 0.33 ผ่านเกณฑ์การประเมินที่กำหนดไว้ เมื่อพิจารณาแต่ละรายการ พบว่า โครงการควรมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่องต่อไป มีความเหมาะสม ระดับมาก รองลงมาคือ นักเรียนมีผลงานที่เกิดจากการนำประสบการณ์ความรู้หลังจากการได้เข้าร่วมกิจกรรมตามโครงการฯ ไปประยุกต์ใช้ มีความเหมาะสม ระดับมาก และจากการศึกษาพบว่าโรงเรียนดำเนินการตามขั้นตอนอย่างเป็นระบบและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำไปสู่ความสำเร็จและให้คงอยู่อย่างต่อเนื่อง ได้แก่ กำหนดมาตรฐาน สำรวจสภาพปัญหา วางแผน ดำเนินการพัฒนา และประเมินผล ปรับปรุงในปีต่อไป

ผลประเมินการถ่ายทอดส่งต่อ (Transportation Evaluation) ของโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านเพื่อยกผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โรงเรียนพญาเม็งราย ปีการศึกษา 2559 เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 36 ตามความคิดเห็นของ คณะครู นักเรียน และผู้ปกครองนักเรียน พบว่า ภาพรวม มีความเหมาะสม ระดับมาก มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.39 ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ 0.37 ผ่านเกณฑ์การประเมินที่กำหนดไว้ เมื่อพิจารณาแต่ละรายการ นักเรียนสามารถเล่าเรื่องจากหนังสือที่อ่านให้บุคคลอื่นฟังได้ มีความเหมาะสม ระดับมาก รองลงมาคือ โครงการสามารถเป็นแบบอย่างขยายผลให้กับโรงเรียนอื่นได้ มีความเหมาะสม ระดับมาก นอกจากนี้ยังพบว่ามีการถ่ายทอดความรู้และขยายผลโครงการให้กับโรงเรียนอื่นๆ โดยจัดกิจกรรมอบรมยุวบรรณารักษ์เครือข่าย และเข้าร่วมการแข่งขัน ได้รับรางวัลดีเด่นระดับประเทศ โรงเรียนส่งเสริมการอ่าน ระดับมัธยมศึกษา โครงการนานมีบุ๊คส์รีดดิ้งคลับ ปีที่ 16 ประจำปีการศึกษา 2559 และรางวัลรองชนะเลิศที่1 การคัดเลือกสถานศึกษาดีเด่นด้านการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านและพัฒนาห้องสมุด ระดับเขตพื้นที่การศึกษา โรงเรียนขนาดกลาง

โพสต์โดย phadcha : [3 ต.ค. 2560 เวลา 19:59 น.]
อ่าน [3725] ไอพี : 171.4.241.5
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 13,570 ครั้ง
เหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 พ.ย. ในแต่ละปี
เหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 พ.ย. ในแต่ละปี

เปิดอ่าน 58,473 ครั้ง
การปรับอัตราเงินเดือนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ลว 2 ม.ค. 51)
การปรับอัตราเงินเดือนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ลว 2 ม.ค. 51)

เปิดอ่าน 51,056 ครั้ง
วิธีนี้ดีนะ..คณิตฯ ประถม ลบเลขไม่ต้องยืม
วิธีนี้ดีนะ..คณิตฯ ประถม ลบเลขไม่ต้องยืม

เปิดอ่าน 9,120 ครั้ง
โรคภูมิแพ้ที่กิดจากอาหาร
โรคภูมิแพ้ที่กิดจากอาหาร

เปิดอ่าน 9,387 ครั้ง
ออกกำลังหนักช่วงสั้นๆ หนีโรคหัวใจได้ดีกว่าออกกำลังระยะยาว
ออกกำลังหนักช่วงสั้นๆ หนีโรคหัวใจได้ดีกว่าออกกำลังระยะยาว

เปิดอ่าน 16,056 ครั้ง
ไขข้อสงสัย "หมึกชอต" ทรมานสัตว์หรือไม่?
ไขข้อสงสัย "หมึกชอต" ทรมานสัตว์หรือไม่?

เปิดอ่าน 48,234 ครั้ง
มาแรง!! มะนาวแป้นพันธุ์ใหม่ 8 เดือนให้ผล 300 ลูก ปลูกได้หลายแบบตามความเหมาะสม
มาแรง!! มะนาวแป้นพันธุ์ใหม่ 8 เดือนให้ผล 300 ลูก ปลูกได้หลายแบบตามความเหมาะสม

เปิดอ่าน 17,511 ครั้ง
VPN คืออะไร
VPN คืออะไร

เปิดอ่าน 18,447 ครั้ง
แช่น้ำอุ่นก่อนนอนทำให้หลับลึก
แช่น้ำอุ่นก่อนนอนทำให้หลับลึก

เปิดอ่าน 80,161 ครั้ง
ดินสอทำไมมีตัว H กับตัว B
ดินสอทำไมมีตัว H กับตัว B

เปิดอ่าน 30,798 ครั้ง
อาหรับ มาจากไหน?
อาหรับ มาจากไหน?

เปิดอ่าน 10,346 ครั้ง
"การศึกษาหันหลัง" คอลัมน์ชั้น 5 ประชาชาติ โดย สาโรจน์ มณีรัตน์
"การศึกษาหันหลัง" คอลัมน์ชั้น 5 ประชาชาติ โดย สาโรจน์ มณีรัตน์

เปิดอ่าน 18,337 ครั้ง
บัญชีเงินเดือนขั้นต่ำสูงของข้าราชการพลเรือนสามัญ
บัญชีเงินเดือนขั้นต่ำสูงของข้าราชการพลเรือนสามัญ

เปิดอ่าน 283,124 ครั้ง
มารยาทในการพูด
มารยาทในการพูด

เปิดอ่าน 18,762 ครั้ง
ไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคไข้เลือดออกในมนุษย์
ไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคไข้เลือดออกในมนุษย์

เปิดอ่าน 22,448 ครั้ง
เคล็ดไม่ลับ!!!วิธีตอน"มะนาว"ด้วย"กะปิ" ได้กิ่งพันธุ์ดี เป็นที่ต้องการ
เคล็ดไม่ลับ!!!วิธีตอน"มะนาว"ด้วย"กะปิ" ได้กิ่งพันธุ์ดี เป็นที่ต้องการ
เปิดอ่าน 10,022 ครั้ง
มาดูกันว่า "เกาหลีใต้" เริ่มต้นการเป็นผู้นำด้านการศึกษาโฉมใหม่ของโลกอย่างไร?
มาดูกันว่า "เกาหลีใต้" เริ่มต้นการเป็นผู้นำด้านการศึกษาโฉมใหม่ของโลกอย่างไร?
เปิดอ่าน 11,239 ครั้ง
เรื่องน่ารู้ สำหรับผู้ใช้คอมพิวเตอร์ทุกท่าน
เรื่องน่ารู้ สำหรับผู้ใช้คอมพิวเตอร์ทุกท่าน
เปิดอ่าน 14,879 ครั้ง
รายงานประจำปี 2558 สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
รายงานประจำปี 2558 สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
เปิดอ่าน 8,661 ครั้ง
เจ้าฟ้ามหาจักรี ต้นแบบของครูทั้งแผ่นดิน
เจ้าฟ้ามหาจักรี ต้นแบบของครูทั้งแผ่นดิน

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ