ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
ภูวนาท นิสัยตรง. 2559. รายงานผลการจัดการเรียนรู้ด้วยชุดสื่อประสม โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบสืบเสาะห

การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) หาประสิทธิภาพของการจัดการเรียนรู้ด้วยชุดสื่อประสม โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es) รายวิชา ว30225 เคมี 5 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หน่วยเคมีอินทรีย์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อหาดัชนีประสิทธิผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยชุดสื่อประสม โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es) รายวิชา ว30225 เคมี 5 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หน่วยเคมีอินทรีย์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ 3) เพื่อวิเคราะห์เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยชุดสื่อประสม โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es) รายวิชา ว30225 เคมี 5 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หน่วยเคมีอินทรีย์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่เรียนรู้ด้วยชุดสื่อประสม โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es) รายวิชา ว30225 เคมี 5 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หน่วยเคมีอินทรีย์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์

กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/2 ของโรงเรียน หนองเรือวิทยา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 25 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 จำนวน 43 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (cluster random sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ คือ 1) ชุดสื่อประสม โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es) รายวิชา ว30225 เคมี 5 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หน่วยเคมีอินทรีย์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ได้แก่ เอกสารประกอบการเรียน วีดิทัศน์ประกอบการเรียนรู้ บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน (CAI) สื่อ PowerPoint สรุปสาระการเรียนรู้ 2) แผนการจัดการเรียนรู้ประกอบการใช้ชุดสื่อประสม 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 4) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนโดยใช้ชุดสื่อประสม สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าดัชนีประสิทธิผล และการทดสอบค่าที

ผลการศึกษาพบว่า

1. ชุดสื่อประสม โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es) รายวิชา ว30225 เคมี 5 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หน่วยเคมีอินทรีย์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ มีประสิทธิภาพ เท่ากับ 83.19/81.98 เป็นไปตามเกณฑ์ 80/80

2. ค่าดัชนีประสิทธิผลชุดสื่อประสมที่สร้างขึ้น เท่ากับ 0.7192 หมายความว่า ผู้เรียน มีความรู้เพิ่มขึ้นร้อยละ 71.92

3. การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังการใช้ชุดสื่อประสม ปรากฏว่า นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนเพิ่มขึ้นจากก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

4. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยชุดสื่อประสมในระดับมาก

โพสต์โดย Kung : [18 ต.ค. 2560 เวลา 20:32 น.]
อ่าน [3958] ไอพี : 223.206.234.76
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 32,676 ครั้ง
แนวโน้มของเทคโนโลยีสารสนเทศ
แนวโน้มของเทคโนโลยีสารสนเทศ

เปิดอ่าน 23,033 ครั้ง
สางประวัติเน่า เปิดหนี้ไม่บันทึก เช็ก BLACKLIST...10 ข้อต้องรู้ เครดิตบูโร!
สางประวัติเน่า เปิดหนี้ไม่บันทึก เช็ก BLACKLIST...10 ข้อต้องรู้ เครดิตบูโร!

เปิดอ่าน 8,655 ครั้ง
3 ข้อควรรู้ ก่อนพาลูก ไปหาหมอ
3 ข้อควรรู้ ก่อนพาลูก ไปหาหมอ

เปิดอ่าน 49,665 ครั้ง
ลูกประคบสมุนไพร
ลูกประคบสมุนไพร

เปิดอ่าน 33,228 ครั้ง
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับค่ารากของสมการ
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับค่ารากของสมการ

เปิดอ่าน 1,721 ครั้ง
เติมความหวานด้วยของขวัญวันวาเลนไทน์ ส่งรักแทนใจให้คนพิเศษ
เติมความหวานด้วยของขวัญวันวาเลนไทน์ ส่งรักแทนใจให้คนพิเศษ

เปิดอ่าน 16,549 ครั้ง
กบฏสร้างสรรค์ทางการศึกษา
กบฏสร้างสรรค์ทางการศึกษา

เปิดอ่าน 36,589 ครั้ง
จริยธรรมที่เกี่ยวกับระบบสารสนเทศ
จริยธรรมที่เกี่ยวกับระบบสารสนเทศ

เปิดอ่าน 11,139 ครั้ง
แก้ปัญหา รักแร้ดำ
แก้ปัญหา รักแร้ดำ

เปิดอ่าน 67,349 ครั้ง
หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช 2560
หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช 2560

เปิดอ่าน 12,370 ครั้ง
ปรนัย-อัตนัย เรียงความ-ย่อความ
ปรนัย-อัตนัย เรียงความ-ย่อความ

เปิดอ่าน 12,622 ครั้ง
เปลี่ยนผิวหน้าพังให้กลับมาสวยปังกับ 4 การรักษาฝ้าอย่างถูกวิธี
เปลี่ยนผิวหน้าพังให้กลับมาสวยปังกับ 4 การรักษาฝ้าอย่างถูกวิธี

เปิดอ่าน 8,713 ครั้ง
ปฏิรูปผู้บริหารสถานศึกษาก่อน ผลจะย้อนมาถึงคุณภาพครู
ปฏิรูปผู้บริหารสถานศึกษาก่อน ผลจะย้อนมาถึงคุณภาพครู

เปิดอ่าน 15,585 ครั้ง
ไม่อยากเป็นโรคกระดูกพรุน น้ำมะเขือเทศช่วยได้
ไม่อยากเป็นโรคกระดูกพรุน น้ำมะเขือเทศช่วยได้

เปิดอ่าน 12,992 ครั้ง
กรุงเทพฯ กับ บางกอก
กรุงเทพฯ กับ บางกอก

เปิดอ่าน 8,939 ครั้ง
เจาะ..."ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้"ครูควรรับมืออย่างไร ?
เจาะ..."ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้"ครูควรรับมืออย่างไร ?
เปิดอ่าน 38,701 ครั้ง
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 10 ลูกบอลอยู่ในการเล่นและอยู่นอกการเล่น
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 10 ลูกบอลอยู่ในการเล่นและอยู่นอกการเล่น
เปิดอ่าน 12,665 ครั้ง
คู่มือถนอมผิวสวยใต้แสงแดด
คู่มือถนอมผิวสวยใต้แสงแดด
เปิดอ่าน 19,321 ครั้ง
5 วิธีจัดฮวงจุ้ยโต๊ะทำงานรับปีไก่ 2017
5 วิธีจัดฮวงจุ้ยโต๊ะทำงานรับปีไก่ 2017
เปิดอ่าน 8,088 ครั้ง
พ่อแม่สามารถส่งความรู้สึกให้ลูกก่อนเกิดได้
พ่อแม่สามารถส่งความรู้สึกให้ลูกก่อนเกิดได้

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ