ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การประเมินโครงการการพัฒนาการใช้กระบวนการแนะแนว เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในโรงเรียนเทศบาล

อาทิตยา ศรีสุวรรณ. (2560). การประเมินโครงการการพัฒนาการใช้กระบวนการแนะแนว

เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในโรงเรียนเทศบาล ๑ (ถนนภูผาภักดี)

บทสรุปสำหรับผู้บริหาร

การประเมินโครงการการพัฒนาการใช้กระบวนการแนะแนวเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหา

ยาเสพติดในโรงเรียนเทศบาล ๑ (ถนนภูผาภักดี) ครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ ประเมินบริบทของโครงการเกี่ยวกับความต้องการจำเป็น ความสอดคล้องและความเหมาะสมของวัตถุประสงค์ของโครงการ ประเมินปัจจัยนำเข้าของโครงการเกี่ยวกับความพร้อมของผู้รับผิดชอบโครงการความพร้อมของสถานที่ ความเพียงพอของงบประมาณ และความเหมาะสมของปัจจัยในการดำเนินงาน ประเมินกระบวนการของโครงการเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมในการวางแผน การมีส่วนร่วมพัฒนากระบวนการแนะแนว การมีส่วนร่วมในการใช้กระบวนการแนะแนวของนักเรียน ครู และการนิเทศติดตามโครงการ ประเมินผลผลิตของโครงการ เกี่ยวกับปริมาณของกระบวนการแนะแนวที่ได้รับการพัฒนา ทักษะการใช้กระบวนการแนะแนวเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ทักษะการใช้กระบวนการแนะแนวเพื่อจัดการเรียนการสอนของครู ผลค่านิยม และพฤติกรรมที่พึงประสงค์ และความพึงพอใจของผู้เกี่ยวข้อง

ที่มีต่อโครงการ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ ได้แก่ นักเรียน ครูและผู้ปกครองนักเรียน จำนวน 245 คน ประกอบด้วยนักเรียน จำนวน 118 คน ครู จำนวน 15 คน และผู้ปกครองนักเรียน จำนวน 112 คน เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามชนิดมาตราประมาณค่า 5 ระดับ จำนวน 7 ฉบับ วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการประเมินโครงการสรุปได้ ดังนี้

ผลการประเมินโดยภาพรวม พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมิน เมื่อพิจารณาเป็นรายประเด็น พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมินทุกประเด็น เรียงตามลำดับจากมากไปหาน้อย ได้แก่ ปัจจัยนำเข้าผลผลิต บริบท และกระบวนการ ซึ่งผลการประเมินรายประเด็นและตัวชี้วัด สรุปได้ดังนี้

1. ผลการประเมินบริบท โดยภาพรวม พบว่า มีความเหมาะสมในระดับมาก ผ่านเกณฑ์การประเมิน เมื่อพิจารณาเป็นรายตัวชี้วัด พบว่า ทุกตัวชี้วัดมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก และผ่านเกณฑ์การประเมิน เรียงตามลำดับจากมากไปหาน้อย คือ ความต้องการจำเป็นของโครงการ

ความเหมาะสมของวัตถุประสงค์ และความสอดคล้องของวัตถุประสงค์

2. ผลการประเมินปัจจัยนำเข้า โดยภาพรวม พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมิน เมื่อพิจารณาเป็นรายตัวชี้วัด พบว่า ทุกตัวชี้วัดผ่านเกณฑ์การประเมิน คือ ความเพียงพอของงบประมาณโครงการ มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก คิดเป็นร้อยละ 100 และผ่านเกณฑ์การประเมิน ความพร้อมของอาคารสถานที่จัดกิจกรรม มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก และผ่านเกณฑ์การประเมิน และความเหมาะสมของปัจจัยในการดำเนินงาน มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก และผ่านเกณฑ์การประเมิน

3. ผลการประเมินกระบวนการ โดยภาพรวม พบว่า มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก ผ่านเกณฑ์การประเมิน เมื่อพิจารณาเป็นรายตัวชี้วัด พบว่า ทุกตัวชี้วัดมีความเหมาะสมในระดับมากและผ่านเกณฑ์การประเมิน เรียงลำดับจากมากไปหาน้อย คือ การมีส่วนร่วมของนักเรียน เกี่ยวกับการวางแผนการดำเนินงานในการพัฒนากระบวนการแนะแนวและการใช้กระบวนการแนะแนว

ในโรงเรียน การนิเทศติดตามโครงการ และการมีส่วนร่วมของครู เกี่ยวกับการวางแผนการดำเนินงานพัฒนากระบวนการแนะแนวและการใช้กระบวนการแนะแนวในโรงเรียน

4. ผลการประเมินผลผลิต โดยภาพรวม พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมิน เมื่อพิจารณาเป็นรายตัวชี้วัด พบว่า ทุกตัวชี้วัดผ่านเกณฑ์การประเมิน คือ ปริมาณของกิจกรรมการเรียนรู้ที่ได้รับการพัฒนา หลากหลายตามความต้องการของนักเรียน ครูและผู้ปกครองนักเรียน คิดเป็นร้อยละ 86.97

ผ่านเกณฑ์การประเมิน ทักษะการใช้กระบวนการแนะแนวเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด มีความเหมาะสมในระดับมากและผ่านเกณฑ์การประเมิน ทักษะการใช้กระบวนการแนะแนวเพื่อจัดการเรียนการสอน มีความเหมาะสมในระดับมากและผ่านเกณฑ์การประเมิน ผลค่านิยมและพฤติกรรมของนักเรียน มีค่าเฉลี่ย คิดเป็นร้อยละ 75.67 ผ่านเกณฑ์การประเมิน ความพึงพอใจ ของผู้เกี่ยวข้อง โดยภาพรวม พบว่า มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากและผ่านเกณฑ์การประเมิน เมื่อพิจารณารายตัวชี้วัดย่อย พบว่า ทุกตัวชี้วัดย่อยมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก และผ่านเกณฑ์การประเมิน เรียงลำดับจากมากไปหาน้อย คือ ความพึงพอใจของผู้ปกครองนักเรียน ความพึงพอใจของครู และความพึงพอใจของนักเรียน

ข้อเสนอแนะ

การพัฒนากระบวนการแนะแนว เป็นภารกิจหลักที่สถานศึกษาต้องดำเนินการให้มีประสิทธิภาพ ที่ส่งผลต่อการพัฒนาคุณภาพการศึกษาให้สูงขึ้น จากผลการประเมินโครงการพัฒนาการใช้กระบวนการแนะแนวเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดโรงเรียนเทศบาล ๑

(ถนนภูผาภักดี) พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมิน จึงควรดำเนินโครงการนี้ต่อไป และผู้เกี่ยวข้อง ควรนำผลการประเมินไปปรับปรุงและพัฒนาการดำเนินโครงการ ให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลยิ่งขึ้น ดังนี้

1. การกำหนดวัตถุประสงค์ของโครงการให้สอดคล้องและเหมาะสมกับสภาพแวดล้อมจะเป็นเข็มทิศชี้นำการปฏิบัติให้ไปสู่ความสำเร็จได้ดี จึงควรกำหนดวัตถุประสงค์ของโครงการให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ และเหมาะสมกับบริบทของสถานศึกษาให้มากขึ้น เพื่อนำไปสู่การพัฒนาการใช้กระบวนการแนะแนวในโรงเรียน ให้มีความหลากหลายตามความต้องการของนักเรียน ครูและผู้ปกครองนักเรียน และควรเปิดโอกาสให้ผู้ปกครองได้มีส่วนร่วมในการพัฒนากระบวนการแนะแนวภายในโรงเรียนให้มากขึ้น เพื่อสร้างความตระหนักในการร่วมมือพัฒนากระบวนการแนะแนวภายในโรงเรียนเป็นการตอบสนองต่อความต้องการจำเป็นของนักเรียน ครู และผู้ปกครองนักเรียนอย่างแท้จริง

2. ปัจจัยที่ใช้ในการดำเนินงาน เป็นทรัพยากรที่สำคัญในการขับเคลื่อนโครงการให้ไปสู่ความสำเร็จ ควรสนับสนุนวัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือและเทคโนโลยี ที่ต้องใช้ในการดำเนินโครงการให้เหมาะสมกับการทำกิจกรรม และควรพัฒนาบุคลากรผู้รับผิดชอบให้พร้อมก่อนที่จะปฏิบัติงาน เพื่อให้ผู้ปฏิบัติสามารถปฏิบัติงานได้อย่างถูกต้อง บรรลุผลอย่างมีประสิทธิภาพตามวัตถุประสงค์ที่วางไว้ และควรร่วมกันจัดเตรียมสถานที่ภายในอาคารให้พร้อมและเพียงพอ เพื่อให้การจัดกิจกรรมการพัฒนาการใช้กระบวนการแนะแนวเพื่อพัฒนาและแก้ไขปัญหายาเสพติดภายในโรงเรียนเกิดประสิทธิผลสูงสุด

3. การปฏิบัติงานตามกิจกรรมของโครงการพัฒนาการใช้กระบวนการแนะแนว มีหลายกิจกรรมที่ต้องอาศัยผู้ปฏิบัติที่มีความรู้และทักษะเฉพาะด้าน เช่น การเข้าค่ายเยาวชนคนดีมีคุณค่า

จึงควรให้ผู้รับผิดชอบโครงการ และครูที่มีความสามารถเป็นวิทยากรพิเศษ และควรสนับสนุนให้ครู นักเรียน มีโอกาสใช้สื่อและนวัตกรรมต่าง ๆ ในกระบวนการแนะแนวให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น อีกทั้งควรสนับสนุนให้มีการประสานการปฏิบัติงานระหว่างผู้รับผิดชอบโครงการ ครูและผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง อย่างเหมาะสมและสม่ำเสมอ เพื่อให้การดำเนินโครงการกระบวนการแนะแนว ดำเนินไปได้อย่างคล่องตัวไม่ติดขัด บรรลุผลตามวัตถุประสงค์อย่างมีประสิทธิภาพ

4. ผลผลิตของโครงการ คือสิ่งที่ต้องการให้เกิดขึ้นตามวัตถุประสงค์ จากผลการประเมินโครงการพัฒนาการใช้กระบวนการแนะแนวเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดด้านผลผลิต พบว่า ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อค่านิยมและพฤติกรรมที่พึงประสงค์มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด จึงควรดำเนินการเร่งรัดให้ครูพัฒนาการเรียนการสอนโดยการใช้กระบวนการแนะแนวอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอและเกิดประสิทธิภาพ เพื่อส่งผลให้นักเรียนมีค่านิยมและพฤติกรรมที่พึงประสงค์ที่สูงขึ้น เป็นการสร้างความพึงพอใจแก่นักเรียน ครู ผู้ปกครองและผู้เกี่ยวข้อง และควรจัดกิจกรรมส่งเสริมให้นักเรียน ได้เรียนรู้ค่านิยมและพฤติกรรมที่พึงประสงค์อย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้นักเรียนได้เรียนรู้ตามศักยภาพ ด้วยสื่อการเรียนรู้ที่หลากหลายอย่างมีประสิทธิภาพ ในการสร้างความพึงพอใจแก่นักเรียน ครู และผู้เกี่ยวข้องให้มากยิ่งขึ้น

โพสต์โดย ก้อย : [27 พ.ย. 2560 เวลา 17:14 น.]
อ่าน [3715] ไอพี : 49.49.167.44
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 11,137 ครั้ง
กูเกิล เผยอันดับคำค้นสุดฮิตของไทย ประจำปี 2012
กูเกิล เผยอันดับคำค้นสุดฮิตของไทย ประจำปี 2012

เปิดอ่าน 27,185 ครั้ง
งูพิษกัด
งูพิษกัด

เปิดอ่าน 18,420 ครั้ง
10 งานด่วนภายใน 6 เดือนที่ "รมต.ศธ." ควรทำ
10 งานด่วนภายใน 6 เดือนที่ "รมต.ศธ." ควรทำ

เปิดอ่าน 12,107 ครั้ง
เคล็ดลับการเรียนเก่งด้วยตัวเอง
เคล็ดลับการเรียนเก่งด้วยตัวเอง

เปิดอ่าน 24,188 ครั้ง
ไมยราบไร้หนาม
ไมยราบไร้หนาม

เปิดอ่าน 260,481 ครั้ง
ความถี่และความบ่อย(ภาษาอังกฤษ)
ความถี่และความบ่อย(ภาษาอังกฤษ)

เปิดอ่าน 19,524 ครั้ง
คลิปข่าว ขึ้นเงินเดือนครูยกชุด ย้อนหลังถึง 1 ม.ค.55
คลิปข่าว ขึ้นเงินเดือนครูยกชุด ย้อนหลังถึง 1 ม.ค.55

เปิดอ่าน 19,971 ครั้ง
รู้ไว้ใช่เสียหาย "กัญชง" ต่างจาก "กัญชา" อย่างไร?
รู้ไว้ใช่เสียหาย "กัญชง" ต่างจาก "กัญชา" อย่างไร?

เปิดอ่าน 11,822 ครั้ง
ส้มป่อย สุดยอดผักเพิ่มภูมิคุ้มกัน
ส้มป่อย สุดยอดผักเพิ่มภูมิคุ้มกัน

เปิดอ่าน 17,529 ครั้ง
5 กิจวัตรที่คนประสบความสำเร็จมักทำก่อน 8 โมงเช้า
5 กิจวัตรที่คนประสบความสำเร็จมักทำก่อน 8 โมงเช้า

เปิดอ่าน 15,778 ครั้ง
ไม่อยากเสียเงินฟรี ต้องอ่าน ก่อนติดฟิล์มกระจกบ้านต้องรู้อะไรบ้าง
ไม่อยากเสียเงินฟรี ต้องอ่าน ก่อนติดฟิล์มกระจกบ้านต้องรู้อะไรบ้าง

เปิดอ่าน 17,922 ครั้ง
คำว่า "ตายน้ำตื้น" มันเป็นอย่างนี้นี่เอง ชมคลิป
คำว่า "ตายน้ำตื้น" มันเป็นอย่างนี้นี่เอง ชมคลิป

เปิดอ่าน 16,732 ครั้ง
ตอบข้อข้องใจ...สมาชิก ช.พ.ค. เรื่อง จำนวนสมาชิก ช.พ.ค. ทั้งหมด ใครถึงแก่กรรม/ใครสมัครใหม่
ตอบข้อข้องใจ...สมาชิก ช.พ.ค. เรื่อง จำนวนสมาชิก ช.พ.ค. ทั้งหมด ใครถึงแก่กรรม/ใครสมัครใหม่

เปิดอ่าน 28,656 ครั้ง
เลิกโทษเด็กนักเรียนได้ไหม? คอลัมน์สุจิตต์ วงษ์เทศ
เลิกโทษเด็กนักเรียนได้ไหม? คอลัมน์สุจิตต์ วงษ์เทศ

เปิดอ่าน 2,446 ครั้ง
"ไบโอติน" วิตามินหลากหลายประโยชน์
"ไบโอติน" วิตามินหลากหลายประโยชน์

เปิดอ่าน 11,598 ครั้ง
เทคนิคการดูแลเส้นผม ช่วงหน้าฝน
เทคนิคการดูแลเส้นผม ช่วงหน้าฝน
เปิดอ่าน 14,827 ครั้ง
ชาวเน็ตแห่เล่น "หิมะ" ตกในเมืองไทย
ชาวเน็ตแห่เล่น "หิมะ" ตกในเมืองไทย
เปิดอ่าน 20,073 ครั้ง
(ก.ค.ศ.)การพัฒนารูปแบบการนำครูใหม่เข้าสู่งาน ในสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน
(ก.ค.ศ.)การพัฒนารูปแบบการนำครูใหม่เข้าสู่งาน ในสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน
เปิดอ่าน 33,995 ครั้ง
แบบคำขอใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ
แบบคำขอใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ
เปิดอ่าน 10,322 ครั้ง
แบบคำขอมีบัตร ประจำตัวข้าราชการ ตำแหน่ง ผอ.สพท.
แบบคำขอมีบัตร ประจำตัวข้าราชการ ตำแหน่ง ผอ.สพท.

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ