ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
เผยแพร่แบบฝึกกิจกรรมวิทยาศาสตร์

ชื่อผลงาน การพัฒนาแบบฝึกกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการทำโครงงานวิทยาศาสตร์

วิทยาศาสตร์เพิ่มเติม 5 รายวิชา โครงงานวิทยาศาสตร์พื้นฐาน

โดยจัดกิจกรรมการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5E)

กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3

โรงเรียน โรงเรียนบ้านท่าโป่ง ตำบลวังตะเฆ่ อำเภอหนองบัวระเหว

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชัยภูมิ เขต 3

ผู้อำนวยการโรงเรียน นายไพโรจน์ เคนวิเศษ

บทคัดย่อ

การรายงานครั้งนี้มีความมุ่งหมายของการศึกษาค้นคว้า ดังนี้ เพื่อพัฒนาแบบฝึกกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการทำโครงงานวิทยาศาสตร์ วิทยาศาสตร์เพิ่มเติม 5 รายวิชา โครงงานวิทยาศาสตร์พื้นฐาน โดยจัดกิจกรรมการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 เพื่อหาดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการทำโครงงานวิทยาศาสตร์ วิทยาศาสตร์เพิ่มเติม 5 รายวิชา โครงงานวิทยาศาสตร์พื้นฐาน โดยจัดกิจกรรมการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่เรียนด้วยแบบฝึกกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการทำโครงงานวิทยาศาสตร์ วิทยาศาสตร์เพิ่มเติม 5 รายวิชา โครงงานวิทยาศาสตร์พื้นฐาน โดยจัดกิจกรรมการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3

และเพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนด้วยแบบฝึกกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการทำโครงงานวิทยาศาสตร์ วิทยาศาสตร์เพิ่มเติม 5 รายวิชา โครงงานวิทยาศาสตร์พื้นฐาน โดยจัดกิจกรรมการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ก่อนเรียนและหลังเรียน

กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/2 โรงเรียนบ้านท่าโป่ง ตำบลวังตะเฆ่ อำเภอหนองบัวระเหว จังหวัดชัยภูมิ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชัยภูมิ เขต 3 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 24 คน ซึ่งได้มาจากการสุ่มอย่างง่าย (Sample Random Sampling) โดยการจับสลาก

เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้า ประกอบด้วย คู่มือการใช้แบบฝึกกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการทำโครงงานวิทยาศาสตร์ วิทยาศาสตร์เพิ่มเติม 5 รายวิชา โครงงานวิทยาศาสตร์พื้นฐาน โดยจัดกิจกรรมการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 22 แผน รวม 22 ชั่วโมง แบบฝึกกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการทำโครงงานวิทยาศาสตร์ วิทยาศาสตร์เพิ่มเติม 5 รายวิชา โครงงานวิทยาศาสตร์พื้นฐาน โดยจัดกิจกรรมการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 7 เล่ม แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิทยาศาสตร์เพิ่มเติม 5 รายวิชา โครงงานวิทยาศาสตร์พื้นฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 แบบปรนัย เลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ แบบวัดความพึงพอใจโดยใช้แบบฝึกกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการทำโครงงานวิทยาศาสตร์ วิทยาศาสตร์เพิ่มเติม 5 รายวิชา โครงงานวิทยาศาสตร์พื้นฐาน โดยจัดกิจกรรมการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) กลุ่มสาระ การเรียนรู้วิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 1 ชุด ประกอบด้วยข้อคำถาม 20 ข้อ

ผลการรายงานปรากฏ ดังนี้ แบบฝึกกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการทำโครงงานวิทยาศาสตร์ วิทยาศาสตร์เพิ่มเติม 5 รายวิชา โครงงานวิทยาศาสตร์พื้นฐาน โดยจัดกิจกรรมการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่สร้างขึ้น ทั้ง 7 ชุด มีประสิทธิภาพ (E1/E2) ดังนี้ 86.51/80.00 , 85.93/81.67 , 85.63/81.25 , 85.51/82.08 , 85.22/82.50 , 86.22/82.92 , 86.46/83.33 และมีประสิทธิภาพโดยรวม เท่ากับ 83579/84.17 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้ ค่าดัชนีประสิทธิผลของของแบบฝึกกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการทำโครงงานวิทยาศาสตร์ วิทยาศาสตร์เพิ่มเติม 5 รายวิชา โครงงานวิทยาศาสตร์พื้นฐาน โดยจัดกิจกรรมการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีค่าเท่ากับ 0.7637 หมายความว่า หลังจากที่นักเรียนได้เรียนรู้ด้วยแบบฝึกกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการทำโครงงานวิทยาศาสตร์ วิทยาศาสตร์เพิ่มเติม 5 รายวิชา โครงงานวิทยาศาสตร์พื้นฐาน โดยจัดกิจกรรมการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ตามลำดับ แสดงว่าผู้เรียนมีความก้าวหน้าในการเรียนเพิ่มขึ้นร้อยละ 76.37 ค่าคะแนนเฉลี่ยของความพึงพอใจของนักเรียนที่เรียนด้วยแบบฝึกกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการทำโครงงานวิทยาศาสตร์ วิทยาศาสตร์เพิ่มเติม 5 รายวิชา โครงงานวิทยาศาสตร์พื้นฐาน โดยจัดกิจกรรมการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีความพึงพอใจ อยู่ในระดับมาก โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ

ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนด้วยแบบฝึกกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการทำโครงงานวิทยาศาสตร์ วิทยาศาสตร์เพิ่มเติม 5 รายวิชา โครงงานวิทยาศาสตร์พื้นฐาน โดยจัดกิจกรรมการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่ผู้รายงานสร้างขึ้น มีค่าเฉลี่ยคะแนนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน โดยคะแนน t คำนวณ เท่ากับ 44.76 ซึ่งมากกว่าคะแนน t ตาราง (one-tailed test) เท่ากับ 2.8073 ที่ df เท่ากับ 23 (บุญชม ศรีสะอาด และคณะ. 2551 : 157) จึงแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

โพสต์โดย ครูอู๊ด : [7 ม.ค. 2561 เวลา 19:08 น.]
อ่าน [3811] ไอพี : 110.77.241.127
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 107,900 ครั้ง
ประโยชน์ของผักใบเขียวมีอะไรบ้าง
ประโยชน์ของผักใบเขียวมีอะไรบ้าง

เปิดอ่าน 15,723 ครั้ง
เส้นทางการศึกษาใหม่ ให้ทางเลือกเยาวชน
เส้นทางการศึกษาใหม่ ให้ทางเลือกเยาวชน

เปิดอ่าน 14,045 ครั้ง
เปลี่ยนระบบโทรศัพท์ใหม่ แต่ใช้เบอร์เดิมได้ เริ่ม 1 ก.ย.
เปลี่ยนระบบโทรศัพท์ใหม่ แต่ใช้เบอร์เดิมได้ เริ่ม 1 ก.ย.

เปิดอ่าน 18,763 ครั้ง
เธลีส (Thales) นักคณิตศาสตร์
เธลีส (Thales) นักคณิตศาสตร์

เปิดอ่าน 26,481 ครั้ง
วรรณคดีมรดก
วรรณคดีมรดก

เปิดอ่าน 9,817 ครั้ง
อากาศแบบนี้จะปกป้องผิวหน้าอย่างไรดี?
อากาศแบบนี้จะปกป้องผิวหน้าอย่างไรดี?

เปิดอ่าน 27,638 ครั้ง
ทำไมบริษัทห้างร้านบางแห่งจึงมีรูปครุฑอยู่ที่หน้าอาคาร
ทำไมบริษัทห้างร้านบางแห่งจึงมีรูปครุฑอยู่ที่หน้าอาคาร

เปิดอ่าน 76,955 ครั้ง
ความสำคัญของงานกราฟิก
ความสำคัญของงานกราฟิก

เปิดอ่าน 26,376 ครั้ง
เผย 5 สมุนไพร ลดความดันโลหิตสูง ที่คุณคาดไม่ถึง
เผย 5 สมุนไพร ลดความดันโลหิตสูง ที่คุณคาดไม่ถึง

เปิดอ่าน 12,197 ครั้ง
สมรรถนะที่จำเป็นสำหรับตำแหน่งข้าราชการพลเรือนสามัญ
สมรรถนะที่จำเป็นสำหรับตำแหน่งข้าราชการพลเรือนสามัญ

เปิดอ่าน 32,676 ครั้ง
หนึ่งศตวรรษผ่านไป "เวลา" ของ "ไอน์สไตน์" ยังถูกต้อง
หนึ่งศตวรรษผ่านไป "เวลา" ของ "ไอน์สไตน์" ยังถูกต้อง

เปิดอ่าน 18,091 ครั้ง
เพลง "วันพรุ่งนี้" ที่เด็กร้องแล้วผู้ใหญ่ฟังแล้วอึ้ง!
เพลง "วันพรุ่งนี้" ที่เด็กร้องแล้วผู้ใหญ่ฟังแล้วอึ้ง!

เปิดอ่าน 53,737 ครั้ง
เคยสงสัยไหมว่า เขาลักลอบตัด"ไม้พะยูง"ไปทำอะไรกัน??
เคยสงสัยไหมว่า เขาลักลอบตัด"ไม้พะยูง"ไปทำอะไรกัน??

เปิดอ่าน 47,434 ครั้ง
ครู-คนสอนคอมพิวเตอร์กับคอมพิวเตอร์สอนคน
ครู-คนสอนคอมพิวเตอร์กับคอมพิวเตอร์สอนคน

เปิดอ่าน 11,754 ครั้ง
ผลสำรวจชี้มนุษย์ทำงาน 63% เห็นว่าการทำงาน 8 ชั่วโมงต่อวันเป็นเรื่อง "ล้าสมัย"
ผลสำรวจชี้มนุษย์ทำงาน 63% เห็นว่าการทำงาน 8 ชั่วโมงต่อวันเป็นเรื่อง "ล้าสมัย"

เปิดอ่าน 16,080 ครั้ง
เด็กกับโรคหวัด
เด็กกับโรคหวัด
เปิดอ่าน 15,956 ครั้ง
รวมผักกินยากแสนอร่อยแต่เปี่ยมคุณค่า
รวมผักกินยากแสนอร่อยแต่เปี่ยมคุณค่า
เปิดอ่าน 16,140 ครั้ง
ผลวิจัยการใช้แท็บเล็ตตามกระแส BYOT: Bring Your Own Technology
ผลวิจัยการใช้แท็บเล็ตตามกระแส BYOT: Bring Your Own Technology
เปิดอ่าน 10,910 ครั้ง
เผยโฉมอินเตอร์เฟซของ Google Pad
เผยโฉมอินเตอร์เฟซของ Google Pad
เปิดอ่าน 8,421 ครั้ง
ธปท. ยันไม่มีปลอม แบงก์เอทีเอ็ม
ธปท. ยันไม่มีปลอม แบงก์เอทีเอ็ม

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ