ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
รายงานการพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านการเขียนสำนวนไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่6

บทคัดย่อ

การอ่านเป็นทักษะที่จำเป็นอย่างยิ่งต่อการศึกษาหาความรู้ อันเป็นพื้นฐานในการพัฒนาชีวิต และส่งเสริมให้มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ในการเรียนรู้ ดังนั้น การศึกษาค้นคว้าครั้งนี้ จึงมีจุดมุ่งหมาย (๑) เพื่อหาประสิทธิภาพของการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านการเขียนสำนวนไทย ชุดการอ่านการเขียนสำนวนไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ ตามเกณฑ์ ๘๐/๘๐ (๒) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ ก่อนเรียนและหลังเรียนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านการเขียนสำนวนไทย (๓) เพื่อหาค่าดัชนีประสิทธิผลของการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านการเขียนสำนวนไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ (๔) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ ที่มีต่อการเรียนรู้ โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านการเขียนสำนวนไทย กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖โรงเรียนบ้านนาเยีย สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต ๓ ภาคเรียนที่ ๒ ปีการศึกษา ๒๕๕๙ จำนวน ๗ คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้า ได้แก่ (๑) แบบฝึกทักษะการอ่านการเขียนสำนวนไทย ชุดการอ่านการเขียนสำนวนไทย จำนวน ๑๐ เล่ม (๒) แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านการเขียนสำนวนไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ จำนวน ๒๐ แผน (๓) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ชนิดเลือกตอบ ๔ ตัวเลือก จำนวน ๓๐ ข้อ มีค่าอำนาจจำแนกรายข้อตั้งแต่ ๐.๓๑ ถึง ๐.๘๒ และมีความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ ๐.๘๑ (๔) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียน เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า ๕ ระดับ จำนวน ๑๐ ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน

ผลการศึกษาค้นคว้าพบว่า

๑. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านการเขียนสำนวนไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ มีประสิทธิภาพเท่ากับ ๘๒.๕๖ / ๘๑.๔๒ ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ ๘๐/๘๐ ที่ตั้งไว้

๒. มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้จากการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .๐๑

๓. มีดัชนีประสิทธิผลของการจัดการเรียนรู้ มีค่าเท่ากับ ๐.๕๕๑๗ ซึ่งแสดงว่านักเรียนมีคะแนนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน คิดเป็น ร้อยละ ๕๕.๑๗

๔. มีความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ ที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความ มีค่าเฉลี่ย ๔.๓๘ มีความพึงพอใจอยู่ในระดับ มาก

กล่าวโดยสรุปพบว่า การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านการเขียนสำนวนไทย ชุดการอ่านการเขียนสำนวนไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล ช่วยให้นักเรียนมีความสามารถในการอ่านการเขียนวิเคราะห์ ตีความจากสำนวนไทยได้เป็นอย่างดี และสามารถนำความรู้ไปใช้เป็นแนวทางในการคิดวิเคราะห์เรื่องราว

ต่าง ๆไปใช้ในการแก้ปัญหาทางการเรียนได้ ซึ่งส่งผลให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น

โพสต์โดย เปิ้ล : [23 ม.ค. 2561 เวลา 21:10 น.]
อ่าน [3755] ไอพี : 182.52.237.203
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 8,215 ครั้ง
เทคนิคนวดผมพาเพลิน
เทคนิคนวดผมพาเพลิน

เปิดอ่าน 7,205 ครั้ง
จุดยืนของ มหาวิทยาลัยราชภัฏ
จุดยืนของ มหาวิทยาลัยราชภัฏ

เปิดอ่าน 99,854 ครั้ง
ดาวน์โหลดโปรแกรม ปพ.1 ใหม่ 2556 (Excel)
ดาวน์โหลดโปรแกรม ปพ.1 ใหม่ 2556 (Excel)

เปิดอ่าน 21,234 ครั้ง
ประโยชน์ของ เมล็ดดอกทานตะวัน
ประโยชน์ของ เมล็ดดอกทานตะวัน

เปิดอ่าน 2,958 ครั้ง
ภาพแบบ Bitmap
ภาพแบบ Bitmap

เปิดอ่าน 6,602 ครั้ง
วันวิสาขบูชา คือวันอะไร
วันวิสาขบูชา คือวันอะไร

เปิดอ่าน 11,912 ครั้ง
เจาะนวัตกรรม 4 ล้อ ในปี 2553
เจาะนวัตกรรม 4 ล้อ ในปี 2553

เปิดอ่าน 12,620 ครั้ง
เผย 10 สุดยอดวิดีโอบน "ยูทูบ" ที่คนไทยชอบชมมากที่สุดปี 2558
เผย 10 สุดยอดวิดีโอบน "ยูทูบ" ที่คนไทยชอบชมมากที่สุดปี 2558

เปิดอ่าน 75,278 ครั้ง
อำนาจหน้าที่ของศึกษาธิการจังหวัด
อำนาจหน้าที่ของศึกษาธิการจังหวัด

เปิดอ่าน 11,192 ครั้ง
ครูอินเดีย ลุยน้ำไปสอนหนังสือเด็กนานกว่า 20 ปี
ครูอินเดีย ลุยน้ำไปสอนหนังสือเด็กนานกว่า 20 ปี

เปิดอ่าน 4,021 ครั้ง
คู่มือสำหรับเกษตรกร การผลิตพืชสกุลกัญชา เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์และอุตสาหกรรม
คู่มือสำหรับเกษตรกร การผลิตพืชสกุลกัญชา เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์และอุตสาหกรรม

เปิดอ่าน 12,083 ครั้ง
ภัยเงียบของเด็กไทย
ภัยเงียบของเด็กไทย

เปิดอ่าน 8,502 ครั้ง
เด็กรุ่นใหม่... เขาทำ (อาชีพ) อะไร
เด็กรุ่นใหม่... เขาทำ (อาชีพ) อะไร

เปิดอ่าน 11,247 ครั้ง
เด็กแรกเกิด เรียนไวกว่าผู้ใหญ่ มีฐานการเรียนรู้ขณะนอนหลับติดมากับตัว
เด็กแรกเกิด เรียนไวกว่าผู้ใหญ่ มีฐานการเรียนรู้ขณะนอนหลับติดมากับตัว

เปิดอ่าน 91,460 ครั้ง
อุปกรณ์ในการจัดการแข่งขันฟุตซอล
อุปกรณ์ในการจัดการแข่งขันฟุตซอล

เปิดอ่าน 28,337 ครั้ง
สรุปสูตรการเลื่อนแกนทางขนาน
สรุปสูตรการเลื่อนแกนทางขนาน
เปิดอ่าน 30,330 ครั้ง
เคล็ดลับการทำให้หน้าเรียวกระชับใน 3 นาที
เคล็ดลับการทำให้หน้าเรียวกระชับใน 3 นาที
เปิดอ่าน 1,815 ครั้ง
วิธีปลูกผักอีตู่ (แมงลัก) ในกระถาง
วิธีปลูกผักอีตู่ (แมงลัก) ในกระถาง
เปิดอ่าน 24,274 ครั้ง
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบิดาวิทยาศาสตร์ไทย
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบิดาวิทยาศาสตร์ไทย
เปิดอ่าน 10,404 ครั้ง
วิธีป้องกันไม่ให้เป็นร้อนใน
วิธีป้องกันไม่ให้เป็นร้อนใน

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ