ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนาศักยภาพครูด้านการทำวิจัยในชั้นเรียน โรงเรียนเนินยางประชาสามัคคี อำเภอคำม่วง จังหวัดกาฬสินธุ์

ชื่อเรื่อง การพัฒนาศักยภาพครูด้านการทำวิจัยในชั้นเรียน โรงเรียนเนินยาง

ประชาสามัคคี อำเภอคำม่วง จังหวัดกาฬสินธุ์

ผู้วิจัย นายอรุณ อิ่มสง่า

หน่วยงาน โรงเรียนเนินยางประชาสามัคคี อำเภอคำม่วง จังหวัดกาฬสินธุ์

องค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธุ์

ปีที่พิมพ์ 2560

บทคัดย่อ

การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ1) เพื่อวางแผนการพัฒนาศักยภาพครูด้านการทำวิจัยในชั้นเรียน 2) เพื่อนำแผนการพัฒนาศักยภาพครูด้านการทำวิจัยในชั้นเรียนไปใช้ 3) เพื่อประเมินผลการนำแผนการพัฒนาศักยภาพครูด้านการทำวิจัยในชั้นเรียนไปใช้ และ 4) เพื่อสะท้อนผลการใช้แผนการพัฒนาศักยภาพครูด้านการทำวิจัยในชั้นเรียน โดยใช้การวิจัยเชิงปฏิบัติการ (Action Research) กลยุทธ์ที่ใช้ในการพัฒนา คือ การอบรมเชิงปฏิบัติการ การศึกษาดูงาน และการนิเทศภายใน มีการดำเนินการพัฒนา 2 วงรอบ แต่ละวงรอบประกอบด้วย การวางแผน (Planning) การปฏิบัติ (Action) การสังเกต (Observation) และการสะท้อนผล (Reflection) ประกอบด้วยกลุ่มเป้าหมาย จำนวน 32 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แบบทดสอบ แบบประเมินผล แบบสังเกต แบบสัมภาษณ์ การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณ สถิติใช้ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ข้อมูลเชิงคุณภาพโดยการวิเคราะห์เนื้อหา

ผลการวิจัยพบว่า

ผู้วิจัยได้สรุปผลการวิจัย เป็น 4 ด้าน ดังนี้

1. ผลการวางแผนการพัฒนาศักยภาพครูด้านการทำวิจัยในชั้นเรียน

ผลการศึกษากลยุทธ์การพัฒนา จากการศึกษาสภาพปัจจุบัน ปัญหา และความต้องการในการพัฒนา ได้ 3 กลยุทธ์ คือ การอบรมเชิงปฏิบัติการ การศึกษาดูงาน และการนิเทศภายใน ในวงรอบที่ 1 ใช้กลยุทธ์ 2 กลยุทธ์ คือ การอบรมเชิงปฏิบัติ และการศึกษาดูงาน และในวงรอบที่ 2 ใช้ กลยุทธ์ คือ การนิเทศภายใน

2. ผลการนำแผนการพัฒนาศักยภาพครูด้านการทำวิจัยในชั้นเรียนไปใช้

2.1 การอบรมเชิงปฏิบัติการ พบว่า ครูกลุ่มเป้าหมายมีความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับการทำวิจัยในชั้นเรียนมากขึ้นผลการทดสอบก่อนการอบรมมีค่าเฉลี่ย 12.72 และผลการทดสอบหลังการอบรม มีค่าเฉลี่ย 23.41 แสดงว่าครูผู้สอนมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการวิจัยในชั้นเรียน

เพิ่มขึ้นจากการได้รับการพัฒนาศักยภาพครูในการทำวิจัยในชั้นเรียน โดยมีความรู้ความเข้าใจ

เพิ่มขึ้นร้อยละ 35.63

2.2 การศึกษาดูงานนอกสถานที่ สรุปได้ว่า จากการเดินทางไปศึกษาดูงานทั้งสามโรงเรียนที่มีบริบทที่แตกต่างกัน ทำให้ได้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการวิจัยในชั้นเรียนกลุ่มเป้าหมายเกิดความกระตือรือร้นและพึงพอใจ ตระหนักถึงความสำคัญและประโยชน์ของการทำวิจัยในชั้นเรียน มีเจตคติที่ดี มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการทำวิจัยในชั้นเรียน

2.3 ด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จากการพัฒนาศักยภาพครูด้านการทำวิจัยใน ชั้นเรียนส่งผลให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนสูงขึ้น คือ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยรวมของนักเรียนทุกระดับชั้น ในปีการศึกษา 2559 มีค่าร้อยละเฉลี่ย 91.05 สูงกว่าค่าเฉลี่ย ในปีการศึกษา 2558 ที่มีค่าร้อยละเฉลี่ย เท่ากับ 83.66 แสดงให้เห็นว่าร้อยละของนักเรียนที่ได้รับการตัดสินผลการเรียนในปีการศึกษา 2559 ซึ่งเป็นปีการศึกษาที่ครูได้รับการพัฒนาศักยภาพในการทำวิจัยในชั้นเรียน มีค่าเฉลี่ยสูงกว่าปีการศึกษา 2558 ซึ่งครูยังไม่ได้รับการพัฒนาศักยภาพในการทำวิจัยในชั้นเรียน

3. การประเมินการนำแผนการพัฒนาศักยภาพครูด้านการทำวิจัยในชั้นเรียนไปใช้

โดยใช้การนิเทศ กำกับ ติดตาม การปฏิบัติในการทำวิจัยในชั้นเรียน ของกลุ่มเป้าหมาย พบว่า กลุ่มเป้าหมายทุกคนสามารถทำวิจัยในชั้นเรียนได้เป็นผลสำเร็จ ทั้ง 6 ขั้นตอน ซึ่งขั้นที่ครูมีการปฏิบัติอยู่ในระดับมากที่สุด มี 3 ขั้นตอน ได้แก่ ขั้นตอนการวิเคราะห์ข้อมูล มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.80 ขั้นตอนการกำหนดคำถาม มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.77 ขั้นตอนการตั้งข้อสงสัย มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.60 และขั้นตอนการทำความเข้าใจอยู่อันดับต่ำสุดมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.20

4. การสะท้อนผลการใช้แผนการพัฒนาศักยภาพครูด้านการทำวิจัยในชั้นเรียน

4.1 ในวงรอบที่ 1 สรุปได้ว่า กลุ่มเป้าหมายทำการวิเคราะห์ปัญหาเป็น รู้จักการเรียงลำดับความสำคัญของปัญหาที่เกิดขึ้นในชั้นเรียนได้เหมาะสม มีการศึกษานักเรียนเป็นรายบุคคล ทำให้ทราบปัญหาและสาเหตุที่ชัดเจน แสวงหาทางเลือกในการแก้ปัญหาที่ถูกต้องเหมาะสมกับผู้เรียนได้ การทำงานเป็นระบบมากขึ้น สามารถตรวจสอบข้อผิดพลาดของการทำงานในแต่ละขั้นตอนได้ เป็นการสร้างนิสัยและทักษะในการทำงานของครูให้มีคุณภาพยิ่งขึ้น

4.2 ในวงรอบที่ 2 สรุปได้ว่า กลุ่มเป้าหมายดำเนินการได้บรรลุเป้าหมาย ได้ประสบการณ์ในการเขียนรายงานการวิจัยในชั้นเรียนคนละหนึ่งเรื่อง การนิเทศการทำวิจัยในชั้นเรียน 3 ครั้ง รวมทั้งการสังเกต การสัมภาษณ์ การประเมินกลุ่มเป้าหมาย ขณะทำการวิจัยในชั้นเรียน พบว่า กลุ่มเป้าหมาย มีความตั้งใจและเอาใจใส่ต่อการทำวิจัยด้วยดี มีการนำเครื่องมือหรือนวัตกรรมจากงานวิจัย วิทยานิพนธ์จากวารสารทางวิชาการที่เกี่ยวข้องมาเป็นตัวอย่าง หรือมาประยุกต์ให้เหมาะสมกับงานวิจัยของตนเองมีความตั้งใจแน่วแน่ที่จะดำเนินการให้การวิจัยในชั้นเรียนสำเร็จสมบูรณ์และมีประสิทธิภาพ

โพสต์โดย ออ : [22 มี.ค. 2561 เวลา 05:45 น.]
อ่าน [3781] ไอพี : 182.232.190.60
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 30,131 ครั้ง
9 เพลงที่มีจังหวะตรงตามงานวิจัยว่าจะช่วยให้คุณผอม!!
9 เพลงที่มีจังหวะตรงตามงานวิจัยว่าจะช่วยให้คุณผอม!!

เปิดอ่าน 30,021 ครั้ง
ทำไม E = mc กำลัง 2 สมการสะท้านโลก
ทำไม E = mc กำลัง 2 สมการสะท้านโลก

เปิดอ่าน 9,649 ครั้ง
งานแฟร์ เพื่อนพึ่ง(ภา) 2552 ช็อปของขวัญปีใหม่สไตล์วัง
งานแฟร์ เพื่อนพึ่ง(ภา) 2552 ช็อปของขวัญปีใหม่สไตล์วัง

เปิดอ่าน 29,918 ครั้ง
ระบบสี Additive
ระบบสี Additive

เปิดอ่าน 7,737 ครั้ง
ตอบโจทย์ "ปฏิรูปการศึกษา"?
ตอบโจทย์ "ปฏิรูปการศึกษา"?

เปิดอ่าน 103,248 ครั้ง
วิธีซักผ้าที่มีรอยเปื้อนชนิดต่าง ๆ
วิธีซักผ้าที่มีรอยเปื้อนชนิดต่าง ๆ

เปิดอ่าน 40,077 ครั้ง
บาร์โค้ด ประวัติ การประดิษฐ์บาร์โค้ด รหัสแท่งมหัศจรรย์
บาร์โค้ด ประวัติ การประดิษฐ์บาร์โค้ด รหัสแท่งมหัศจรรย์

เปิดอ่าน 21,689 ครั้ง
ปรากฏการณ์ดาราศาสตร์...ตลอดปี 2556
ปรากฏการณ์ดาราศาสตร์...ตลอดปี 2556

เปิดอ่าน 15,191 ครั้ง
ไขมันพืช (น้ำมันปาล์ม) สาเหตุหนึ่งของอาการป่วยทางสมอง
ไขมันพืช (น้ำมันปาล์ม) สาเหตุหนึ่งของอาการป่วยทางสมอง

เปิดอ่าน 573 ครั้ง
ประโยชน์ของการนวดเท้าและขา
ประโยชน์ของการนวดเท้าและขา

เปิดอ่าน 9,374 ครั้ง
ปฏิรูปการศึกษาสิงคโปร์
ปฏิรูปการศึกษาสิงคโปร์

เปิดอ่าน 17,754 ครั้ง
อาหารต้องเลี่ยง ภาชนะต้องห้าม อย่านำเข้าไมโครเวฟ
อาหารต้องเลี่ยง ภาชนะต้องห้าม อย่านำเข้าไมโครเวฟ

เปิดอ่าน 8,410 ครั้ง
ทำไมนะ…ลูกเราถึงไม่ฉลาด
ทำไมนะ…ลูกเราถึงไม่ฉลาด

เปิดอ่าน 24,285 ครั้ง
ฟังกันหรือยัง คลิปยอดฮิต ครูฝึกสอนไฟแรง ร้องหมอลำระบบการศึกษา
ฟังกันหรือยัง คลิปยอดฮิต ครูฝึกสอนไฟแรง ร้องหมอลำระบบการศึกษา

เปิดอ่าน 41,249 ครั้ง
คำแนะนำสำหรับนักเรียน และ ครูผู้สอน ในการสอบ O-NET วิชาภาษาไทย รูปแบบข้อสอบอัตนัย
คำแนะนำสำหรับนักเรียน และ ครูผู้สอน ในการสอบ O-NET วิชาภาษาไทย รูปแบบข้อสอบอัตนัย

เปิดอ่าน 85,315 ครั้ง
ผักพื้นบ้าน 13 ชนิด ที่ช่วยลดน้ำตาลในเลือด ไม่ทำลายตับ
ผักพื้นบ้าน 13 ชนิด ที่ช่วยลดน้ำตาลในเลือด ไม่ทำลายตับ
เปิดอ่าน 40,001 ครั้ง
ของพรีเมี่ยมคืออะไร ?
ของพรีเมี่ยมคืออะไร ?
เปิดอ่าน 6,933 ครั้ง
กก.อิสระปฏิรูปการศึกษาช่วยที : โดย สมหมาย ปาริจฉัตต์
กก.อิสระปฏิรูปการศึกษาช่วยที : โดย สมหมาย ปาริจฉัตต์
เปิดอ่าน 9,119 ครั้ง
ตรุษจีนกับอาจารย์ช้าง ตอน เก็บกวาดบ้านเสริมฮวงจุ้ย เฮงๆรวยๆ
ตรุษจีนกับอาจารย์ช้าง ตอน เก็บกวาดบ้านเสริมฮวงจุ้ย เฮงๆรวยๆ
เปิดอ่าน 18,186 ครั้ง
เริ่มแล้ว! กล้องไฮเทค จับผิด 30 แยกทั่วกรุงเทพฯ
เริ่มแล้ว! กล้องไฮเทค จับผิด 30 แยกทั่วกรุงเทพฯ

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ