ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง วิธีเรียงสับเปลี่ยนและวิธีจัดหมู่

การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง วิธีเรียงสับเปลี่ยนและวิธีจัดหมู่ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้โมเดลซิปปา (CIPPA Model) ร่วมกับชุดฝึกทักษะคณิตศาสตร์ 2) เพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 เรื่อง วิธีเรียงสับเปลี่ยนและวิธีจัดหมู่ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ให้นักเรียนจำนวนไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของจำนวนนักเรียนทั้งหมดมีคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและคะแนนเฉลี่ยตั้งแต่ร้อยละ 80 ขึ้นไป กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/4 ซึ่งกำลังศึกษาอยู่ใน ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 โรงเรียนศรีกระนวนวิทยาคม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 25 จำนวน 48 คนได้มาโดยวิธีการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling)

เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย แบ่งออกเป็น 3 ประเภท 1) เครื่องมือที่ใช้ในการทดลองปฏิบัติ ได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้โมเดลซิปปา (CIPPA Model) เรื่อง วิธีเรียงสับเปลี่ยนและวิธีจัดหมู่ จำนวน 14 แผน และชุดฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง วิธีเรียงสับเปลี่ยนและวิธีจัดหมู่ จำนวน 14 ชุด

2) เครื่องมือที่ใช้ในการสะท้อนผลการปฏิบัติ ได้แก่ แบบบันทึกผลหลังการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ แบบบันทึกผลการทำชุดฝึกทักษะ แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานและประเมินผลงานรายกลุ่ม แบบประเมินด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ และแบบทดสอบย่อยท้ายวงจร 3) เครื่องมือที่ใช้ในการประเมินประสิทธิภาพการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ได้แก่ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง วิธีเรียงสับเปลี่ยนและวิธีจัดหมู่ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5

รูปแบบที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ดำเนินการตามหลักของการวิจัยเชิงปฏิบัติการ ซึ่งมีขั้นตอนการปฏิบัติ 4 ขั้นตอน ได้แก่ 1) ขั้นวางแผน 2) ขั้นปฏิบัติการ 3) ขั้นสังเกตการณ์ และ 4) ขั้นสะท้อนผลการปฏิบัติ โดยแบ่งวงจรการปฏิบัติเป็น 3 วงจร คือ วงจรที่ 1 ประกอบด้วยแผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 – 5 วงจรที่ 2 ประกอบด้วยแผนการจัดการเรียนรู้ที่ 6 – 9 และวงจรที่ 3 ประกอบด้วยแผนการจัดการเรียนรู้ที่ 10 – 14 ขั้นตอนการดำเนินการวิจัย คือ วางแผน ผู้วิจัยศึกษาสภาพปัญหา ศึกษาเอกสารที่เกี่ยวข้องและสร้างแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้โมเดลซิปปา (CIPPA Model) ร่วมกับชุดฝึกทักษะคณิตศาสตร์ ขั้นปฏิบัติการผู้วิจัยดำเนินการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแผนการจัดการเรียนรู้ ขั้นสังเกตการณ์ ผู้วิจัยสังเกตรวบรวมข้อมูลจากการเรียนการสอนโดยใช้แบบบันทึกการสอนขณะสอนของครู และแบบบันทึกการเรียนระหว่างเรียน

ผลการวิจัยพบว่า

1. การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง วิธีเรียงสับเปลี่ยนและวิธีจัดหมู่ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้โมเดลซิปปา (CIPPA Model) ร่วมกับชุดฝึกทักษะคณิตศาสตร์ พบว่า การจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้โมเดลซิปปา (CIPPA Model) ร่วมกับชุดฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เป็นกิจกรรมที่นักเรียนมีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียนรู้ สามารถสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง มีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อม แลกเปลี่ยนความรู้ความเข้าใจกับกลุ่มเพื่อนจนเกิดทักษะที่จำเป็นการดำเนินชีวิตและสามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ จึงสรุปได้ว่ารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โมเดลซิปปา (CIPPA Model) เป็นรูปแบบการสอนที่มีประสิทธิภาพ มีขั้นตอนในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ดังนี้ 1) ขั้นนำ/ทบทวนความรู้เดิม เป็นการจัดกิจกรรมที่ให้นักเรียนได้ทบทวนความรู้เดิมจากที่เคยเรียนหรือมีประสบการณ์ผ่านมาแล้ว ซึ่งนักเรียนจะต้องตอบคำถามหรือทำกิจกรรมต่าง ๆ ตามที่กำหนด 2) ขั้นแสวงหาความรู้ใหม่เป็นการแสวงหาข้อมูลความรู้ใหม่ของผู้เรียนจากแหล่งข้อมูลหรือแหล่งความรู้ต่าง ๆ ซึ่งจัดเตรียมมาให้ผู้เรียนหรือให้คำแนะนำเกี่ยวกับแหล่งข้อมูลต่าง ๆ เพื่อให้ผู้เรียนไปแสวงหา 3) ขั้นการศึกษาทำความเข้าใจข้อมูล/ความรู้ใหม่และเชื่อมโยงความรู้ใหม่กับความรู้เดิม กิจกรรมในขั้นนี้ให้นักเรียนแสวงหาความรู้จากสถานการณ์ปัญหาที่ครูสร้างขึ้นจากแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ ด้วยตนเอง โดยเชื่อมโยงความรู้เดิมให้เข้ากับความรู้ใหม่ 4) ขั้นแลกเปลี่ยนความรู้ความเข้าใจกับกลุ่ม กิจกรรมในขั้นนี้ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มรับชุดฝึกทักษะคณิตศาสตร์ ซึ่งในเอกสารประกอบการเรียนรู้จะประกอบด้วย บัตรความรู้ เกร็ดน่ารู้ บัตรกิจกรรมกลุ่ม และชุดฝึกทักษะ นักเรียนปฏิบัติงานตามที่ได้รับมอบหมาย โดยนำความรู้ที่ตนเองค้นพบ นำไปแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับเพื่อนสมาชิกในกลุ่มเล็กคือกลุ่มของตนเอง เพื่อจัดทำผลงานกลุ่มให้มีคุณภาพและสร้างสรรค์ 5) ขั้นสรุปและจัดระเบียบความรู้ นักเรียนได้สรุปหรือสร้างความคิดรวบยอดเกี่ยวกับความรู้จากเรื่องที่เรียนและครูช่วยสรุป จัดระเบียบความรู้ของนักเรียนให้เป็นระบบมากขึ้น 6) ขั้นปฏิบัติ/แสดงผลงาน กิจกรรมในขั้นนี้ นักเรียนส่งตัวแทนกลุ่มออกมานำเสนอผลงานหน้าชั้นเรียนเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้กับเพื่อนกลุ่มใหญ่ จากนั้นมีการร่วมกันอภิปราย แสดงความคิดเห็นและสรุปความรู้ร่วมกันอีกครั้ง แล้วให้นักเรียนกลุ่มย่อยนำผลงานกลุ่มของตนเองไปปรับปรุงแก้ไขจนสมบูรณ์ จัดตกแต่งผลงานให้สวยงามตามความคิดสร้างสรรค์ พร้อมที่จะนำไปจัดแสดงป้ายนิเทศหลังการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เสร็จเรียบร้อย หรือในชั่วโมงว่าง เพื่อให้นักเรียนได้ศึกษาเปรียบเทียบ ประเมินผลงานกลุ่มของตนเองกับเพื่อน และนำไปใช้เป็นแนวทางในการปรับปรุงแก้ไขผลงานของตนเองให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นต่อไปและ 7) ขั้นประยุกต์ใช้ความรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ในขั้นนี้ครูจะให้นักเรียนทำชุดฝึกทักษะที่ครูสร้างขึ้นเพื่อประเมินความรู้ความเข้าใจของนักเรียนและให้นักเรียนทำเป็นการบ้าน แล้วนำมาส่งครูตามเวลาที่กำหนด

2. ผลการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน พบว่า นักเรียนได้คะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเฉลี่ยคิดเป็นร้อยละ 84.32 ของคะแนนเต็ม และมีจำนวนนักเรียนผ่านเกณฑ์จำนวน 48 คน คิดเป็นร้อยละ 100 ของนักเรียนทั้งหมด ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ คือ ให้มีจำนวนนักเรียนไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและคะแนนเฉลี่ยตั้งแต่ร้อยละ 80 ขึ้นไป

โพสต์โดย mercedesbenz : [24 พ.ค. 2561 เวลา 20:39 น.]
อ่าน [3420] ไอพี : 1.10.163.212
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 11,241 ครั้ง
เด็กแรกเกิด เรียนไวกว่าผู้ใหญ่ มีฐานการเรียนรู้ขณะนอนหลับติดมากับตัว
เด็กแรกเกิด เรียนไวกว่าผู้ใหญ่ มีฐานการเรียนรู้ขณะนอนหลับติดมากับตัว

เปิดอ่าน 55,682 ครั้ง
ใครว่าการเขียนด้วยลายมือนั้นล้าสมัย?
ใครว่าการเขียนด้วยลายมือนั้นล้าสมัย?

เปิดอ่าน 15,230 ครั้ง
แนวปฏิบัติการเสนอหนังสือราชการของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
แนวปฏิบัติการเสนอหนังสือราชการของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน

เปิดอ่าน 11,714 ครั้ง
7 วิธีใช้คอมพิวเตอร์ แบบทำร้ายตัวเอง
7 วิธีใช้คอมพิวเตอร์ แบบทำร้ายตัวเอง

เปิดอ่าน 28,965 ครั้ง
6 ปัญหาที่เด็กม.ปลายต้องเจอและผ่านไปให้ได้
6 ปัญหาที่เด็กม.ปลายต้องเจอและผ่านไปให้ได้

เปิดอ่าน 16,784 ครั้ง
หลักเกณฑ์และวิธีการเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลของบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามาตรา 36 ค.(2)
หลักเกณฑ์และวิธีการเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลของบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามาตรา 36 ค.(2)

เปิดอ่าน 14,756 ครั้ง
น้ำผึ้ง ชะลอริ้วรอย
น้ำผึ้ง ชะลอริ้วรอย

เปิดอ่าน 104,856 ครั้ง
ภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลง ศตวรรษที่ ๒๑ : ไทยแลนด์ ๔.o
ภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลง ศตวรรษที่ ๒๑ : ไทยแลนด์ ๔.o

เปิดอ่าน 71,903 ครั้ง
การแรเงา
การแรเงา

เปิดอ่าน 15,955 ครั้ง
มะขามป้อม
มะขามป้อม

เปิดอ่าน 14,621 ครั้ง
ชมด่วน คลิป หมาเดาะบอลขั้นเทพ
ชมด่วน คลิป หมาเดาะบอลขั้นเทพ

เปิดอ่าน 11,296 ครั้ง
แว่นทรงไหนช่วยให้คุณสวยขึ้น
แว่นทรงไหนช่วยให้คุณสวยขึ้น

เปิดอ่าน 14,581 ครั้ง
ความเหลื่อมล้ำและระบบอุปถัมภ์ในการศึกษาไทย - มติชน วีกเอ็นด์ 15 พ.ค. 59
ความเหลื่อมล้ำและระบบอุปถัมภ์ในการศึกษาไทย - มติชน วีกเอ็นด์ 15 พ.ค. 59

เปิดอ่าน 54,061 ครั้ง
ไอเดียการจัดตกแต่งบ้านต้อนรับปีใหม่
ไอเดียการจัดตกแต่งบ้านต้อนรับปีใหม่

เปิดอ่าน 8,746 ครั้ง
รู้จักเลือก...รู้จักเลี่ยง ไม่เสี่ยงเป็นความดันโลหิตสูง
รู้จักเลือก...รู้จักเลี่ยง ไม่เสี่ยงเป็นความดันโลหิตสูง

เปิดอ่าน 107,859 ครั้ง
การกำเนิดของศาสนาพราหมณ์
การกำเนิดของศาสนาพราหมณ์
เปิดอ่าน 18,942 ครั้ง
"ข่าลิง" คืออะไร?
"ข่าลิง" คืออะไร?
เปิดอ่าน 19,016 ครั้ง
3 ปีมีครั้ง! เฮ 28 พ.ย. "ฤกษ์รับทรัพย์" หมอช้างแนะปรับฮวงจุ้ย เปลี่ยนกระเป๋าตังค์ใหม่สุดเฮง
3 ปีมีครั้ง! เฮ 28 พ.ย. "ฤกษ์รับทรัพย์" หมอช้างแนะปรับฮวงจุ้ย เปลี่ยนกระเป๋าตังค์ใหม่สุดเฮง
เปิดอ่าน 12,590 ครั้ง
กิจกรรมวันสงกรานต์
กิจกรรมวันสงกรานต์
เปิดอ่าน 10,104 ครั้ง
"โตเกียว" ค่าครองชีพแพงสุดในเอเชีย
"โตเกียว" ค่าครองชีพแพงสุดในเอเชีย

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ