ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
รายงานการประเมินโครงการพัฒนาบรรยากาศการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างคุณลักษณะใฝ่รู้ใฝ่เรียนรู้ของนักเรียน

ชื่อผลงาน : รายงานการประเมินโครงการพัฒนาบรรยากาศการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างคุณลักษณะใฝ่รู้ใฝ่เรียนของนักเรียน โรงเรียนวัดไพรสณฑ์ จังหวัดตรัง ปีการศึกษา 2559-2560

ลักษณะผลงาน : รายงานการพัฒนางานที่เกี่ยวกับผลจากการบริหารสถานศึกษา

ผู้รายงาน : นายสัญญา ทองมีขวัญ

ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดไพรสณฑ์ อำเภอเมืองตรัง

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตรัง เขต 1

ปีที่รายงาน : ปีการศึกษา 2559-2560

บทสรุป

การประเมินโครงการพัฒนาบรรยากาศการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างคุณลักษณะใฝ่รู้ใฝ่เรียนของนักเรียน โรงเรียนวัดไพรสณฑ์ จังหวัดตรัง ปีการศึกษา 2559-2560 กำหนดวัตถุประสงค์เพื่อประเมินสภาวะแวดล้อมปัจจัยนำเข้า กระบวนการ ผลผลิต คุณภาพการพัฒนาบรรยากาศการเรียนรู้พฤติกรรมการจัดการเรียนรู้ของครู พฤติกรรมการใฝ่รู้ใฝ่เรียนของนักเรียน ความพึงพอใจของนักเรียน ครู ผู้ปกครอง และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยศึกษาจากกลุ่มตัวอย่างและประชากร ปีการศึกษา 2559 และปีการศึกษา 2560 ประกอบด้วยนักเรียนกำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจงโดยเลือกนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ถึง ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ทุกคนได้กลุ่มตัวอย่างนักเรียน ปีการศึกษา 2559 จำนวน 28 คน และปีการศึกษา 2560 จำนวน 28 คน เนื่องจากนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 ทุกคนสามารถอ่านออกเขียนได้ และสื่อความหมายได้ดีกว่านักเรียน ชั้นอื่น ๆ ครูศึกษาจากประชากรครูที่ปฏิบัติหน้าที่ปีการศึกษา 2559 และปีการศึกษา 2560 จำนวน 7 คน ผู้ปกครองนักเรียน กำหนดกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง โดยใช้ผู้ปกครองของนักเรียนที่ได้รับคัดเลือกเป็นกลุ่มตัวอย่าง ปีการศึกษา 2559 จำนวน 28 คน และปีการศึกษา 2560 จำนวน 28 คน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน กำหนดกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง โดยยกเว้นผู้บริหาร และผู้แทนครู ได้กลุ่มตัวอย่าง ปีการศึกษา 2559 และปีการศึกษา 2560 จำนวน 9 คน เครื่องมือที่ใช้ในการประเมิน คือ แบบสอบถามที่มีลักษณะเป็นมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ รวมทั้งสิ้น 7 ฉบับ มีการตรวจสอบคุณภาพเครื่องมือทุกฉบับได้ค่าความเชื่อมั่นแต่ละฉบับระหว่าง 0.83-0.92

ผลการประเมินพบว่า

1. ผลการประเมินด้านสภาวะแวดล้อม โครงการพัฒนาบรรยากาศการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างคุณลักษณะใฝ่รู้ใฝ่เรียนของนักเรียน โรงเรียนวัดไพรสณฑ์ จังหวัดตรัง ปีการศึกษา 2559-2560 ตามความคิดเห็นของครูและคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน พบว่า ความคิดเห็นของครู ปีการศึกษา 2559 โดยรวมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก ( =4.09, =.12) ผ่านเกณฑ์การประเมิน เมื่อพิจารณาแต่ละด้านพบว่าทุกด้านอยู่ในระดับมาก ผ่านเกณฑ์การประเมิน ปีการศึกษา 2560 โดยรวมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด ( =4.64, =.15) ผ่านเกณฑ์การประเมิน เมื่อพิจารณาแต่ละด้าน พบว่า ทุกด้านอยู่ในระดับมาก ผ่านเกณฑ์การประเมิน ความคิดเห็นของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีการศึกษา 2559 โดยรวมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก ( =4.19, S.D.=.16) ผ่านเกณฑ์ การประเมิน เมื่อพิจารณาแต่ละด้านพบว่า ทุกด้านอยู่ในระดับมาก ผ่านเกณฑ์การประเมิน ปีการศึกษา 2560 โดยรวมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด ( =4.59, S.D.=.13) ผ่านเกณฑ์การประเมิน เมื่อพิจารณาแต่ละด้าน พบว่าทุกด้านอยู่ในระดับมากและมากที่สุด ผ่านเกณฑ์ การประเมิน

2. ผลการประเมินด้านปัจจัยนำเข้าโครงการพัฒนาบรรยากาศการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างคุณลักษณะใฝ่รู้ใฝ่เรียนของนักเรียน โรงเรียนวัดไพรสณฑ์ จังหวัดตรัง ปีการศึกษา 2559–2560 ตามความคิดเห็นของครู ปีการศึกษา 2559 โดยรวมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก ( =3.89, =.20) ผ่านเกณฑ์การประเมิน เมื่อพิจารณาแต่ด้าน พบว่า ทุกด้านอยู่ในระดับมาก ผ่านเกณฑ์การประเมิน ปีการศึกษา 2560 โดยรวมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก ( =4.06, =.22) ผ่านเกณฑ์การประเมิน เมื่อพิจารณาแต่ละด้าน พบว่า ทุกด้านอยู่ในระดับมาก ผ่านเกณฑ์การประเมิน

3. ผลการประเมินด้านกระบวนการดำเนินโครงการพัฒนาบรรยากาศการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างคุณลักษณะใฝ่รู้ใฝ่เรียนของนักเรียน โรงเรียนวัดไพรสณฑ์ จังหวัดตรัง ปีการศึกษา 2559–2560 ตามความคิดเห็นของนักเรียน ครู และผู้ปกครอง พบว่า ความคิดเห็นของนักเรียน ปีการศึกษา 2559 โดยรวมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก ( =3.74, S.D.=.12) ผ่านเกณฑ์การประเมิน เมื่อพิจารณาแต่ละด้าน พบว่า ทุกด้านอยู่ในระดับมาก ผ่านเกณฑ์การประเมิน ปีการศึกษา 2560โดยรวมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก ( =4.24, S.D.=.13) เมื่อพิจารณาแต่ละด้าน พบว่า ทุกด้านอยู่ในระดับมาก ผ่านเกณฑ์การประเมิน ความคิดเห็นของครู ปีการศึกษา 2559 โดยรวมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก ( =3.95, =.13) ผ่านเกณฑ์การประเมิน เมื่อพิจารณาแต่ละด้าน พบว่า ทุกด้านอยู่ในระดับมาก ผ่านเกณฑ์การประเมิน ปีการศึกษา 2560 โดยรวมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก ( =4.45, =.08) ผ่านเกณฑ์การประเมิน เมื่อพิจารณาแต่ละด้าน พบว่า ทุกด้านอยู่ในระดับมากและมากที่สุด ผ่านเกณฑ์การประเมิน ความคิดเห็นของผู้ปกครอง ปีการศึกษา 2559 โดยรวมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก ( =3.74, S.D.=.13) ผ่านเกณฑ์การประเมิน เมื่อพิจารณาแต่ละด้าน พบว่า ทุกด้านอยู่ในระดับมาก ผ่านเกณฑ์การประเมิน ปีการศึกษา 2560 โดยรวมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก ( =4.26, S.D.=.13) ผ่านเกณฑ์การประเมินเมื่อพิจารณาแต่ละด้าน พบว่า ทุกด้านอยู่ในระดับมาก ผ่านเกณฑ์การประเมิน

4. ผลการประเมินด้านผลผลิตโครงการพัฒนาบรรยากาศการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างคุณลักษณะใฝ่รู้ใฝ่เรียนของนักเรียน โรงเรียนวัดไพรสณฑ์ จังหวัดตรัง ปีการศึกษา 2559-2560 ได้แก่

4.1 ผลผลิตเกี่ยวกับคุณภาพการพัฒนาบรรยากาศการเรียนรู้โครงการพัฒนาบรรยากาศการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างคุณลักษณะใฝ่รู้ใฝ่เรียนของนักเรียน โรงเรียนวัดไพรสณฑ์ จังหวัดตรัง ปีการศึกษา 2559-2560 ตามความคิดเห็นของนักเรียนครู และผู้ปกครอง ปีการศึกษา 2559โดยรวมทุกกลุ่มที่ประเมิน มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาแต่ละกลุ่ม พบว่า ผู้ปกครองมีค่าเฉลี่ยสูงสุดอยู่ในระดับมาก ( =4.14, S.D.=.14) รองลงมา ครู มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก ( =4.12, =.21) ทุกกลุ่มผ่านเกณฑ์การประเมิน ปีการศึกษา 2560 โดยรวมทุกกลุ่มที่ประเมิน มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากและมากที่สุด เมื่อพิจารณาแต่ละกลุ่ม พบว่า ครู มีค่าเฉลี่ยสูงสุดอยู่ในระดับมากที่สุด ( =4.54, =.19)รองลงมา ผู้ปกครอง มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก ( =4.49, S.D.=.13) ทุกกลุ่มผ่านเกณฑ์การประเมิน

4.2 ผลผลิตเกี่ยวกับพฤติกรรมการจัดการเรียนรู้ของครูโครงการพัฒนาบรรยากาศการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างคุณลักษณะใฝ่รู้ใฝ่เรียนของนักเรียน โรงเรียนวัดไพรสณฑ์ จังหวัดตรัง ปีการศึกษา 2559-2560 ตามความคิดเห็นของนักเรียนครู และผู้ปกครอง ปีการศึกษา 2559โดยรวมทุกกลุ่มที่ประเมิน มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาแต่ละกลุ่ม พบว่า นักเรียน มีค่าเฉลี่ยสูงสุดอยู่ในระดับมาก ( =3.98, S.D.=.19) รองลงมา ครู มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก ( =3.94, =.14) ทุกกลุ่มผ่านเกณฑ์การประเมิน ปีการศึกษา 2560โดยรวมทุกกลุ่มที่ประเมินมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาแต่ละกลุ่ม พบว่า ครูมีค่าเฉลี่ยสูงสุดอยู่ในระดับมาก ( =4.44, =.17) รองลงมา ผู้ปกครอง มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก ( =4.34, S.D.=.15) ทุกกลุ่มผ่านเกณฑ์การประเมิน

4.3 ผลผลิตเกี่ยวกับพฤติกรรมการใฝ่รู้ใฝ่เรียนของนักเรียนโครงการพัฒนาบรรยากาศการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างคุณลักษณะใฝ่รู้ใฝ่เรียนของนักเรียน โรงเรียนวัดไพรสณฑ์ จังหวัดตรัง ปีการศึกษา 255 -2560 ตามความคิดเห็นของนักเรียนครู และผู้ปกครอง ปีการศึกษา 2559 โดยรวมทุกกลุ่มที่ประเมิน มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาแต่ละกลุ่ม พบว่า ครู มีค่าเฉลี่ยสูงสุดอยู่ในระดับมาก ( =3.89, =.14) รองลงมา นักเรียน และผู้ปกครอง มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก ( =3.85, S.D.=.18) ทุกกลุ่มผ่านเกณฑ์การประเมิน ปีการศึกษา 2560 โดยรวมทุกกลุ่มที่ประเมิน มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาแต่ละกลุ่ม พบว่า ครูมีค่าเฉลี่ยสูงสุดอยู่ใน ระดับมาก ( =4.19, =.25)รองลงมา ผู้ปกครองมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก ( =4.12, S.D.=.19) ทุกกลุ่มผ่านเกณฑ์การประเมิน

4.4 ผลผลิตเกี่ยวกับความพึงพอใจที่มีต่อการพัฒนาบรรยากาศการเรียนรู้ เพื่อเสริมสร้างพฤติกรรมการใฝ่รู้ใฝ่เรียนของนักเรียน โรงเรียนวัดไพรสณฑ์ จังหวัดตรัง ปีการศึกษา 2559-2560 ตามความคิดเห็นของนักเรียน ครู ผู้ปกครอง และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีการศึกษา 2559 โดยรวมทุกกลุ่มที่ประเมิน มีค่าเฉลี่ยความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาแต่ละกลุ่ม พบว่าผู้ปกครอง มีค่าเฉลี่ยสูงสุดอยู่ในระดับมาก ( =4.00, S.D.=.17) รองลงมา ครูและคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก ( = 3.91, S.D.=.16,.21) ทุกกลุ่มผ่านเกณฑ์การประเมิน ปีการศึกษา 2560 โดยรวมทุกกลุ่มที่ประเมิน มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากและมากที่สุด เมื่อพิจารณาแต่ละกลุ่ม พบว่า คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน มีค่าเฉลี่ยสูงสุดอยู่ในระดับมากที่สุด ( =4.51, S.D.=.15)รองลงมา ครู มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก ( =4.49, =.14)ทุกกลุ่มผ่านเกณฑ์การประเมิน

ข้อเสนอแนะ

ข้อเสนอแนะในการนำผลการประเมินไปใช้

1. ควรนำผลการประเมินโครงการมาวิเคราะห์หาจุดเด่น จุดที่ควรพัฒนาเพื่อกำหนดรูปแบบและแนวทางในการพัฒนาบรรยากาศการเรียนรู้ เพื่อเสริมสร้างพฤติกรรมการใฝ่รู้ใฝ่เรียนของนักเรียนโรงเรียนวัดไพรสณฑ์ จังหวัดตรัง เพราะจะทำให้รู้ทิศทางของการพัฒนาในแต่ละด้านเกิดความคล่องตัวในการประสานงานทุก ๆ ฝ่าย และจะทำให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืนต่อไป

2. โรงเรียนอื่น ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรงเรียนที่มีขนาดและบริบทที่ใกล้เคียงกันควรนำรูปแบบ วิธีการและกิจกรรมต่าง ๆ ในโครงการไปประยุกต์ใช้ในการพัฒนาบรรยากาศการเรียนรู้ เพื่อเสริมสร้างพฤติกรรมการใฝ่รู้ใฝ่เรียนของนักเรียนให้สอดคล้องกับบริบทของโรงเรียนเพราะจะทำให้โรงเรียนเกิดการพัฒนาไปในทิศทางที่ดีขึ้น

3. ควรนำผลการประเมินโครงการเสนอต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษา ได้แก่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หรือหน่วยงานอื่น ๆ ได้รับทราบและเผยแพร่ผลจากการดำเนินงานของโครงการให้ผู้เกี่ยวข้องด้านการศึกษาได้รับทราบและให้การสนับสนุน

ข้อเสนอแนะสำหรับการประเมินหรือวิจัยครั้งต่อไป

1. ควรมีการประเมินโครงการระดับองค์รวมของการจัดการศึกษาของสถานศึกษา โดยการประยุกต์ใช้รูปแบบการประเมินของซิปป์ (CIPP Model)

2. ควรมีการประเมินโครงการต่าง ๆ ของโรงเรียนทุกโครงการโดยรูปแบบการประเมินที่เหมาะสม และสอดคล้องกับวัตถุประสงค์

โพสต์โดย สัญญา : [27 พ.ค. 2561 เวลา 21:37 น.]
อ่าน [3934] ไอพี : 1.46.1.3
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 18,756 ครั้ง
รัฐธรรมนูญชั่วคราว 2557 กับฉบับ 2549 เหมือน-ต่างกันตรงไหน
รัฐธรรมนูญชั่วคราว 2557 กับฉบับ 2549 เหมือน-ต่างกันตรงไหน

เปิดอ่าน 12,405 ครั้ง
10 สัญญาณฟ้องว่าร่างกายเรากำลังขาดสารอาหารชนิดใดอยู่?
10 สัญญาณฟ้องว่าร่างกายเรากำลังขาดสารอาหารชนิดใดอยู่?

เปิดอ่าน 7,904 ครั้ง
ครูแท้แพ้ไม่เป็น ตอนที่4
ครูแท้แพ้ไม่เป็น ตอนที่4

เปิดอ่าน 22,894 ครั้ง
สรรพคุณทางยาของ "บวบหอม"
สรรพคุณทางยาของ "บวบหอม"

เปิดอ่าน 28,582 ครั้ง
โปรแกรมแว่นขยาย
โปรแกรมแว่นขยาย

เปิดอ่าน 41,710 ครั้ง
"วันครูโลก" 5 ตุลาคมของทุกปี
"วันครูโลก" 5 ตุลาคมของทุกปี

เปิดอ่าน 14,534 ครั้ง
อ้างพบธาตุหนักที่สุดมีเลขอะตอม 122
อ้างพบธาตุหนักที่สุดมีเลขอะตอม 122

เปิดอ่าน 24,663 ครั้ง
ปฏิรูปการศึกษาแล้ว ปฏิรูปการลูกเสือด้วยครับ โดย จารึก อะยะวงศ์
ปฏิรูปการศึกษาแล้ว ปฏิรูปการลูกเสือด้วยครับ โดย จารึก อะยะวงศ์

เปิดอ่าน 8,536 ครั้ง
จดหมายฉบับที่ 45 ถึงนายกรัฐมนตรี+รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
จดหมายฉบับที่ 45 ถึงนายกรัฐมนตรี+รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ

เปิดอ่าน 103,236 ครั้ง
บทสวดอโหสิกรรม
บทสวดอโหสิกรรม

เปิดอ่าน 17,661 ครั้ง
ฮือฮา นักดาราศาสตร์เผย ปรากฎชื่อ 7 อำเภอไทยบนหลุมดาวอังคาร
ฮือฮา นักดาราศาสตร์เผย ปรากฎชื่อ 7 อำเภอไทยบนหลุมดาวอังคาร

เปิดอ่าน 26,636 ครั้ง
การเรียนการสอนทางไกลแบบปฏิสัมพันธ์
การเรียนการสอนทางไกลแบบปฏิสัมพันธ์

เปิดอ่าน 19,273 ครั้ง
"ตังกุย" คืออะไร มีสรรพคุณอย่างไร
"ตังกุย" คืออะไร มีสรรพคุณอย่างไร

เปิดอ่าน 3,998 ครั้ง
พฤติกรรมที่ทำให้หน้าแก่เร็ว
พฤติกรรมที่ทำให้หน้าแก่เร็ว

เปิดอ่าน 12,390 ครั้ง
เข้าใจผิดทั่วโลก! นางแบบไต้หวันจ่อฟ้องคนปล่อยข่าวมั่วทำชีวิตพัง
เข้าใจผิดทั่วโลก! นางแบบไต้หวันจ่อฟ้องคนปล่อยข่าวมั่วทำชีวิตพัง

เปิดอ่าน 9,254 ครั้ง
นั่งนานทำให้เป็นคนขี้โรค
นั่งนานทำให้เป็นคนขี้โรค
เปิดอ่าน 9,890 ครั้ง
10 ความเข้าใจผิดๆ กับเรื่องอาหาร
10 ความเข้าใจผิดๆ กับเรื่องอาหาร
เปิดอ่าน 10,556 ครั้ง
ขับรถอย่างฉลาด ปลอดภัย และประหยัดน้ำมัน
ขับรถอย่างฉลาด ปลอดภัย และประหยัดน้ำมัน
เปิดอ่าน 16,589 ครั้ง
ไดร์ผมตรงอย่างมืออาชีพ
ไดร์ผมตรงอย่างมืออาชีพ
เปิดอ่าน 8,986 ครั้ง
ระวัง "โทรจัน" จากอีเมลโอลิมปิก
ระวัง "โทรจัน" จากอีเมลโอลิมปิก

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ