ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนาชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์โดยใช้วิธีการเรียนรู้แบบโครงงานร่วมกับเกม เรื่องสารละลาย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1

ชื่อเรื่อง การพัฒนาชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์โดยใช้วิธีการเรียนรู้แบบโครงงานร่วมกับเกม

เรื่องสารละลาย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1

ผู้ศึกษา นางสาววฤนดา เข็มพิลา

ที่ทำงาน โรงเรียนโคกปรงวิทยาคม อำเภอวิเชียรบุรี จังหวัดเพชรบูรณ์

ปีที่ศึกษา 2560

บทคัดย่อ

การศึกษาครั้งนี้มีจุดประสงค์ 1) ชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์โดยใช้วิธีการเรียนรู้แบบโครงงานร่วมกับเกม เรื่องสารละลาย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีประสิทธิภาพ เท่ากับ 80/80 และมีค่าดัชนีประสิทธิผลตั้งแต่ 0.5 ขึ้นไป 2) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนด้วยชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์โดยใช้วิธีการเรียนรู้แบบโครงงานร่วมกับเกม เรื่องสารละลาย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติ .05 3) ความพึงพอใจของนักเรียนต่อชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์โดยใช้วิธีการเรียนรู้แบบโครงงานร่วมกับเกม เรื่องสารละลาย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 อยู่ในระดับมากขึ้นไป เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาประกอบด้วยกิจกรรมวิทยาศาสตร์โดยใช้วิธีการเรียนรู้แบบโครงงานร่วมกับเกม เรื่องสารละลาย สำหรับนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 5 ชุด แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่องสารละลาย สำหรับนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 7 แผน แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน สำหรับนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 แบบปรนัย จำนวน 30 ข้อ และแบบวัดความพึงพอใจของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่มีต่อการเรียนรู้ด้วยชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์โดยใช้วิธีการเรียนรู้แบบโครงงานร่วมกับเกม เป็นมาตราส่วนประมาณค่า (Rating scale) 5 ระดับ จำนวน 10 ข้อ วิเคราะห์ข้อมูล โดยใช้สถิติค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าที (t-test)

สรุปผลการศึกษา

1. ชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์โดยใช้วิธีการเรียนรู้แบบโครงงานร่วมกับเกม เรื่องสารละลาย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 87.29/88.93 และค่าดัชนีประสิทธิผลเท่ากับ 0.75 สูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้

2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนจากการทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียน พบว่า มีค่าเฉลี่ยของคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนเท่ากับ 16.29 หลังเรียนมีค่าเฉลี่ยของคะแนนเท่ากับ 26.68 และผลการเปรียบเทียบความแตกต่างกันระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียนโดยการทดสอบค่าที (t-test) เท่ากับ 19.57 แสดงว่าคะแนนหลังเรียนสูงขึ้นกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

3. ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ด้วย ชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์โดยใช้วิธีการเรียนรู้แบบโครงงานร่วมกับเกม พบว่า นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนรู้ด้วยชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์โดยใช้วิธีการเรียนรู้แบบโครงงานร่วมกับเกมในระดับ ความพึงพอใจมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.65 และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ 0.50

โพสต์โดย ครูพันธุ์ใหม่ : [4 มิ.ย. 2561 เวลา 19:16 น.]
อ่าน [3555] ไอพี : 171.5.232.182
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 15,583 ครั้ง
นวดหน้าลดริ้วรอย
นวดหน้าลดริ้วรอย

เปิดอ่าน 11,187 ครั้ง
ทางรอดประเทศไทย : เปลี่ยนระบบการเรียนรู้
ทางรอดประเทศไทย : เปลี่ยนระบบการเรียนรู้

เปิดอ่าน 531,805 ครั้ง
วินัยข้าราชการครู
วินัยข้าราชการครู

เปิดอ่าน 11,890 ครั้ง
"ปรับการเรียน เปลี่ยนการสอน" ใช้ ICT เพื่อปฏิรูปการเรียนรู้
"ปรับการเรียน เปลี่ยนการสอน" ใช้ ICT เพื่อปฏิรูปการเรียนรู้

เปิดอ่าน 23,018 ครั้ง
วิธีดูแลรักษา แปรงสีฟัน
วิธีดูแลรักษา แปรงสีฟัน

เปิดอ่าน 8,981 ครั้ง
นักวิจัย สกสว.เจ๋ง ผลิต ‘มือเทียมกล’ ควบคุมผ่านสัญญาณไฟฟ้าในกล้ามเนื้อ เพื่อคนพิการ
นักวิจัย สกสว.เจ๋ง ผลิต ‘มือเทียมกล’ ควบคุมผ่านสัญญาณไฟฟ้าในกล้ามเนื้อ เพื่อคนพิการ

เปิดอ่าน 23,028 ครั้ง
ปฏิรูปการศึกษาไทย ในศตวรรษที่ 21 ไปทางไหน
ปฏิรูปการศึกษาไทย ในศตวรรษที่ 21 ไปทางไหน

เปิดอ่าน 9,405 ครั้ง
วิธีสร้างความสุขแบบสาวโสด
วิธีสร้างความสุขแบบสาวโสด

เปิดอ่าน 18,700 ครั้ง
กล้วยหอม ตัวช่วยลดน้ำหนักอย่างได้ผล
กล้วยหอม ตัวช่วยลดน้ำหนักอย่างได้ผล

เปิดอ่าน 12,609 ครั้ง
พระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2561
พระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2561

เปิดอ่าน 163,279 ครั้ง
งานแกะสลักไม้
งานแกะสลักไม้

เปิดอ่าน 21,222 ครั้ง
บารัค โอบามา
บารัค โอบามา

เปิดอ่าน 28,449 ครั้ง
ที่ไปและที่มาของการชู 2 นิ้ว (สู้ตายค่ะ)
ที่ไปและที่มาของการชู 2 นิ้ว (สู้ตายค่ะ)

เปิดอ่าน 14,642 ครั้ง
ความลับของการเลี้ยงลูก พ่อแม่ยุคนี้ ช่วยสละเวลาสัก 2 นาที อ่านหน่อยเถอะ
ความลับของการเลี้ยงลูก พ่อแม่ยุคนี้ ช่วยสละเวลาสัก 2 นาที อ่านหน่อยเถอะ

เปิดอ่าน 9,684 ครั้ง
เตือนภาชนะจากพลาสติก อันตรายต่อสมอง
เตือนภาชนะจากพลาสติก อันตรายต่อสมอง

เปิดอ่าน 12,552 ครั้ง
ลดความอ้วน ทำได้ ไม่ต้องพึ่งยา
ลดความอ้วน ทำได้ ไม่ต้องพึ่งยา
เปิดอ่าน 9,078 ครั้ง
กังนัมสไตล์เริ่ด ฮิตยันไฮโซอังกฤษ เด็กอีตันยังเลียนแบบ
กังนัมสไตล์เริ่ด ฮิตยันไฮโซอังกฤษ เด็กอีตันยังเลียนแบบ
เปิดอ่าน 9,207 ครั้ง
คลิปประทับใจ สานฝันเด็กพิเศษ ให้กลายเป็นจริง
คลิปประทับใจ สานฝันเด็กพิเศษ ให้กลายเป็นจริง
เปิดอ่าน 28,588 ครั้ง
สัตว์พวกปลาไม่มีความรู้สึกเจ็บปวดเลย โดนถูกเบ็ดเกี่ยวดิ้น ก็ไม่ได้ตกอกตกใจ(วิทย์)
สัตว์พวกปลาไม่มีความรู้สึกเจ็บปวดเลย โดนถูกเบ็ดเกี่ยวดิ้น ก็ไม่ได้ตกอกตกใจ(วิทย์)
เปิดอ่าน 2,962 ครั้ง
ปลูกดอกหน้าวัว แซมปาล์มน้ำมัน สร้างรายได้เสริม 46,000 บาท/ไร่/ปี
ปลูกดอกหน้าวัว แซมปาล์มน้ำมัน สร้างรายได้เสริม 46,000 บาท/ไร่/ปี

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ