ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบกิจกรรมการเรียนรู้แบบเรียนเล่นเป็นทีมเพื่อส่งเสริมความเข้าใจหลักภาษาไทย

ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบกิจกรรมการเรียนรู้แบบเรียนเล่นเป็นทีมเพื่อส่งเสริมความเข้าใจ

หลักภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3

ผู้วิจัย นางประนอม ลายรัตน์

ปีที่ทำวิจัย 2560

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนารูปแบบกิจกรรมการเรียนรู้แบบเรียนเล่นเป็นทีมเพื่อส่งเสริมความเข้าใจหลักภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 2) เพื่อหาประสิทธิภาพแผนการจัดการเรียนรู้ตามรูปแบบกิจกรรมการเรียนรู้แบบเรียนเล่นเป็นทีม 3) เพื่อเปรียบเทียบความเข้าใจหลักภาษาไทยก่อนและหลังการเรียนตามรูปแบบกิจกรรมการเรียนรู้แบบเรียนเล่นเป็นทีม และ 4) เพื่อประเมินผลรูปแบบกิจกรรมการเรียนรู้แบบเรียนเล่นเป็นทีมที่พัฒนาขึ้น

การดำเนินการวิจัยแบ่งเป็น 4 ขั้นตอน คือ ขั้นตอนที่ 1 การศึกษาปัญหาและความต้องการพัฒนารูปแบบกิจกรรมการเรียนการสอนสอนหลักภาษาไทย ขั้นตอนที่ 2 การออกแบบ สร้างและปรับปรุงรูปแบบกิจกรรมการเรียนรู้แบบเรียนเล่นเป็นทีม โดยนำกระบวนการ lesson study มาใช้ ขั้นตอนที่ 3 การนำรูปแบบกิจกรรมการเรียนรู้แบบเรียนเล่นเป็นทีพัฒนาขึ้นไปใช้ และขั้นตอนที่ 4 การประเมินผลรูปแบบกิจกรรมการเรียนรู้แบบเรียนเล่นเป็นทีม กลุ่มผู้ให้ข้อมูลและกลุ่มตัวอย่างเป็นครูและนักเรียนโรงเรียนเทศบาล ๔ (เพาะชำ) สังกัดสำนักการศึกษา เทศบาลนครนครราชสีมา โดยในขั้นตอนการสร้างและพัฒนา กลุ่มผู้ให้ข้อมูลเป็นครู จำนวน 6 คน กลุ่มตัวอย่างในขั้นตอนการนำรูปแบบไปใช้ เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ปีการศึกษา 2560 1 ห้องเรียน จำนวน 30 คน ได้จากการสุ่มอย่างง่าย กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการประเมินความพึงพอใจในการเรียนเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาที่ 3 ที่เรียนด้วยรูปแบบที่พัฒนาขึ้น และประมินความเหมาะสมของรูปแบบกิจกรรมที่พัฒนาขึ้นโดยครูผู้ให้ข้อมูลจำนวน 6 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย แบบสอบถามสภาพปัญหาและความต้องการพัฒนาการสอนหลักภาษาไทย การสนทนากลุ่ม แผนการจัดการเรียนรู้ตามรูปแบบเรียนเล่นเป็นทีม จำนวน 7 แผน แบบสังเกตชั้นเรียน แบบทดสอบวัดความเข้าใจหลักภาษาไทย แบบประเมินความพึงพอใจในการเรียน และแบบประเมินความเหมาะสมของรูปแบบกิจกรรมการเรียนรู้แบบเรียนเล่นเป็นทีม วิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณโดยหาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบที แบบ dependent t-test วิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพโดยการสรุปประเด็น

ผลการวิจัยพบว่า

1. รูปแบบกิจกรรมเรียนรู้แบบเรียนเล่นเป็นทีม เพื่อส่งเสริมความเข้าใจหลักภาษาไทยสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้น มี 5 องค์ประกอบ คือ หลักการ วัตถุประสงค์

เนื้อหา ขั้นตอนกิจกรรม และการวัดและประเมินผล โดยขั้นตอนกิจกรรมมี 7 ขั้นตอน หรือ PIT-ACCT ประกอบด้วย 1) ขั้นเตรียม (Preparation: P) 2) ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน (Introduction: I) 3) ขั้นศึกษาในทีม (Team Study: T) 4) ขั้นเล่นเกมเพื่อการเรียนรู้ (Academic Game: A) 5) ขั้นตรวจสอบผลการเล่น (Check: C) 6) ขั้นสรุปเนื้อหา (Conclusion: C) และ 7) ขั้นทดสอบ (Test : T)

2. แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบกิจกรรมการเรียนรู้แบบเรียนเล่นเป็นทีมเพื่อส่งเสริมความเข้าใจหลักภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้น มีประสิทธิภาพ (E1/E2) เท่ากับ 83.14/82.11

3. นักเรียนที่เรียนด้วยแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบกิจกรรมการเรียนรู้แบบเรียนเล่นเป็นทีม มีคะแนนความเข้าใจหลักภาษาไทยหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

4) นักเรียนที่เรียนด้วยแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบกิจกรรมการเรียนรู้แบบเรียนเล่นเป็นทีมมีระดับความพึงพอใจในการเรียนระดับมากที่สุด ผลการประเมินความเหมาะสมของรูปแบบกิจกรรมการเรียนรู้แบบเรียนเล่นเป็นทีมโดยครูที่เกี่ยวข้อง อยู่ในระดับมาก

โพสต์โดย ครูประนอม : [30 ก.ค. 2561 เวลา 10:08 น.]
อ่าน [3157] ไอพี : 128.199.95.69
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 36,369 ครั้ง
ประณีตศิลป์ไทย
ประณีตศิลป์ไทย

เปิดอ่าน 8,334 ครั้ง
17 วิธี Refresh สุขภาพแบบฮอต ฮอต
17 วิธี Refresh สุขภาพแบบฮอต ฮอต

เปิดอ่าน 14,284 ครั้ง
10 เคล็ดลับ ลดน้ำตาล ลดโรค ลดอ้วน
10 เคล็ดลับ ลดน้ำตาล ลดโรค ลดอ้วน

เปิดอ่าน 9,925 ครั้ง
มีอะไรซ่อนอยู่ในการนอนของเด็ก
มีอะไรซ่อนอยู่ในการนอนของเด็ก

เปิดอ่าน 9,979 ครั้ง
สรยุทธ แจง อมเงินโฆษณา อสมท 138ล.
สรยุทธ แจง อมเงินโฆษณา อสมท 138ล.

เปิดอ่าน 13,372 ครั้ง
ประวัติความเป็นมาของยางพารา
ประวัติความเป็นมาของยางพารา

เปิดอ่าน 7,814 ครั้ง
ยิ่งกวดวิชามาก ยิ่งสะท้อนปัญหามาก
ยิ่งกวดวิชามาก ยิ่งสะท้อนปัญหามาก

เปิดอ่าน 7,778 ครั้ง
เล่นหมากล้อม สามารถพัฒนาผลการเรียนคณิตศาสตร์ได้!
เล่นหมากล้อม สามารถพัฒนาผลการเรียนคณิตศาสตร์ได้!

เปิดอ่าน 8,586 ครั้ง
ประโยชน์ของการหัวเราะ
ประโยชน์ของการหัวเราะ

เปิดอ่าน 8,195 ครั้ง
เทคนิคนวดผมพาเพลิน
เทคนิคนวดผมพาเพลิน

เปิดอ่าน 11,225 ครั้ง
เหงื่อบอกโรค
เหงื่อบอกโรค

เปิดอ่าน 453 ครั้ง
ออกแบบมัลติมีเดียปฏิสัมพันธ์ต้องเริ่มยังไง
ออกแบบมัลติมีเดียปฏิสัมพันธ์ต้องเริ่มยังไง

เปิดอ่าน 14,885 ครั้ง
ลดสารพิษเพื่อสุขภาพด้วยสมุนไพร
ลดสารพิษเพื่อสุขภาพด้วยสมุนไพร

เปิดอ่าน 22,659 ครั้ง
ฮวงจุ้ยที่ดินรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าอยู่แล้วรวย
ฮวงจุ้ยที่ดินรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าอยู่แล้วรวย

เปิดอ่าน 10,881 ครั้ง
12 สุขลักษณะ การนอนที่ดี
12 สุขลักษณะ การนอนที่ดี

เปิดอ่าน 790 ครั้ง
ไขมันในร่างกาย
ไขมันในร่างกาย
เปิดอ่าน 18,608 ครั้ง
วิธีการลดขนาดภาพ โดยลดขนาดความกว้างของภาพหลายภาพในครั้งเดียว
วิธีการลดขนาดภาพ โดยลดขนาดความกว้างของภาพหลายภาพในครั้งเดียว
เปิดอ่าน 14,547 ครั้ง
ฟื้นฟูผิวหลังถูกแดดเผา
ฟื้นฟูผิวหลังถูกแดดเผา
เปิดอ่าน 17,654 ครั้ง
ดวงจันทร์ (Moon)
ดวงจันทร์ (Moon)
เปิดอ่าน 1,349 ครั้ง
จัดบ้าน (ให้) ปลอดภัยต่อวัยสูงอายุ
จัดบ้าน (ให้) ปลอดภัยต่อวัยสูงอายุ

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ