ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ Masoree Model เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง และมีทักษะการคิดขั้นสูง ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท

การวิจัยครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อ 1) พัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ Masoree Model เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง และมีทักษะการคิดขั้นสูง ของนักเรียน

ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาล ๑ บ้านจะบังติกอ 2) ศึกษาประสิทธิผลของรูปแบบการจัดการเรียนรู้ Masoree Model เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง และมีทักษะการคิดขั้นสูง ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาล ๑ บ้านจะบังติกอ โดย 2.1) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ Masoree Model เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง และมีทักษะการคิดขั้นสูง ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาล ๑ บ้านจะบังติกอ 2.2) ศึกษาพัฒนาการความสามารถในการแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง และมีทักษะการคิดขั้นสูงของนักเรียนที่จัดการเรียนรู้ประกอบการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ Masoree Model เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง และมีทักษะการคิดขั้นสูง ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาล ๑ บ้านจะบังติกอ 2.3) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่จัดการเรียนรู้ประกอบการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ Masoree Model เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง และมีทักษะการคิดขั้นสูง ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาล ๑ บ้านจะบังติกอ และ 3) เพื่อขยายผลการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ Masoree Model เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง และมีทักษะการคิดขั้นสูง ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาล ๑ บ้านจะบังติกอ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาล ๑ บ้านจะบังติกอ ที่กำลังศึกษาในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 1 ห้องเรียน จำนวนนักเรียน 19 คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มอย่างง่าย (Simple Random Sampling) วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติแบบไม่อิสระและแบบอิสระ และ

การวิเคราะห์เนื้อหา ผลการวิจัย พบว่า

1. รูปแบบการจัดการเรียนรู้ Masoree Model เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง และมีทักษะการคิดขั้นสูง ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาล ๑ บ้านจะบังติกอ ประกอบด้วยองค์ประกอบ 3 องค์ประกอบ คือ องค์ประกอบเชิงหลักการและวัตถุประสงค์ องค์ประกอบเชิงกระบวนการและองค์ประกอบเชิงเงื่อนไขการนำไปใช้ มีกระบวนการจัดการเรียนรู้ 7 ขั้นตอนคือ ขั้นที่ 1 เตรียมพร้อม (M = maneuver) ขั้นที่ 2 กระตุ้น (a = activate) ขั้นที่ 3 วางแผน (s = scheme) ขั้นที่ 4 แสวงหาความรู้ (o = obtain) ขั้นที่ 5 ฝึกฝน (r = rule)ขั้นที่ 6 สรุป (e = extract) ขั้นที่ 7 นำไปใช้ (e = employ) ซึ่งมีประสิทธิภาพเท่ากับ 82.97/82.08 เป็นไปตามเกณฑ์ 80/80

2. ประสิทธิผลของรูปแบบการจัดการเรียนรู้ Masoree Model เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง และมีทักษะการคิดขั้นสูง ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาล ๑ บ้านจะบังติกอ พบว่า

2.1 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนหลังเรียนโดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ Masoree Model เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง และมีทักษะการคิด ขั้นสูง ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาล ๑ บ้านจะบังติกอ หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญสถิติที่ระดับ .01

2.2 ความสามารถในการแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง และมีทักษะการคิดขั้นสูง ของนักเรียนที่จัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ Masoree Model เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง และมีทักษะการคิดขั้นสูง ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาล ๑ บ้านจะบังติกอ สูงขึ้นในช่วงระหว่างเรียน

2.3 ความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ Masoree Model เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง และมีทักษะการคิดขั้นสูง ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาล ๑ บ้านจะบังติกอ อยู่ในระดับมากที่สุด (x̄ = 4.65, S.D. = 0.60)

3. การขยายผลการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ Masoree Model เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง และมีทักษะการคิดขั้นสูง ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาล ๑ บ้านจะบังติกอ พบว่านักเรียนกลุ่มขยายผลมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และมีพัฒนาการความสามารถในการแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง และมีทักษะการคิดขั้นสูง ในช่วงระหว่างเรียน นอกจากนี้ความคิดเห็นที่มีต่อการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้อยู่ในระดับมากที่สุด

โพสต์โดย มะสอรี มีเหาะ : [7 ส.ค. 2561 เวลา 13:24 น.]
อ่าน [3457] ไอพี : 223.205.26.242
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 16,453 ครั้ง
เขย่าขวดก่อนรินยา คุณทำแล้วหรือยัง?
เขย่าขวดก่อนรินยา คุณทำแล้วหรือยัง?

เปิดอ่าน 21,967 ครั้ง
มดใช้อะไรดมกลิ่น
มดใช้อะไรดมกลิ่น

เปิดอ่าน 19,158 ครั้ง
สมดุลของ 2 ส้อม และ 1 ไม้จิ้มฟัน
สมดุลของ 2 ส้อม และ 1 ไม้จิ้มฟัน

เปิดอ่าน 56,792 ครั้ง
ห้องสมุด 3 ดี
ห้องสมุด 3 ดี

เปิดอ่าน 16,619 ครั้ง
การศึกษาชำรุด-เด็กไม่รู้จักตัวเอง ปรับระบบสอบแค่แก้ปัญหาปลายเหตุ
การศึกษาชำรุด-เด็กไม่รู้จักตัวเอง ปรับระบบสอบแค่แก้ปัญหาปลายเหตุ

เปิดอ่าน 19,263 ครั้ง
ข่าวดีผู้ชอบดื่ม "ชา" ไม่ใช่แค่ดื่มเท่ห์ๆ แต่ดีต่อสุขภาพ
ข่าวดีผู้ชอบดื่ม "ชา" ไม่ใช่แค่ดื่มเท่ห์ๆ แต่ดีต่อสุขภาพ

เปิดอ่าน 10,363 ครั้ง
แนวทางการส่งเสริมพัฒนาการเด็กวัย3 - 6 ปี สำหรับพ่อแม่ ผู้ปกครอง
แนวทางการส่งเสริมพัฒนาการเด็กวัย3 - 6 ปี สำหรับพ่อแม่ ผู้ปกครอง

เปิดอ่าน 10,763 ครั้ง
รวยด้วยมรรค 8
รวยด้วยมรรค 8

เปิดอ่าน 18,859 ครั้ง
10 คำพูดดีๆที่ลูกอยากได้ยินจากพ่อแม่
10 คำพูดดีๆที่ลูกอยากได้ยินจากพ่อแม่

เปิดอ่าน 25,354 ครั้ง
ความสำคัญของการศึกษาปฐมวัย
ความสำคัญของการศึกษาปฐมวัย

เปิดอ่าน 21,576 ครั้ง
 ปิดเทอมนี้ให้ลูกวัยรุ่นทำอะไรดีนะ/ดร.แพง ชินพงศ์
ปิดเทอมนี้ให้ลูกวัยรุ่นทำอะไรดีนะ/ดร.แพง ชินพงศ์

เปิดอ่าน 27,394 ครั้ง
การจัดลำดับอาวุโสในราชการ
การจัดลำดับอาวุโสในราชการ

เปิดอ่าน 22,240 ครั้ง
ลักษณะนิ้วมือบ่งบอกอะไร?
ลักษณะนิ้วมือบ่งบอกอะไร?

เปิดอ่าน 14,570 ครั้ง
ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ อันตรายที่อย่ามองข้าม
ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ อันตรายที่อย่ามองข้าม

เปิดอ่าน 52,962 ครั้ง
รายละเอียดเกณฑ์วิทยฐานะ(ใหม่) ใช้บังคับ 1 ต.ค.51
รายละเอียดเกณฑ์วิทยฐานะ(ใหม่) ใช้บังคับ 1 ต.ค.51

เปิดอ่าน 13,314 ครั้ง
การออกกำลังกายเพิ่มภูมิต้านทานความเครียดให้กับสมอง
การออกกำลังกายเพิ่มภูมิต้านทานความเครียดให้กับสมอง
เปิดอ่าน 91,910 ครั้ง
วิธีการปลูกมะนาวในวงบ่อซีเมนต์ที่ถูกต้อง
วิธีการปลูกมะนาวในวงบ่อซีเมนต์ที่ถูกต้อง
เปิดอ่าน 14,935 ครั้ง
เสียงประทัดส่งผลกระทบผู้ป่วย "โรคหัวใจ-ความดันโลหิต"
เสียงประทัดส่งผลกระทบผู้ป่วย "โรคหัวใจ-ความดันโลหิต"
เปิดอ่าน 13,015 ครั้ง
ระเบียบสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ว่าด้วยกองทุนสานพลังประชารัฐ:โรงเรียนประชารัฐ พ.ศ.2559
ระเบียบสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ว่าด้วยกองทุนสานพลังประชารัฐ:โรงเรียนประชารัฐ พ.ศ.2559
เปิดอ่าน 14,789 ครั้ง
น้อมรำลึกถึง สมเด็จย่า เส้นทางแม่ฟ้าหลวงทรงสร้างคน
น้อมรำลึกถึง สมเด็จย่า เส้นทางแม่ฟ้าหลวงทรงสร้างคน

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ