ชื่อเรื่อง รายงานผลการพัฒนาทักษะการฟัง การพูด การอ่านและการเขียนโดยใช้หนังสือ
เสริมประสบการณ์ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาล ๑ (ขจรเนติยุทธ)
เทศบาลเมืองลำสามแก้ว อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี
ผู้วิจัย นางนุชนารถ รัตนดร ตำแหน่งครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ
โรงเรียนเทศบาล ๑ (ขจรเนติยุทธ) เทศบาลเมืองลำสามแก้ว อำเภอลำลูกกา
จังหวัดปทุมธานี
ปีที่วิจัย พ.ศ. 2560
บทคัดย่อ
รายงานการพัฒนาทักษะการฟัง การพูด การอ่านและการเขียน โดยใช้หนังสือเสริมประสบการณ์ ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาล ๑ (ขจรเนติยุทธ) เทศบาลเมืองลำสามแก้ว อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) เพื่อสร้างและพัฒนาหนังสือเสริมประสบการณ์พัฒนาทักษะการฟัง การพูด การอ่านและการเขียนของนักเรียนอนุบาลปีที่ 2 ให้มีประสิทธิภาพ 75/75 (2) เพื่อเปรียบเทียบความสามารถด้านทักษะการฟัง การพูด การอ่านและ
การเขียน ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 ก่อนและหลังการจัดประสบการณ์โดยใช้หนังสือเสริมประสบการณ์และ (3) เพื่อศึกษาทักษะการฟัง การพูด การอ่านและการเขียนของนักเรียนอนุบาลปีที่ 2 ที่ได้รับการจัดประสบการณ์โดยใช้หนังสือเสริมประสบการณ์ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาล ๑ (ขจรเนติยุทธ) เทศบาลเมืองลำสามแก้ว อำเภอ
ลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 38 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้า ได้แก่ (1) หนังสือเสริมประสบการณ์สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 จำนวน 10 เล่ม (2) แผนการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์โดยการใช้หนังสือเสริมประสบการณ์ สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 มีทั้งหมด 50 แผน 10 สัปดาห์ สัปดาห์ละ 50 วันละ 30 นาที (3) แบบประเมินทักษะการฟัง การพูด การอ่านและการเขียนของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 จำนวน 20 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติทดสอบ t-test
ผลการวิจัยเรื่อง การพัฒนาทักษะการฟัง การพูด การอ่านและการเขียน โดยใช้หนังสือเสริมประสบการณ์ ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาล ๑ (ขจรเนติยุทธ) เทศบาลเมืองลำสามแก้ว อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี สามารถสรุปผลการวิจัยได้ดังนี้
1. ประสิทธิภาพของหนังสือเสริมประสบการณ์เพื่อพัฒนาทักษะด้านการฟัง การพูด
การอ่านและการเขียน มีประสิทธิภาพเท่ากับ 82.73/83.42 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้
2. นักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 ที่ได้รับการจัดประสบการณ์โดยใช้หนังสือเสริมประสบการณ์เพื่อพัฒนาทักษะด้านการฟัง การพูด การอ่านและการเขียน โดยจำแนกเป็นรายด้าน ทั้ง 4 ด้าน ได้แก่ ด้านการฟัง ด้านการพูด ด้านการอ่านและด้านการเขียน ก่อนการทดลองและหลังการทดลองแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 โดยนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 มีทักษะด้านการฟัง ด้านการพูด ด้านการอ่านและด้านการเขียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน
3. ผลการพัฒนาทักษะการฟัง การพูด การอ่านและการเขียนของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 ด้วยการจัดประสบการณ์โดยใช้หนังสือเสริมประสบการณ์ พบวา หลังการจัดประสบการณ์โดยใช้หนังสือเสริมประสบการณ์นักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 มีพัฒนาการดานการฟง การพูด การอาน และการเขียน ได้เหมาะสมกับวัยของตัวเอง