ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
แนวทางการพัฒนาโรงเรียนสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดมหาสารคามสู่องค์กรแห่งการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพในศตวรรษที่ 21 ภายใต้กรอบการบริหารเชิงดุลยภาพภาพ

การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาสภาพปัญหา ความจำเป็นในการพัฒนา และลักษณะความเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ 2) เพื่อกำหนดแนวทางการพัฒนา 3) เพื่อทดลองใช้ แนวทางพัฒนา และ 4) เพื่อประเมินผลการใช้แนวทางการพัฒนา การดำเนินการวิจัยแบ่งออก เป็น 4 ระยะ ดังนี้ ระยะที่ 1 ศึกษาสภาพปัญหา ความจำเป็นในการพัฒนา และลักษณะความเป็น

องค์กรแห่งการเรียนรู้ ประชากร และกลุ่มตัวอย่าง การสัมภาษณ์เชิงลึก เลือกศึกษาสถานศึกษา และอุทยานการเรียนรู้ที่เป็น Best Practice ในด้านการจัดการศึกษาที่มีคุณภาพ จำนวน 3 แห่ง และการศึกษาเชิงสำรวจ ประชากร ได้แก่ ฝ่ายบริหารโรงเรียน จำนวน 37 คน คณะครู ทั้ง 20 โรงเรียน จำนวน 476 คน รวมประชากรทั้งหมด 513 คน กลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ ฝ่ายบริหาร จำนวน 37 คน กลุ่มตัวอย่างได้แก่ คณะครู ทั้ง 20 โรงเรียน จำนวน 213 คน รวมกลุ่มตัวอย่างทั้งหมด 250 คน เครื่องมือเป็นแบบสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้าง และแบบสอบถาม ระยะที่ 2 การออกแบบและพัฒนา และการตรวจสอบคุณภาพ การกำหนดแนวทางพัฒนา กลุ่มผู้ร่วมวิจัย จำนวนทั้งหมด 19 คน การสนทนากลุ่มผู้ทรงคุณวุฒิ กลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ ผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวนทั้งหมด 13 คน เครื่องมือ ได้แก่ แนวการฝึกอบรมเพื่อให้ความรู้ด้านการวิเคราะห์องค์กร การกำหนดทิศทางองค์กร แบบบันทึกการประชุมเชิงปฏิบัติการ และการสนทนากลุ่มผู้เชี่ยวชาญ ระยะที่ 3 การทดลองใช้แนวทางพัฒนา ทำการทดลองใช้แนวทางพัฒนา จำนวน 3 โรงเรียน เครื่องมือ ได้แก่ โครงการพัฒนา จำนวน 12 โครงการ ที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์หลัก และลักษณะองค์กรแห่งการเรียนรู้ทั้ง 6 ด้าน 4) ระยะที่ 4 การประเมิน และปรับปรุงแนวทางพัฒนา ประชากร ได้แก่ คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวนทั้งหมด 39 คน ฝ่ายบริหาร คณะครู จำนวนทั้งหมด 56 คน รวมประชากรทั้งหมด จำนวน 95 คน กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 37 คน ฝ่ายบริหาร คณะครู จำนวน 53 คน รวมจำนวนกลุ่มตัวอย่างทั้งหมด 90 คน เครื่องมือ ได้แก่ แบบตรวจติดตามผลการดำเนินงานตามโครงการ แบบบันทึกผลการประชุมกลุ่มย่อย แบบรายงานผลการปฏิบัติงานตามโครงการ และแบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลด้วย ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ ทำการวิเคราะห์เนื้อหาสำหรับข้อมูลเชิงคุณภาพ

ผลการวิจัย พบว่า

1. การดำเนินงานตามลักษณะองค์กรแห่งการเรียนรู้ทั้ง 6 ด้าน ส่วนใหญ่มีปัญหา อยู่ในในระดับมาก และมีความจำเป็นที่ต้องมีการปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์ ในการบริหารสถานศึกษาจากแนวทางการบริหารที่ผ่านมา ไปสู่การพัฒนาสถานศึกษาสู่ความเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ หรือโรงเรียนแห่งการเรียนรู้ เพื่อให้สมาชิกทุกคนขององค์กรได้รับการพัฒนาอย่างเต็มตามศักยภาพ

2. ผลของการกำหนดแนวทางการพัฒนา มีแนวทาง ดังนี้ 1) วิเคราะห์สภาพแวดล้อมของโรงเรียนสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดมหาสารคาม ทั้ง 20 โรงเรียน 2) กำหนดทิศทางองค์กร (วิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้าประสงค์) 3) กำหนดยุทธศาสตร์หลัก 4) กำหนดมุมมอง 5) จัดทำแผนที่ยุทธศาสตร์ 6) กำหนดตัวชี้วัดตามเป้าประสงค์บนแผนที่ยุทธศาสตร์ 7) ระดมกิจกรรม โครงการ พัฒนาใหม่ ๆ 8) จัดทำแผนปฏิบัติการ 9) กำหนดแนวทางการนำแผนสู่การปฏิบัติ และ 10) กำหนดแนวทางการนิเทศ กำกับ ติดตามประเมินผล ซึ่งแนวทางดังกล่าวได้รับการยืนยันความเหมาะสม จากผู้ทรงคุณวุฒิ

3. ผลการทดลองใช้แนวทางการพัฒนา พบว่า ตัวชี้วัดของโครงการสามารถบรรลุเป้าหมายการปฏิบัติงานที่ตั้งไว้ จำนวน 10 ตัวชี้วัด ได้แก่ ร้อยละของนักเรียนชั้น ม.6 ที่มีทักษะ ด้านICT ตามที่กำหนด ร้อยละของผู้เรียนที่มีความเสี่ยงด้านสิ่งเสพติดลดลง ร้อยละของนักเรียน กลุ่มเป้าหมายที่มีการออมเงินอย่างต่อเนื่อง ร้อยละของนักเรียนกลุ่มเป้าหมายที่เข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาทักษะอาชีพอย่างน้อย 1 กิจกรรม ร้อยละของนักเรียนกลุ่มเป้าหมายที่มีส่วนร่วมอนุรักษ์ ป่าชุมชน ร้อยละของห้องเรียนที่จัดมุมศึกษา ค้นคว้าภายในชั้นเรียน ร้อยละของครูที่เขียนแผน การจัดการเรียนรู้เพศวิถีศึกษา ร้อยละของครูที่มีทักษะในการวัดผลประเมินผลการเรียนรู้ ตามสภาพจริง ร้อยละของนักเรียนกลุ่มเป้าหมายที่เข้าร่วมโครงการหิ้วปิ่นโตเข้าวัด ร้อยละของนักเรียนที่มีนิสัยรักการอ่าน ส่วนตัวชี้วัดที่มีผลการประเมินไม่บรรลุเป้าหมาย มีจำนวน 2 ตัว ได้แก่ ร้อยละของครูที่เขียนแผนการจัดการเรียนรู้บูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง

และ จำนวนหลักสูตรท้องถิ่นของกลุ่มสาระการเรียนรู้

4) ผลการประเมินแนวทาง การพัฒนา ในภาพรวม พบว่า ทุกด้านมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย 4.57 เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุดทุกด้าน และเรียงลำดับค่าเฉลี่ยจากมาก ไปหาน้อย 3 ข้อแรก ได้แก่ ด้านผลผลิต มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.63 รองลงมาคือ ด้านบริบท มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.61 และ ด้านกระบวนการ มีค่าเฉลี่ย เท่ากับ 4.57 ตามลำดับ

โพสต์โดย นงเยาว์ : [27 ส.ค. 2561 เวลา 08:07 น.]
อ่าน [3442] ไอพี : 180.183.23.147
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 63,681 ครั้ง
การสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์เป็นราชธานี
การสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์เป็นราชธานี

เปิดอ่าน 11,211 ครั้ง
ฟ้าทะลายโจร แจกฟรี สู้หวัด2009
ฟ้าทะลายโจร แจกฟรี สู้หวัด2009

เปิดอ่าน 20,901 ครั้ง
ทักษะที่จำเป็นของคนอายุ 18
ทักษะที่จำเป็นของคนอายุ 18

เปิดอ่าน 15,498 ครั้ง
โหงวเฮ้งดี เปลี่ยนได้ไ่ม่ยาก!
โหงวเฮ้งดี เปลี่ยนได้ไ่ม่ยาก!

เปิดอ่าน 23,465 ครั้ง
"ของเล่นบ้านๆ" สื่อพัฒนาทักษะเด็กปฐมวัยในยุคดิจิทัล
"ของเล่นบ้านๆ" สื่อพัฒนาทักษะเด็กปฐมวัยในยุคดิจิทัล

เปิดอ่าน 16,596 ครั้ง
แก้รอยสิวด้วยน้ำผึ้งและแอปเปิ้ล
แก้รอยสิวด้วยน้ำผึ้งและแอปเปิ้ล

เปิดอ่าน 48,841 ครั้ง
ทฤษฎีบทขิองปิทาโกรัส
ทฤษฎีบทขิองปิทาโกรัส

เปิดอ่าน 18,550 ครั้ง
สาวไส้ความง่อยเปลี้ยระบบศึกษาไทย ใครอยู่เบื้องหลังความเหวอะหวะซ้ำซาก?
สาวไส้ความง่อยเปลี้ยระบบศึกษาไทย ใครอยู่เบื้องหลังความเหวอะหวะซ้ำซาก?

เปิดอ่าน 14,657 ครั้ง
ค้นพบดาวเคราะห์นอกระบบ สุริยะ 10 ดวงที่คล้ายโลก
ค้นพบดาวเคราะห์นอกระบบ สุริยะ 10 ดวงที่คล้ายโลก

เปิดอ่าน 16,050 ครั้ง
คู่มือการบริหารงานบุคคลข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาของ กศจ. (ฉบับปรับปรุง ครั้งที่ 4) สิงหาคม 2563
คู่มือการบริหารงานบุคคลข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาของ กศจ. (ฉบับปรับปรุง ครั้งที่ 4) สิงหาคม 2563

เปิดอ่าน 11,274 ครั้ง
บุหรี่มวน (Cigarette) ผลกระทบต่อสุขภาพ
บุหรี่มวน (Cigarette) ผลกระทบต่อสุขภาพ

เปิดอ่าน 18,604 ครั้ง
สุดยอด 5 ผลไม้บำรุงเลือด
สุดยอด 5 ผลไม้บำรุงเลือด

เปิดอ่าน 11,283 ครั้ง
โยคะดีกับผิว เหมาะกับวัย
โยคะดีกับผิว เหมาะกับวัย

เปิดอ่าน 74,529 ครั้ง
รวมกฏกระทรวงศึกษาธิการ
รวมกฏกระทรวงศึกษาธิการ

เปิดอ่าน 10,875 ครั้ง
"แก่"…อย่างมีคุณค่า โดย รศ.ดร.สุขุม เฉลยทรัพย์
"แก่"…อย่างมีคุณค่า โดย รศ.ดร.สุขุม เฉลยทรัพย์

เปิดอ่าน 16,906 ครั้ง
ไก่เคยูเบตง สร้างทางเลือกใหม่ให้ผู้บริโภค
ไก่เคยูเบตง สร้างทางเลือกใหม่ให้ผู้บริโภค
เปิดอ่าน 9,795 ครั้ง
วิธีแบกเป้ไปโรงเรียนอย่างปลอดภัย
วิธีแบกเป้ไปโรงเรียนอย่างปลอดภัย
เปิดอ่าน 18,018 ครั้ง
การถ่ายภาพวิวทิวทัศน์
การถ่ายภาพวิวทิวทัศน์
เปิดอ่าน 10,228 ครั้ง
พฤติกรรมทำร้ายกระดูกสันหลัง
พฤติกรรมทำร้ายกระดูกสันหลัง
เปิดอ่าน 26,866 ครั้ง
"พลู" สมุนไพรไทย ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต
"พลู" สมุนไพรไทย ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ