ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์การแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ ของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 3

การสร้างรูปแบบการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์การแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาลวัดเกษมจิตตาราม (อนุบาลศึกษาพัฒนาการ) ตามรูปแบบ (PISAA) 5 ขั้นตอน เป็นการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) ผู้วิจัยแบ่งการดำเนินงาน การพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์การแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาลวัดเกษมจิตตาราม (อนุบาลศึกษาพัฒนาการ) แบ่งเป็น 4 ขั้นตอน คือ ขั้นตอนที่ 1 การวิจัย (Research : R1) เป็นการวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐาน (Analysis : A) การศึกษาข้อมูลพื้นฐานสำหรับการพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์การแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ ของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาลวัดเกษมจิตตาราม (อนุบาลศึกษาพัฒนาการ) ขั้นตอนที่ 2 การพัฒนา (Development : D1) เป็นการออกแบบและพัฒนา (Design and Development D & D) การพัฒนาหาประสิทธิภาพรูปแบบการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์การแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาลวัดเกษมจิตตาราม (อนุบาลศึกษาพัฒนาการ) ขั้นตอนที่ 3 การวิจัย (Research : R2) เป็นการนำไปใช้ (Implementation : I)การทดลองใช้รูปแบบการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์การแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาลวัดเกษมจิตตาราม (อนุบาลศึกษาพัฒนาการ) และขั้นตอนที่ 4 การพัฒนา (Development : D2) เป็นการประเมินผล (Evaluation : E) การประเมินและปรับปรุง แก้ไขการพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์การแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ของเด็กปฐมวัยชั้นอนุบาลปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาลวัดเกษมจิตตาราม (อนุบาลศึกษาพัฒนาการ) การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์การแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ ของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 3 โดยมีวัตถุประสงค์ย่อยดังนี้ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบ การจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์การแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาลวัดเกษมจิตตาราม (อนุบาลศึกษาพัฒนาการ) 2) เพื่อพัฒนาและหาประสิทธิภาพ ของรูปแบบการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์การแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาลวัดเกษมจิตตาราม (อนุบาลศึกษาพัฒนาการ) ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 3) เพื่อเปรียบเทียบความสามารถในการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 3 ก่อนและหลังการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์การแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ ของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาลวัดเกษมจิตตาราม (อนุบาลศึกษาพัฒนาการ) และ 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของครูปฐมวัยที่มีต่อการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์การแก้ปัญหา อย่างสร้างสรรค์ของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาลวัดเกษมจิตตาราม (อนุบาลศึกษาพัฒนาการ) กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ 1) เด็กเพศชายและเพศหญิง อายุระหว่าง 4-5 ปี กำลังศึกษาอยู่ชั้นอนุบาลปีที่ 3/4 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 25560 โรงเรียนเทศบาลวัดเกษมจิตตาราม (อนุบาลศึกษาพัฒนาการ) ซึ่งได้มาโดยการเลือกสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Sampling) จำนวน 20 คน 2) ครูปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาลวัดเกษมจิตตาราม (อนุบาลศึกษาพัฒนาการ)ซึ่งได้มาโดยการเลือกสุ่มแบบเจาะจง (Purposive Sampling) จำนวน 12 คน ตัวแปรที่ศึกษาประกอบด้วย 1) ตัวแปรต้น (Independent Variable) ได้แก่ รูปแบบการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์ การแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์สำหรับเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาลวัดเกษมจิตตาราม (อนุบาลศึกษาพัฒนาการ) ตามรูปแบบ (PISAA) 5 ขั้นตอน 2) ตัวแปรตาม (Dependent Variable) ได้แก่ ความสามารถในการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 3 ประกอบด้วย 5 ด้านและความพึงพอใจที่มีต่อการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์การแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ ของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาลวัดเกษมจิตตาราม (อนุบาลศึกษาพัฒนาการ) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) รูปแบบการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์การแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ ของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาลวัดเกษมจิตตาราม (อนุบาลศึกษาพัฒนาการ) โดยถ่ายทอดแนวคิดของรูปแบบการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์ออกมาในรูปแบบของแผนการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์การแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาลวัดเกษมจิตตาราม (อนุบาลศึกษาพัฒนาการ) 2) แบบทดสอบความสามารถในการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 3 และ 3) แบบสอบถามความพึงพอใจที่มีต่อการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์การแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาลวัดเกษมจิตตาราม (อนุบาลศึกษาพัฒนาการ) การวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้การวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis) ค่าร้อยละ (%) ค่าเฉลี่ย ( ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ( ) สถิติ Wilcoxon Signed-Ranks Test (Wilcoxon Value, Wilcoxon Prob)

สรุปผลการวิจัย

1. ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์ การแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาลวัดเกษมจิตตาราม (อนุบาลศึกษาพัฒนาการ) ซึ่งประกอบด้วยข้อมูลพื้นฐานเอกสารและข้อมูลพื้นฐานบุคคล สามารถกำหนดเป็นนิยาม องค์ประกอบและพฤติกรรมในแต่ละองค์ประกอบของความสามารถใน การแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์และแนวทางการพัฒนาความสามารถในการแก้ปัญหา พบว่า พฤติกรรมที่แสดงถึงการรับรู้การทำความเข้าใจกับปัญหาและการคิดหาเหตุผลเพื่อแสวงหาหาทางเลือกมาปฏิบัติในการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 3 โดยการกระตุ้นให้เด็กปฐมวัยคิดและตอบคำถามอย่างสม่ำเสมอ กิจกรรมการระดมสมอง ครูปฐมวัยและเด็กปฐมวัย มีส่วนร่วม ในกิจกรรมสร้างสรรค์โดยครูสามารถเป็นผู้กำหนดกรอบของคำถามในการระดมสมองเพื่อให้เกิดทิศทางในการค้นหาและได้มาซึ่งคำตอบตามวัตถุประสงค์ส่งเสริมให้เด็กปฐมวัยเรียนรู้ผ่านประสาทสัมผัสทั้งห้า ให้เด็กปฐมวัยคิดวางแผนและลงมือปฏิบัติกิจกรรมสร้างสรรค์ด้วยตนเองมีหลากหลาย ใช้หลายวิธีเหมาะสมกับวัยเด็กปฐมวัยโดยมีสื่อ วัสดุอุปกรณ์ที่แปลกใหม่ สีสันสวยงามประกอบกับ การสร้างสถานการณ์จำลองโดยใช้เหตุการณ์เกี่ยวกับชีวิตประจำวันเพื่อให้เด็กปฐมวัยได้แก้ปัญหา จากประสบการณ์ตรง มีการปรับเปลี่ยนสภาพแวดล้อมในห้องเรียนสม่ำเสมอเพื่อสร้างแรงจูงใจ เด็กปฐมวัยได้เกิดคำถามและต้องการค้นหาคำตอบในการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์

2. ผลการพัฒนาและหาประสิทธิภาพของรูปแบบการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์ การแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาลวัดเกษมจิตตาราม (อนุบาลศึกษาพัฒนาการ) ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 ดังนี้

2.1 ผลการพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์การแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาลวัดเกษมจิตตาราม (อนุบาลศึกษาพัฒนาการ) พบว่า กระบวนการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์ที่พัฒนาความสามารถในการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 3 ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นประกอบด้วยความเป็นมาและความสำคัญ หลักการและแนวคิดพื้นฐาน วัตถุประสงค์ รูปแบบการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์ การแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ ขั้นตอนของรูปแบบการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์ การประเมินผลและเงื่อนไขสำคัญในการนำรูปแบบการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์ไปใช้ โดยกระตุ้นให้เด็กปฐมวัยใช้จินตนาการ ความคิดสร้างสรรค์ คิดหาเหตุผล ในการนำความรู้ ทักษะและประสบการณ์ที่มีอยู่ตามระดับพัฒนาการมาใช้ในการแก้ปัญหาด้วยวิธีการซึ่งเป็นของตนเอง มีลักษณะแปลกใหม่ต่างจากสิ่งที่มีอยู่เดิมและหรือมีวิธีในการแก้ปัญหาที่หลากหลายมากกว่าหนึ่งแนวคิดหรือหนึ่งวิธีจนได้ผลการค้นพบว่าเป็นวิธีการที่สามารถใช้ในการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 3 ตามรูปแบบ (PISAA)

2.2 ผลการหาประสิทธิภาพของรูปแบบการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์ การแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาลวัดเกษมจิตตาราม (อนุบาลศึกษาพัฒนาการ) ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 พบว่ารูปแบบการจัดกิจกรรม เสริมประสบการณ์ มีค่าประสิทธิภาพของกระบวนการ ( ) และประสิทธิภาพของผลลัพธ์ ( ) เท่ากับ 85.18/86.25 ตามเกณฑ์ที่กำหนด 80/80

3. ผลการเปรียบเทียบความสามารถในการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 3 ก่อนและหลังการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์การแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ ของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล วัดเกษมจิตตาราม (อนุบาลศึกษาพัฒนาการ) พบว่าเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 3 หลังการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์เด็กปฐมวัยมีความสามารถในการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์เพิ่มขึ้นจากก่อนการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์การแก้ปัญหา อย่างสร้างสรรค์ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

4. ผลการศึกษาความพึงพอใจของครูปฐมวัยที่มีต่อการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์ การแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาลวัดเกษมจิตตาราม (อนุบาลศึกษาพัฒนาการ) พบว่าความพึงพอใจของครูปฐมวัยที่มีต่อการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์ การแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาลวัดเกษมจิตตาราม (อนุบาลศึกษาพัฒนาการ) รวมทุกด้านอยู่ในระดับมาก ( =4.36, =0.68)

โพสต์โดย น้อง : [2 ก.ย. 2561 เวลา 12:15 น.]
อ่าน [3323] ไอพี : 125.26.242.132
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 22,629 ครั้ง
ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยบำเหน็จลูกจ้าง (ฉบับที่ 10) พ.ศ.2557
ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยบำเหน็จลูกจ้าง (ฉบับที่ 10) พ.ศ.2557

เปิดอ่าน 21,940 ครั้ง
วัฎจักรการใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อการวิจัย (Internet research cycle)
วัฎจักรการใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อการวิจัย (Internet research cycle)

เปิดอ่าน 11,079 ครั้ง
ชมคลิป สถานทูตสหรัฐทำคลิปรับวันสงกรานต์
ชมคลิป สถานทูตสหรัฐทำคลิปรับวันสงกรานต์

เปิดอ่าน 18,341 ครั้ง
บัญชีเงินเดือนขั้นต่ำสูงของข้าราชการพลเรือนสามัญ
บัญชีเงินเดือนขั้นต่ำสูงของข้าราชการพลเรือนสามัญ

เปิดอ่าน 35,987 ครั้ง
คำนาม
คำนาม

เปิดอ่าน 15,727 ครั้ง
แผ่นดินไหวปากีสถานดัน"เกาะ"โผล่กลางทะเล
แผ่นดินไหวปากีสถานดัน"เกาะ"โผล่กลางทะเล

เปิดอ่าน 3,222 ครั้ง
ระบบหายใจ (respiration)
ระบบหายใจ (respiration)

เปิดอ่าน 6,531 ครั้ง
ประวัตินาฏศิลป์ไทย
ประวัตินาฏศิลป์ไทย

เปิดอ่าน 92,664 ครั้ง
ดอกไม้ประจำจังหวัด
ดอกไม้ประจำจังหวัด

เปิดอ่าน 8,609 ครั้ง
กรมวิทย์ยัน ตรวจขวดน้ำพลาสติกทิ้งกลางแดดร้อน ไม่พบสารพิษไดออกซิน
กรมวิทย์ยัน ตรวจขวดน้ำพลาสติกทิ้งกลางแดดร้อน ไม่พบสารพิษไดออกซิน

เปิดอ่าน 24,899 ครั้ง
วิธีฝึกภาษาอังกฤษอังกฤษอย่างไรให้เก่งเทพใน 1-3 เดือน!!!
วิธีฝึกภาษาอังกฤษอังกฤษอย่างไรให้เก่งเทพใน 1-3 เดือน!!!

เปิดอ่าน 19,075 ครั้ง
มโนทัศน์ของเทคโนโลยีการศึกษา
มโนทัศน์ของเทคโนโลยีการศึกษา

เปิดอ่าน 12,943 ครั้ง
หักดิบเลิกบุหรี่.. แพทย์ยืนยันได้ผลดีกว่าลด
หักดิบเลิกบุหรี่.. แพทย์ยืนยันได้ผลดีกว่าลด

เปิดอ่าน 44,851 ครั้ง
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 2 ลูกบอล (The Ball)
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 2 ลูกบอล (The Ball)

เปิดอ่าน 17,095 ครั้ง
กินอาหารจากไมโครเวฟบ่อย ๆ อันตรายไหมนะ?
กินอาหารจากไมโครเวฟบ่อย ๆ อันตรายไหมนะ?

เปิดอ่าน 20,727 ครั้ง
งานบันทึกเสียงมีความเป็นมาอย่างไร?
งานบันทึกเสียงมีความเป็นมาอย่างไร?
เปิดอ่าน 21,531 ครั้ง
ข้อคิดดีๆ จากละคร "แรงเงา"
ข้อคิดดีๆ จากละคร "แรงเงา"
เปิดอ่าน 9,744 ครั้ง
คู่มือหลักสูตรการพัฒนาฯ ก่อนแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
คู่มือหลักสูตรการพัฒนาฯ ก่อนแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
เปิดอ่าน 11,946 ครั้ง
6 เคล็ดลับเก็บเงินปี 2009
6 เคล็ดลับเก็บเงินปี 2009
เปิดอ่าน 12,624 ครั้ง
ทำไงดีหนอ…กับอาการแพ้ท้อง?
ทำไงดีหนอ…กับอาการแพ้ท้อง?

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ