ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์ PAPA เพื่อส่งเสริมความสามารถการคิดเชื่อมโยงและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง ความน่าจะเป็น ของนักเรียน
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5
ผู้วิจัย นายชัยยุทธ์ เครือแจ้ง
ปีที่ทำวิจัย 2560
บทคัดย่อ
การดำเนินการวิจัยครั้งมีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษารูปแบบการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์ PAPA เพื่อส่งเสริมความสามารถการคิดเชื่อมโยงและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง ความน่าจะเป็น ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ด้วยการสังเคราะห์เอกสาร การสอบถามกลุ่มตัวอย่าง 144 คน การสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญ 6 คน 2) เพื่อสร้างรูปแบบการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์ PAPA เพื่อส่งเสริมความสามารถการคิดเชื่อมโยงและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง ความน่าจะเป็น ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ตรวจสอบความถูกต้องและความเหมาะสมโดยผู้เชี่ยวชาญ 5 คน และทดลองใช้กับกลุ่มตัวอย่าง 43 คน 3) เพื่อทดลองรูปแบบการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์ PAPA เพื่อส่งเสริมความสามารถการคิดเชื่อมโยงและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง ความน่าจะเป็น ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 กับนักเรียนกลุ่มตัวอย่าง 44 คน 4) เพื่อประเมินรูปแบบการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์ PAPA เพื่อส่งเสริมความสามารถการคิดเชื่อมโยงและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง ความน่าจะเป็น ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีวัตถุประสงค์เฉพาะดังนี้ 4.1 เพื่อหาประสิทธิภาพของรูปแบบการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์ 4.2 เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน เรื่อง ความน่าจะเป็น ก่อนเรียนและหลังเรียน ด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์ 4.3 เพื่อเปรียบเทียบคุณธรรมของนักเรียน เรื่อง ความน่าจะเป็น ก่อนเรียนและหลังเรียน ด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์ 4.4 เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์
ผลการวิจัยพบว่า
1. ผลการศึกษาสภาพปัจจุบันและความต้องการในการพัฒนาการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เพื่อส่งเสริมความสามารถการคิดเชื่อมโยงและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน พบว่า
รูปแบบการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์ มี 6 องค์ประกอบ สภาพปัจจุบันด้านการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง และความต้องการด้านการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เพื่อส่งเสริมความสามารถการคิดเชื่อมโยงและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด
2. ผลการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์ PAPA เพื่อส่งเสริมความสามารถการคิดเชื่อมโยงและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง ความน่าจะเป็น ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 พบว่า รูปแบบการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์ มี 6 องค์ประกอบ คือองค์ประกอบด้านหลักการ องค์ประกอบด้านวัตถุประสงค์ องค์ประกอบด้านกระบวนการ องค์ประกอบด้านหลักการตอบสนอง องค์ประกอบด้านระบบสังคม องค์ประกอบด้านระบบสนับสนุน ความเหมาะสมและความถูกต้องของร่างรูปแบบการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ประสิทธิภาพของรูปแบบการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เป็นไปตามเกณฑ์ 75/75 ที่ตั้งไว้
3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์ PAPA เพื่อส่งเสริมความสามารถการคิดเชื่อมโยงและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง ความน่าจะเป็น ของนักเรียน
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 พบว่า 1) ประสิทธิภาพของรูปแบบการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์ มีค่าเท่ากับ 78.92/78.56 สูงกว่าเกณฑ์ 75/75 ที่ตั้งไว้ 2) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์ หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 3) ความสามารถในการคิดเชื่อมโยงของนักเรียนที่เรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์ หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
4. การประเมินรูปแบบการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์ PAPA เพื่อส่งเสริมความสามารถการคิดเชื่อมโยงและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง ความน่าจะเป็น ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 พบว่า ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด