ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนาทักษะการพูดภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนช้างบุญวิทยา โดยใช้กลวิธีการสอนแบบการแสดงบทบาทสมมติ (Role Playing) ด้วยส

ชื่อเรื่อง การพัฒนาทักษะการพูดภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนช้างบุญวิทยา โดยใช้กลวิธีการสอนแบบการแสดงบทบาทสมมติ (Role Playing)

ด้วยสื่อโปรแกรมการนำเสนอและคิวอาร์โค้ด

ผู้ศึกษา นางพิชญาภรณ์ อินสำราญ ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการ

ปีที่ศึกษา 2560

บทคัดย่อ

การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาประสิทธิภาพของแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้กลวิธีการสอนแบบการแสดงบทบาทสมมติ (Role Playing) ด้วยสื่อโปรแกรมการนำเสนอและคิวอาร์โค้ด ในการพัฒนาความสามารถด้านการพูดภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ตามเกณฑ์ประสิทธิภาพ (75/75)

เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้กลวิธีการสอนแบบการแสดงบทบาทสมมติ

(Role Playing) ด้วยสื่อโปรแกรมการนำเสนอและคิวอาร์โค้ด ในการพัฒนาความสามารถด้านการพูดภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3

ก่อนและหลังการใช้แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้กลวิธีการสอนแบบการแสดงบทบาทสมมติ (Role Playing)

ด้วยสื่อโปรแกรมการนำเสนอและคิวอาร์โค้ดเพื่อศึกษาการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้กลวิธีการสอนแบบการแสดงบทบาทสมมติ (Role Playing) ด้วยสื่อโปรแกรมการนำเสนอและคิวอาร์โค้ด ตามเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนด และเพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3

ที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้กลวิธีการสอนแบบการแสดงบทบาทสมมติ (Role Playing)

ด้วยสื่อโปรแกรมการนำเสนอและคิวอาร์โค้ด

กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/1 ที่ลงทะเบียนเรียนในรายวิชา อ23102 ภาษาอังกฤษพื้นฐาน ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนช้างบุญวิทยา จังหวัดสุรินทร์

โดยใช้วิธีการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) โดยใช้ห้องเรียนเป็นกลุ่มในการสุ่ม เครื่องมือที่ใช้

ในการเก็บข้อมูลได้แก่ แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ รายวิชา อ23102 ภาษาอังกฤษพื้นฐาน ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ซึ่งมีทั้งหมด 8 แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ สื่อโปรแกรมการนำเสนอ (Ms.Power Point) สื่อคิวอาร์โค้ด (QR Code) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ซึ่งเป็นแบบเลือกตอบ 4 ตัวเลือก

จำนวน 30 ข้อและแบบวัดความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยกลวิธีการสอนแบบการแสดงบทบาทสมมติ (Role Playing) โดยใช้สื่อโปรแกรมการนำเสนอและคิวอาร์โค้ด จำนวน 20 ข้อ

วิธีดำเนินการทดลองโดยให้นักเรียนทำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนจำนวน 30 ข้อ 30 คะแนน ให้นักเรียนทำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนย่อยหลังจากจัดกิจกรรมการเรียนการสอน ในแต่ละแผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 8 แผนการจัดการเรียนรู้ๆละ 10 คะแนน รวม 80 คะแนน หลังจากการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนเสร็จทั้ง 8 แผนการจัดการเรียนรู้ให้นักเรียนทำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียน จำนวน 30 ข้อ 30 คะแนน ซึ่งเป็นแบบทดสอบชุดเดียวกันกับแบบทดสอบก่อนเรียน

ให้นักเรียนทำแบบประเมินเพื่อวัดระดับความพึงพอใจของนักเรียนต่อการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนในรายวิชาภาษาอังกฤษด้วยกลวิธีการสอนแบบการแสดงบทบาทสมมติ (Role Playing) โดยใช้สื่อโปรแกรมการนำเสนอและคิวอาร์โค้ด สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 แล้วนำข้อมูลผลการทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียน

และหลังเรียนทั้งหมดรวมทั้งข้อมูลในการประเมินเพื่อวัดระดับความพึงพอใจของนักเรียน มาวิเคราะห์หาค่าทางสถิติ อาทิ ค่าเฉลี่ย (¯x) ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ( ) ค่าร้อยละ ค่าดัชนีประสิทธิผลของการจัดการเรียนรู้ (Effectiveness Index) และค่าวิกฤตเพื่อทราบความมีนัยสำคัญ

ผลการศึกษาค้นคว้าพบว่า

1. ประสิทธิภาพของการใช้แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้กลวิธีการสอนแบบการแสดง

บทบาทสมมติ (Role Playing) ด้วยสื่อโปรแกรมการนำเสนอและคิวอาร์โค้ด ในการพัฒนาความสามารถ

ด้านการพูดภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่ผู้ศึกษาค้นคว้าได้พัฒนาขึ้นมีค่าเท่ากับ 76.66/77.75 หมายความว่า แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้กลวิธีการสอนแบบการแสดงบทบาทสมมติ (Role Playing)

ด้วยสื่อโปรแกรมการนำเสนอและคิวอาร์โค้ด ในการพัฒนาความสามารถด้านการพูดภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีประสิทธิภาพของกระบวนการ (E1) เท่ากับ 76.66 และประสิทธิภาพของผลลัพธ์ (E2) เท่ากับ 77.75 แสดงว่า การใช้แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้กลวิธีการสอนแบบการแสดงบทบาทสมมติ

(Role Playing) ด้วยสื่อโปรแกรมการนำเสนอและคิวอาร์โค้ด ในการพัฒนาความสามารถด้านการพูดภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้

2. ดัชนีประสิทธิผลของการใช้แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้กลวิธีการสอนแบบการแสดง

บทบาทสมมติ (Role Playing) ด้วยสื่อโปรแกรมการนำเสนอและคิวอาร์โค้ดในการพัฒนาความสามารถ

ด้านการพูดภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีค่าเท่ากับ 0.6454 หรือคิดเป็นร้อยละ 64.54 หมายความว่า นักเรียนที่เรียนวิชาภาษาอังกฤษด้วยกลวิธีการสอนแบบการแสดงบทบาทสมมติ (Role Playing) โดยใช้สื่อโปรแกรมการนำเสนอและคิวอาร์โค้ด สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีความก้าวหน้าในการเรียนเพิ่มขึ้นร้อยละ 64.54

3. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่เรียนวิชาภาษาอังกฤษด้วยกลวิธีการสอนแบบการแสดงบทบาทสมมติ (Role Playing) โดยใช้สื่อโปรแกรมการนำเสนอและคิวอาร์โค้ด ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน

มีค่าเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

โดยมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน

4. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่เรียนวิชาภาษาอังกฤษด้วยกลวิธีการสอนแบบการแสดงบทบาทสมมติ (Role Playing) โดยใช้สื่อโปรแกรมการนำเสนอและคิวอาร์โค้ด มีคะแนนผ่านเกณฑ์มาตรฐาน

ที่กำหนดไว้ (ร้อยละ 75) โดยมีคะแนนเฉลี่ยทั้งชั้นเท่ากับ 23.33 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 1.05

ซึ่งค่าเฉลี่ยทั้งชั้นคิดเป็นร้อยละ 77.75

5. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่มีคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาภาษาอังกฤษที่เรียนรู้ด้วยกลวิธีการสอนแบบการแสดงบทบาทสมมติ (Role Playing) โดยใช้สื่อโปรแกรมการนำเสนอและคิวอาร์โค้ด จำนวน 40 คน สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 35 คนคิดเป็นร้อยละ 88 ของนักเรียนทั้งหมด ดังนั้น พอสรุปได้ว่า

จากการทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์หลังเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่เรียนวิชาภาษาอังกฤษด้วยกลวิธีการสอนแบบการแสดงบทบาทสมมติ (Role Playing) โดยใช้สื่อโปรแกรมการนำเสนอและคิวอาร์โค้ด

ผลปรากฏว่า นักเรียนมีคะแนนผ่านเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนดไว้ (ร้อยละ 75) โดยมีคะแนนอยู่ที่ร้อยละ 88

เป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้

6. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนในรายวิชาภาษาอังกฤษ ด้วยกลวิธีการสอนแบบการแสดงบทบาทสมมติ (Role Playing) โดยใช้สื่อโปรแกรมการนำเสนอ

และคิวอาร์โค้ด แบ่งออกเป็น 4 ด้าน ได้แก่ ด้านเนื้อหา ด้านสื่อและอุปกรณ์การสอน ด้านกิจกรรมการเรียนการสอน และด้านการวัดและประเมินผล โดยรวมมีความพึงพอใจ อยู่ในระดับมาก ( = 4.48) พิจารณา

เป็นรายด้าน พบว่า ด้านกิจกรรมการเรียนการสอน นักเรียนมีความพึงพอใจในระดับมากที่สุด โดยมีคะแนนเฉลี่ย ( = 4.64) ส่วนด้านที่เหลืออีก 3 ด้าน ได้แก่ ด้านสื่อและอุปกรณ์การสอน ด้านการวัดและประเมินผล และด้านเนื้อหา นักเรียนมีความพึงพอใจในระดับมาก โดยมีคะแนนเฉลี่ย ( = 4.48) ,( = 4.46)

และ ( = 4.36) ตามลำดับ

โพสต์โดย จิมมี่ : [5 ธ.ค. 2561 เวลา 14:27 น.]
อ่าน [3624] ไอพี : 1.1.230.86
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 38,715 ครั้ง
เทควันโด : ประโยชน์ของการเล่นกีฬาเทควันโด
เทควันโด : ประโยชน์ของการเล่นกีฬาเทควันโด

เปิดอ่าน 24,477 ครั้ง
8 วิธี การบริหารสมอง ให้สดชื่น
8 วิธี การบริหารสมอง ให้สดชื่น

เปิดอ่าน 33,949 ครั้ง
การใช้ลายมือชื่อผู้รับเงินด้วยลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ในใบเสร็จฯในการเบิกเงินสวัสดิการการศึกษาบุตร
การใช้ลายมือชื่อผู้รับเงินด้วยลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ในใบเสร็จฯในการเบิกเงินสวัสดิการการศึกษาบุตร

เปิดอ่าน 15,857 ครั้ง
ปฏิทินการรับสมัครนักเรียน ปี 2559
ปฏิทินการรับสมัครนักเรียน ปี 2559

เปิดอ่าน 16,975 ครั้ง
กราฟิก (Graphic)
กราฟิก (Graphic)

เปิดอ่าน 13,985 ครั้ง
วิกฤติการศึกษาไทยในศตวรรษที่ 21
วิกฤติการศึกษาไทยในศตวรรษที่ 21

เปิดอ่าน 10,084 ครั้ง
รถชนประวัติการณ์ 100 คัน ที่เท็กซัส
รถชนประวัติการณ์ 100 คัน ที่เท็กซัส

เปิดอ่าน 21,097 ครั้ง
การใช้ใบเสร็จรับเงินจากช่องทางการให้บริการด้านอิเล็กทรอนิกส์เป็นหลักฐานในการประกอบการเบิกค่าเช่าบ้านข้าราชการ (ว 34)
การใช้ใบเสร็จรับเงินจากช่องทางการให้บริการด้านอิเล็กทรอนิกส์เป็นหลักฐานในการประกอบการเบิกค่าเช่าบ้านข้าราชการ (ว 34)

เปิดอ่าน 13,050 ครั้ง
10 ไม้ประดับบนโต๊ะทำงาน
10 ไม้ประดับบนโต๊ะทำงาน

เปิดอ่าน 17,686 ครั้ง
โรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้
โรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้

เปิดอ่าน 7,741 ครั้ง
หลักเกณฑ์และวิธีการออกหนังสือรับรองการประกันคุณภาพภายนอก จาก สมศ.
หลักเกณฑ์และวิธีการออกหนังสือรับรองการประกันคุณภาพภายนอก จาก สมศ.

เปิดอ่าน 22,908 ครั้ง
"ปลาไทย" โอเมก้าสูง กิน "เป็น" แล้ว "ดี"
"ปลาไทย" โอเมก้าสูง กิน "เป็น" แล้ว "ดี"

เปิดอ่าน 59,441 ครั้ง
พืชที่ใช้เป็นอาหาร
พืชที่ใช้เป็นอาหาร

เปิดอ่าน 21,791 ครั้ง
ประโยชน์ของน้ำมะนาว ดื่มอุ่น ๆ ยามเช้า ดี
ประโยชน์ของน้ำมะนาว ดื่มอุ่น ๆ ยามเช้า ดี

เปิดอ่าน 22,007 ครั้ง
วิธีจัดห้องเพื่อพัฒนาสมอง
วิธีจัดห้องเพื่อพัฒนาสมอง

เปิดอ่าน 12,889 ครั้ง
มุมกล้องที่ดี..ช่วยคุณได้ขนาดไหน..ไปดูคลิปนี้กันครับ
มุมกล้องที่ดี..ช่วยคุณได้ขนาดไหน..ไปดูคลิปนี้กันครับ
เปิดอ่าน 11,878 ครั้ง
เช้าควบเที่ยง เสี่ยงโรคอ้วน
เช้าควบเที่ยง เสี่ยงโรคอ้วน
เปิดอ่าน 5,907 ครั้ง
อาหารและโภชนาการที่เหมาะสำหรับผู้สูงอายุ
อาหารและโภชนาการที่เหมาะสำหรับผู้สูงอายุ
เปิดอ่าน 13,519 ครั้ง
กล้วยหอมชนะเครื่องดื่มบำรุงกำลัง มีสารอาหาร สารต้านอนุมูลอิสระในตัว
กล้วยหอมชนะเครื่องดื่มบำรุงกำลัง มีสารอาหาร สารต้านอนุมูลอิสระในตัว
เปิดอ่าน 7,820 ครั้ง
แนะพ่อแม่เลือกเฟ้น หลีกของเล่นอันตราย
แนะพ่อแม่เลือกเฟ้น หลีกของเล่นอันตราย

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ