ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ชุดกิจกรรมร่วมกับรูปแบบการสอน แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น รายวิชาฟิสิกส์ 2 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 เรื่องสภาพสมดุล

บทคัดย่อ

การวิศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) สร้างชุดกิจกรรมเรื่องสภาพสมดุล รายวิชาฟิสิกส์2

ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 และค่าดัชนีประสิทธิผลตั้งแต่ 0.50 2)เปรียบเทียบคะแนนผลการเรียน รายวิชาฟิสิกส์ 2 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนที่เรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมร่วมกับรูปแบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้นและ 3) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้รายวิชาฟิสิกส์ 2 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่เรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมร่วมกับรูปแบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น กลุ่มเป้าหมายเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/1 โรงเรียนเทศบาลบ้านสามเหลี่ยม สำนักการศึกษา เทศบาลนครขอนแก่น กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย ภาคเรียนที่ 1

ปีการศึกษา 2560 ที่เรียนรายวิชาฟิสิกส์ 2 จำนวน 38 คนได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาประกอบด้วย 1) ชุดกิจกรรมเรื่องสภาพสมดุลรายวิชาฟิสิกส์ 2 รหัสวิชา ว30202 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์จำนวน 12 ชุด 2)แผนการจัดการเรียนรู้เรื่องสภาพสมดุล รายวิชาฟิสิกส์ 2 รหัสวิชา ว30202 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้ชุดกิจกรรมร่วมกับรูปแบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น จำนวน 12 แผน ใช้เวลาสอบ 18 ชั่วโมง 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาฟิสิกส์ 2 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่ผู้ศึกษาสร้างขึ้นมีลักษณะของแบบทดสอบเป็นแบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 40 ข้อ และ 4) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่มีต่อการเรียนรายวิชาฟิสิกส์ 2 โดยใช้ชุดกิจกรรมร่วมกับรูปแบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น ที่ผู้ศึกษาสร้างขึ้นมีลักษณะเป็นแบบสอบถามมาตราส่วนประมาณค่า(Rating Scale) 5 ระดับจำนวน 15 ข้อ

ผลการวิจัยพบว่า

1. ชุดกิจกรรมเรื่องสภาพสมดุลรายวิชาฟิสิกส์ 2 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีประสิทธิภาพ (E1/E2 )

เท่ากับ82.93/81.36 และมีค่าดัชนีประสิทธิผล(E.I)เท่ากับ0.7244ซึ่งเป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้

2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาฟิสิกส์ 2 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่5 ก่อนเรียนและหลังเรียน

ของนักเรียนที่เรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมร่วมกับรูปแบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้นแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 มี และคะแนนเฉลี่ยหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน

3. ความพึงพอใจของนักเรียนต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ รายวิชาฟิสิกส์ 2 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่5 ที่เรียนโดยชุดกิจกรรมร่วมกับรูปแบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้นอยู่ในระดับมาก (µ=4.3, σ=0.76)

โพสต์โดย อ้อ : [26 ม.ค. 2562 เวลา 15:32 น.]
อ่าน [3328] ไอพี : 184.22.127.248
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 16,712 ครั้ง
กินไข่ต้ม ช่วยให้หลับง่าย จริงหรือ?
กินไข่ต้ม ช่วยให้หลับง่าย จริงหรือ?

เปิดอ่าน 21,960 ครั้ง
"ครูเคยโทษตัวเองบ้างหรือไม่ ?" บทความกระแสคัดค้านการถ่ายโอนสู่ท้องถิ่น โดย วีระ สุดสังข์
"ครูเคยโทษตัวเองบ้างหรือไม่ ?" บทความกระแสคัดค้านการถ่ายโอนสู่ท้องถิ่น โดย วีระ สุดสังข์

เปิดอ่าน 22,724 ครั้ง
13 แอพพลิเคชั่น อันตราย ที่ "Google" แบน ใครลงแล้วต้องแฟลชโอเอสใหม่เท่านั้น
13 แอพพลิเคชั่น อันตราย ที่ "Google" แบน ใครลงแล้วต้องแฟลชโอเอสใหม่เท่านั้น

เปิดอ่าน 20,033 ครั้ง
7 วิธีประหยัดค่าใช้จ่ายที่ทำได้จริง เหลือเงินเก็บแน่นกระเป๋า
7 วิธีประหยัดค่าใช้จ่ายที่ทำได้จริง เหลือเงินเก็บแน่นกระเป๋า

เปิดอ่าน 91,938 ครั้ง
ระบบเลขฐานสิบ (Decimal System)
ระบบเลขฐานสิบ (Decimal System)

เปิดอ่าน 64,515 ครั้ง
วิธีสะเดาะเคราะห์ (ด้วยตัวเอง)
วิธีสะเดาะเคราะห์ (ด้วยตัวเอง)

เปิดอ่าน 9,581 ครั้ง
ล้างพิษลำไส้ใหญ่ กากใยอาหารจากธรรมชาติช่วยคุณได้
ล้างพิษลำไส้ใหญ่ กากใยอาหารจากธรรมชาติช่วยคุณได้

เปิดอ่าน 16,993 ครั้ง
ข้าวโพดสีม่วง ช่วยต้านมะเร็ง
ข้าวโพดสีม่วง ช่วยต้านมะเร็ง

เปิดอ่าน 11,341 ครั้ง
"กูเกิล"เปิดบริการ"กูเกิล ไดรฟ์" เก็บข้อมูลออนไลน์สูงสุด "16 เทราไบท์"
"กูเกิล"เปิดบริการ"กูเกิล ไดรฟ์" เก็บข้อมูลออนไลน์สูงสุด "16 เทราไบท์"

เปิดอ่าน 22,328 ครั้ง
สเตียรอยด์ (Steroids) คืออะไร ?
สเตียรอยด์ (Steroids) คืออะไร ?

เปิดอ่าน 12,108 ครั้ง
สาว 6 อาชีพกับเส้นเลือดขอด
สาว 6 อาชีพกับเส้นเลือดขอด

เปิดอ่าน 9,107 ครั้ง
คาดคนอ้วนมี"โดปามีน"น้อย ต้นเหตุไร้ความสุข
คาดคนอ้วนมี"โดปามีน"น้อย ต้นเหตุไร้ความสุข

เปิดอ่าน 13,396 ครั้ง
วีดีทัศน์หลักเกณฑ์ตาม ว7/2558 (เกณฑ์ PA)
วีดีทัศน์หลักเกณฑ์ตาม ว7/2558 (เกณฑ์ PA)

เปิดอ่าน 11,376 ครั้ง
คอมพิวเตอร์ วิชั่น-ออฟฟิศ ซินโดรม โรคฮิตของคนเมืองทางแก้เริ่มที่ตัวเอง
คอมพิวเตอร์ วิชั่น-ออฟฟิศ ซินโดรม โรคฮิตของคนเมืองทางแก้เริ่มที่ตัวเอง

เปิดอ่าน 14,047 ครั้ง
เปลี่ยนระบบโทรศัพท์ใหม่ แต่ใช้เบอร์เดิมได้ เริ่ม 1 ก.ย.
เปลี่ยนระบบโทรศัพท์ใหม่ แต่ใช้เบอร์เดิมได้ เริ่ม 1 ก.ย.

เปิดอ่าน 26,682 ครั้ง
ลักษณะวลีและประโยคพื้นฐาน
ลักษณะวลีและประโยคพื้นฐาน
เปิดอ่าน 12,036 ครั้ง
วิธีขับสารพิษด้วยการหายใจ
วิธีขับสารพิษด้วยการหายใจ
เปิดอ่าน 15,095 ครั้ง
10 เคล็ดลับเลิกบุหรี่
10 เคล็ดลับเลิกบุหรี่
เปิดอ่าน 12,029 ครั้ง
การเรียนรู้ที่ห้ามมองข้ามกับประสาทสัมผัสทั้ง 5 ของลูกน้อย
การเรียนรู้ที่ห้ามมองข้ามกับประสาทสัมผัสทั้ง 5 ของลูกน้อย
เปิดอ่าน 10,062 ครั้ง
จะจำใบหน้าของใครให้ได้แม่นยำ ต้องจ้องคอยดูที่ลูกตา
จะจำใบหน้าของใครให้ได้แม่นยำ ต้องจ้องคอยดูที่ลูกตา

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ