ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
รายงานผลการใช้ชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์ เรื่อง สารและสมบัติของสาร กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 นางสาวอุบล คำฟู

ชื่อเรื่อง:รายงานผลการใช้ชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์ เรื่อง สารและสมบัติของสาร กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2

ผู้ศึกษา:นางสาวอุบล คำฟู

ปีที่ศึกษา:2558

________________________________________________________________________

บทคัดย่อ

การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์ เรื่อง สารและสมบัติของสาร กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 เพื่อศึกษาความก้าวหน้าทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่เรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์ เรื่อง สารและสมบัติของสารกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 และศึกษาระดับความพึงพอใจของนักเรียนที่เรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์ เรื่อง สารและสมบัติของสาร กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ประชากรที่ใช้ในการศึกษา คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนปางกุ่มวิทยา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาลำปาง เขต 2 ที่เรียนในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2558 จำนวน 14 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ประกอบด้วย ชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์ เรื่อง สารและสมบัติของสาร จำนวน 6 ชุด แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังเรียน ปรนัยชนิด 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์เรื่องสารและสมบัติของสารจำนวน 10 ข้อ วิธีดำเนินการศึกษา ทำการทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนแล้วดำเนินการจัดกิจกรรมตามแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้ชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์ เรื่อง สารและสมบัติของสาร จนครบ 6 ชุด จึงทำการทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนและให้ตอบแบบสอบถามความพึงพอใจ วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหา ค่าเฉลี่ย ร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าดัชนีประสิทธิผลและค่าที

ผลการศึกษาพบว่า

1.ประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์ เรื่อง สารและสมบัติของสาร

กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่พัฒนาขึ้นมีประสิทธิภาพโดยรวมเท่ากับ 84.27/83.21 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ 80/80

2.ความก้าวหน้าทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 หลังเรียนโดยใช้

ชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์ เรื่อง สารและสมบัติของสาร กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์

ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีค่าดัชนีประสิทธิผลของชุดกิจกรรมและค่าที(t-test) เป็นไปตามสมมติฐานข้อที่ 2 ดังนี้

2.1 ค่าดัชนีประสิทธิผลชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์เท่ากับ 0.7874 แสดงว่านักเรียนมีความก้าวหน้าทางการเรียนหรือมีความรู้เพิ่มขึ้น 0.7874 คิดเป็นร้อยละ 78.74

2.2 ค่าเฉลี่ยของคะแนนหลังเรียนสูงกว่าค่าเฉลี่ยของคะแนนก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ.01

3.ระดับความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่มีต่อการเรียนโดยใช้

ชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์ เรื่อง สารและสมบัติของสาร กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุดมีค่าเฉลี่ยรวมเท่ากับ 4.58

เนื่องจากในการสร้างชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์ เรื่อง สารและสมบัติของสาร กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ผู้ศึกษาได้เลือกแนวทางและกระบวนการดำเนินงานให้สอดคล้องกับสภาพของปัญหาที่พบโดยศึกษาองค์ประกอบของชุดกิจกรรม และขั้นตอนการสร้างจากนักการศึกษาอย่างเป็นระบบ เพื่อให้ได้ชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์ที่สามารถถ่ายทอดเนื้อหาวิชาที่มีความสลับซับซ้อนและเป็นนามธรรม ให้ออกมาในรูปแบบของสื่อที่เป็นของจริง และรูปภาพที่ช่วยให้เข้าใจง่ายขึ้น และจัดลำดับเนื้อหาจากง่ายไปหายาก เน้นให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ด้วยตนเองโดยการปฏิบัติจริง ไปทีละขั้นตามความสามารถและความสนใจเพื่อให้เกิดการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ อย่างเป็นธรรมชาติ เปิดโอกาสให้ผู้เรียนใช้ความสามารถของตนเองตามศักยภาพของแต่ละบุคคล ได้แสดงความคิดอย่างสร้างสรรค์ และสามารถใช้ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ สร้างองค์ความรู้ใหม่ได้ด้วยตนเอง อย่างมีอิสระและเกิดผลดีอันนำไปสู่การเรียนรู้ที่ดี เกิดผลสำเร็จได้ เพื่อให้ได้สื่อการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ดังนั้นชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์ เรื่อง สารและสมบัติของสาร กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่สร้างขึ้นเน้นให้นักเรียนใช้ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ในการสืบเสาะหาความรู้หรือแก้ปัญหาด้วยตนเอง เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจ และเห็นคุณค่า ของการเรียนวิทยาศาสตร์มาก สามารถนำความรู้ที่ได้ไปใช้ในการเรียนรู้เพิ่มเติมหรือนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้และยังเป็นประโยชน์สำหรับครูผู้สอนที่สามารถนำชุดกิจกรรมที่สร้างขึ้นไปใช้สอน เพื่อช่วยลดบทบาทของครูผู้สอน โดยเปิดโอกาสให้นักเรียนได้เรียนรู้ด้วยตนเอง และกระตุ้นครูให้พัฒนากระบวนการจัดการเรียนรู้เพื่อนักเรียนต่อไปรวมทั้งเป็นแนวทางสำหรับครูผู้สอนวิทยาศาสตร์ในการพัฒนาชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์ในเรื่องอื่นๆ ต่อไป

โพสต์โดย อุบล : [3 มี.ค. 2562 เวลา 17:18 น.]
อ่าน [3060] ไอพี : 223.24.175.53
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 11,422 ครั้ง
แม่ยุคใหม่ ที่ลูกต้องการ
แม่ยุคใหม่ ที่ลูกต้องการ

เปิดอ่าน 76,892 ครั้ง
ความสำคัญของงานกราฟิก
ความสำคัญของงานกราฟิก

เปิดอ่าน 8,814 ครั้ง
ส่ง"เอสเอ็มเอส"บ่อยไม่ดี
ส่ง"เอสเอ็มเอส"บ่อยไม่ดี

เปิดอ่าน 11,555 ครั้ง
กระบวนการในการใช้หนังสือเพื่อการพัฒนาเด็กวัย 0-3 ปี
กระบวนการในการใช้หนังสือเพื่อการพัฒนาเด็กวัย 0-3 ปี

เปิดอ่าน 52,887 ครั้ง
เทคนิคที่ทำให้คุณเป็นคนฉลาดและมีความจำดี
เทคนิคที่ทำให้คุณเป็นคนฉลาดและมีความจำดี

เปิดอ่าน 10,124 ครั้ง
เมื่อไหร่ควรพูด และเมื่อไหร่ควรเงียบ
เมื่อไหร่ควรพูด และเมื่อไหร่ควรเงียบ

เปิดอ่าน 12,807 ครั้ง
LCD (Liquid Crystal Display)
LCD (Liquid Crystal Display)

เปิดอ่าน 143,860 ครั้ง
ขั้นตอนปลูกผักบุ้งง่ายๆ ในตะกร้า แบบไฮโดรฯไม่ต้องใช้ดิน
ขั้นตอนปลูกผักบุ้งง่ายๆ ในตะกร้า แบบไฮโดรฯไม่ต้องใช้ดิน

เปิดอ่าน 9,963 ครั้ง
เปิดตัว "iPhone5" จอเรตินา 4 นิ้ว พร้อม iOS6 อัพเดทใหม่อีกเพียบ ไทยรอปลายปี
เปิดตัว "iPhone5" จอเรตินา 4 นิ้ว พร้อม iOS6 อัพเดทใหม่อีกเพียบ ไทยรอปลายปี

เปิดอ่าน 13,640 ครั้ง
ปลูกฝังทักษะสมองอย่างไรให้เป็นคนที่ประสบความสำเร็จในอนาคต
ปลูกฝังทักษะสมองอย่างไรให้เป็นคนที่ประสบความสำเร็จในอนาคต

เปิดอ่าน 10,861 ครั้ง
ขจัดกลิ่นเท้าด้วยมะนาว
ขจัดกลิ่นเท้าด้วยมะนาว

เปิดอ่าน 20,536 ครั้ง
5 เทคนิคการจำแบบฉบับ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์
5 เทคนิคการจำแบบฉบับ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์

เปิดอ่าน 35,587 ครั้ง
ครูธุรการทั่วประเทศ ขอบรรจุเป็นพนักงานราชการ รายการ สถานีประชาชน สถานี ThaiPBS 14 ส.ค.2558
ครูธุรการทั่วประเทศ ขอบรรจุเป็นพนักงานราชการ รายการ สถานีประชาชน สถานี ThaiPBS 14 ส.ค.2558

เปิดอ่าน 18,929 ครั้ง
ประโยชน์และสรรพคุณทางยาของกระเทียม
ประโยชน์และสรรพคุณทางยาของกระเทียม

เปิดอ่าน 17,805 ครั้ง
พลังบำบัดจากน้ำมะพร้าว
พลังบำบัดจากน้ำมะพร้าว

เปิดอ่าน 14,062 ครั้ง
มหกรรม "ติว" สนองตัณหาใคร เด็กได้อะไร
มหกรรม "ติว" สนองตัณหาใคร เด็กได้อะไร
เปิดอ่าน 12,727 ครั้ง
เสริมสร้างทักษะให้ลูกน้อยไปกับ 3 กิจกรรมพัฒนา EF
เสริมสร้างทักษะให้ลูกน้อยไปกับ 3 กิจกรรมพัฒนา EF
เปิดอ่าน 14,357 ครั้ง
โลก 360 องศา ซีรีส์การศึกษาในฟินแลนด์ ตอน คนเบาบาง แต่คุณภาพเข้มข้น
โลก 360 องศา ซีรีส์การศึกษาในฟินแลนด์ ตอน คนเบาบาง แต่คุณภาพเข้มข้น
เปิดอ่าน 18,680 ครั้ง
มาร์ติน วิลเลอร์ ฝรั่งบรรยายเรื่อง เศรษฐกิจพอเพียง ที่สนุกมากกว่าทอล์คโชว์ เว้าภาษาอีสาน
มาร์ติน วิลเลอร์ ฝรั่งบรรยายเรื่อง เศรษฐกิจพอเพียง ที่สนุกมากกว่าทอล์คโชว์ เว้าภาษาอีสาน
เปิดอ่าน 11,641 ครั้ง
ชื่นชมพระบารมี สมเด็จพระเทพฯ ทรงขับร้องเพลง "ขอใจเธอแลกเบอร์โทร"
ชื่นชมพระบารมี สมเด็จพระเทพฯ ทรงขับร้องเพลง "ขอใจเธอแลกเบอร์โทร"

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ