ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามทฤษฎีการสร้างความรู้ โดยใช้ชุดการเรียนรู้ด้วยตนเอง วิชาภาษาไทย เรื่อง กาพย์เห่เรือ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่

ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามทฤษฎีการสร้างความรู้

โดยใช้ชุดการเรียนรู้ด้วยตนเอง วิชาภาษาไทย เรื่อง กาพย์เห่เรือ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6

ผู้วิจัย นางสุรีย์พร กันเทพา

ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ

สังกัด โรงเรียนตระกาศประชาสามัคคี องค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ

ปีที่พิมพ์ 2562

.......................................................................

การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยและพัฒนา มีวัตถุประสงค์ (1) เพื่อศึกษาสภาพบริบทและความต้องการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามทฤษฎีการสร้างความรู้ โดยใช้ชุดการเรียนรู้ด้วยตนเอง วิชาภาษาไทย เรื่อง กาพย์เห่เรือ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 (2) เพื่อสร้างและพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามทฤษฎีการสร้างความรู้ โดยใช้ชุดการเรียนรู้ด้วยตนเอง วิชาภาษาไทย เรื่อง กาพย์เห่เรือ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 (3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามทฤษฎีการสร้างความรู้ โดยใช้ชุดการเรียนรู้ด้วยตนเอง วิชาภาษาไทย เรื่อง กาพย์เห่เรือ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 (4) เพื่อประเมินความพึงพอใจของผู้เรียนที่มีต่อรูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามทฤษฎีการสร้างความรู้ โดยใช้ชุดการเรียนรู้ด้วยตนเอง วิชาภาษาไทย เรื่อง กาพย์เห่เรือ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการทดลอง คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/1 โรงเรียนตระกาศประชาสามัคคี ตำบลตระกาจ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 41 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ (1) รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามทฤษฎีการสร้างความรู้ โดยใช้ชุดการเรียนรู้ด้วยตนเอง วิชาภาษาไทย เรื่อง กาพย์เห่เรือ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 (2) แผนการจัดการเรียนรู้ตามทฤษฎีการสร้างความรู้ โดยใช้ชุดการเรียนรู้ด้วยตนเอง วิชาภาษาไทย เรื่อง กาพย์เห่เรือ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 (3) ชุดการเรียนรู้ด้วยตนเอง วิชาภาษาไทย เรื่อง กาพย์เห่เรือ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 (4) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง กาพย์เห่เรือ ที่มีค่าความยากง่ายอยู่ระหว่าง .31 ถึง .78 มีค่าอำนาจจำแนก .21 ถึง .79 และมีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ .93 (5) แบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามทฤษฎีการสร้างความรู้ โดยใช้ชุดการเรียนรู้ด้วยตนเอง วิชาภาษาไทย เรื่อง กาพย์เห่เรือ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าประสิทธิภาพ E1/E2 และการทดสอบค่าที (t-test Dependent Samples)

ผลการวิจัยพบว่า

1. โดยภาพรวมผู้บริหาร ครูผู้สอน และผู้ปกครองเห็นว่า โรงเรียนตระกาศประชาสามัคคีมีความพร้อมด้านบริบทที่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่งในการจัดการเรียนรู้ตามทฤษฎีการสร้างความรู้ โดยใช้ชุดการเรียนรู้ด้วยตนเอง วิชาภาษาไทย เรื่อง กาพย์เห่เรือ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 นักเรียนส่วนใหญ่เห็นว่าการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ในรูปแบบนี้จะเป็นประโยชน์กับนักเรียน นักเรียนต้องการให้ครูเป็นผู้ให้คำปรึกษาในเรื่องการเรียน และความต้องการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามทฤษฎีการสร้างความรู้ โดยใช้ชุดการเรียนรู้ด้วยตนเอง วิชาภาษาไทย เรื่อง กาพย์เห่เรือ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ของนักเรียน อยู่ในระดับมาก

2. รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามทฤษฎีการสร้างความรู้ โดยใช้ชุดการเรียนรู้ด้วยตนเอง วิชาภาษาไทย เรื่อง กาพย์เห่เรือ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่สร้างขึ้น มีความเหมาะสมต่อการจัดการเรียนรู้ โดยผู้เชี่ยวชาญเห็นว่ารูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามทฤษฎีการสร้างความรู้ โดยใช้ชุดการเรียนรู้ด้วยตนเอง วิชาภาษาไทย เรื่อง กาพย์เห่เรือ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด และเมื่อทดลองภาคสนาม (ในการวิจัยระยะที่ 2 : การสร้างและพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ฯ) โดยการจัดการเรียนรู้ตามทฤษฎีการสร้างความรู้ โดยใช้ชุดการเรียนรู้ด้วยตนเอง วิชาภาษาไทย เรื่อง กาพย์เห่เรือ กับนักเรียนกลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/1 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 โรงเรียนตระกาศประชาสามัคคี จำนวน 45 คน พบว่า รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามทฤษฎีการสร้างความรู้ โดยใช้ชุดการเรียนรู้ด้วยตนเอง วิชาภาษาไทย เรื่อง กาพย์เห่เรือ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 83.17/82.56 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ และเมื่อนำรูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามทฤษฎีการสร้างความรู้ โดยใช้ชุดการเรียนรู้ด้วยตนเอง วิชาภาษาไทย เรื่อง กาพย์เห่เรือ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ไปทดลองใช้กับนักเรียนกลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/1 ภาคเรียนที่ 1 ปีการ ศึกษา 2560 โรงเรียนตระกาศประชาสามัคคี จำนวน 41 คน (ในการวิจัยระยะที่ 3 : การทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ฯ) พบว่า รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามทฤษฎีการสร้างความรู้ โดยใช้ชุดการเรียนรู้ด้วยตนเอง วิชาภาษาไทย เรื่อง กาพย์เห่เรือ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 83.29/82.62 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้

3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามทฤษฎีการสร้างความรู้ โดยใช้ชุดการเรียนรู้ด้วยตนเอง วิชาภาษาไทย เรื่อง กาพย์เห่เรือ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ในการจัดการเรียนการสอน ตามแผนการจัดการเรียนรู้ ทั้ง 8 แผน พบว่า

3.1 ผลการจัดการเรียนรู้ โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามทฤษฎีการสร้างความรู้ โดยใช้ชุดการเรียนรู้ด้วยตนเอง วิชาภาษาไทย เรื่อง กาพย์เห่เรือ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีทัศนคติที่ดีต่อการเรียน มีความกระตือรือร้นในการเรียน มีการปฏิสัมพันธ์ที่ดีระหว่างนักเรียนด้วยกัน มีการร่วมมือกันในการทำงานโดยใช้กระบวนการกลุ่ม สามารถปฏิบัติกิจกรรมการเรียนรู้ได้เป็นอย่างดีและมีคะแนนการทดสอบย่อยหลังเรียนผ่านเกณฑ์ร้อยละ 100 ในทุกกิจกรรมการเรียนรู้

3.2 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนโดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามทฤษฎีการสร้างความรู้ โดยใช้ชุดการเรียนรู้ด้วยตนเอง วิชาภาษาไทย เรื่อง กาพย์เห่เรือ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

4. ผลการประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามทฤษฎีการสร้างความรู้ โดยใช้ชุดการเรียนรู้ด้วยตนเอง วิชาภาษาไทย เรื่อง กาพย์เห่เรือ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 พบว่า นักเรียนมีความพึงพอใจโดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด

โพสต์โดย ตี๋ : [16 มี.ค. 2562 เวลา 13:18 น.]
อ่าน [3607] ไอพี : 223.205.242.22
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 15,288 ครั้ง
โซเชียลเน็ตเวิร์กทำครอบครัวร้าว
โซเชียลเน็ตเวิร์กทำครอบครัวร้าว

เปิดอ่าน 10,031 ครั้ง
มาดูกันว่า "เกาหลีใต้" เริ่มต้นการเป็นผู้นำด้านการศึกษาโฉมใหม่ของโลกอย่างไร?
มาดูกันว่า "เกาหลีใต้" เริ่มต้นการเป็นผู้นำด้านการศึกษาโฉมใหม่ของโลกอย่างไร?

เปิดอ่าน 26,419 ครั้ง
อนาคตหนังสือเรียนไทยในยุคก้าวไกลของ IT
อนาคตหนังสือเรียนไทยในยุคก้าวไกลของ IT

เปิดอ่าน 58,581 ครั้ง
ความหมายของเลขบัตรประชาชนทั้ง 13 หลัก
ความหมายของเลขบัตรประชาชนทั้ง 13 หลัก

เปิดอ่าน 12,775 ครั้ง
รูปหัวใจทำไมเป็นแบบนี้
รูปหัวใจทำไมเป็นแบบนี้

เปิดอ่าน 21,337 ครั้ง
เราสอบไปเพื่ออะไร?
เราสอบไปเพื่ออะไร?

เปิดอ่าน 12,475 ครั้ง
ค้นพบโลกใบที่ 2 มีอุณหภูมิไม่ร้อนไม่หนาวจนมากเกินไป
ค้นพบโลกใบที่ 2 มีอุณหภูมิไม่ร้อนไม่หนาวจนมากเกินไป

เปิดอ่าน 22,368 ครั้ง
วิจัยพบ "สารสกัดสาหร่ายพวงองุ่น" ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด
วิจัยพบ "สารสกัดสาหร่ายพวงองุ่น" ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด

เปิดอ่าน 12,742 ครั้ง
5 ปัญหาการเงิน เลี่ยงซะก่อนชีวิตคู่จะพัง
5 ปัญหาการเงิน เลี่ยงซะก่อนชีวิตคู่จะพัง

เปิดอ่าน 2,433 ครั้ง
เปิดเทอม On-site ห่างไกลโควิด-19 แนะวิธีตรวจ ATK เด็ก
เปิดเทอม On-site ห่างไกลโควิด-19 แนะวิธีตรวจ ATK เด็ก

เปิดอ่าน 14,103 ครั้ง
ค้นพบล่าสุด...พบน้ำแข็งบนดาวอังคาร
ค้นพบล่าสุด...พบน้ำแข็งบนดาวอังคาร

เปิดอ่าน 13,418 ครั้ง
กฎเหล็กที่ควรรู้ หากอยากมีหุ่นสุดเป๊ะ
กฎเหล็กที่ควรรู้ หากอยากมีหุ่นสุดเป๊ะ

เปิดอ่าน 17,776 ครั้ง
วิธีแก้อาการปวดหลัง
วิธีแก้อาการปวดหลัง

เปิดอ่าน 16,291 ครั้ง
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเกี่ยวกับผลไม้
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเกี่ยวกับผลไม้

เปิดอ่าน 16,204 ครั้ง
ประวัติจังหวัดนครพนม
ประวัติจังหวัดนครพนม

เปิดอ่าน 14,932 ครั้ง
แต่งสีขาว - ดำ ให้ดูโมเดิร์น
แต่งสีขาว - ดำ ให้ดูโมเดิร์น
เปิดอ่าน 13,736 ครั้ง
หยุดทำร้ายเด็กไทยโดยใช้ผลการสอบ O-NET ตัดสินเลื่อนชั้น(ได้-ตก)
หยุดทำร้ายเด็กไทยโดยใช้ผลการสอบ O-NET ตัดสินเลื่อนชั้น(ได้-ตก)
เปิดอ่าน 10,400 ครั้ง
จดหมายฉบับที่ 57 ถึงนายกรัฐมนตรี+รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง จุดเด่นการใช้มาตรา 44
จดหมายฉบับที่ 57 ถึงนายกรัฐมนตรี+รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง จุดเด่นการใช้มาตรา 44
เปิดอ่าน 5,953 ครั้ง
10 เทคนิค ฝึกพูดภาษาอังกฤษให้คล่อง สำเนียงเป๊ะ!
10 เทคนิค ฝึกพูดภาษาอังกฤษให้คล่อง สำเนียงเป๊ะ!
เปิดอ่าน 10,998 ครั้ง
"ร้ายยิ่งขึ้น" มันมาแล้ว "ภัยธรรมชาติ" เรียงแถว "ถล่มไทย!"
"ร้ายยิ่งขึ้น" มันมาแล้ว "ภัยธรรมชาติ" เรียงแถว "ถล่มไทย!"

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ