ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
รายงานผลการพัฒนาโครงการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนบ้านม่วงวิทยา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสกลนคร เขต 1

ชื่อเรื่อง รายงานผลการพัฒนาโครงการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน

โรงเรียนบ้านม่วงวิทยา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสกลนคร เขต 1

ผู้รายงาน นายยุทธชัย จริตน้อม

รองผู้อำนวยการโรงเรียน วิทยฐานะ รองผู้อำนวยการชำนาญการ

โรงเรียนบ้านม่วงวิทยา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสกลนคร เขต 1

ปีที่ศึกษา 2561

บทคัดย่อ

การศึกษารายงานผลการพัฒนาโครงการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียน

บ้านม่วงวิทยา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสกลนคร เขต 1 โดยใช้ CIPP Model ของ Daniel L. Stufflebeam (1971 อ้างถึงใน เยาวดี รางชัยกุล วิบูลย์ศรี, 2546) มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมิน ความสอดคล้องด้านบริบท (Context Evaluation) เพื่อประเมินความพร้อมด้านปัจจัยเบื้องต้น (Input Evaluation) เพื่อประเมินการดำเนินงานด้านกระบวนการ (Process Evaluation) และเพื่อประเมินด้านผลผลิต (Product Evaluation) กลุ่มตัวอย่างในการประเมินครั้งนี้ ได้แก่ ผู้อำนวยการโรงเรียน จำนวน 1 คน รองผู้อำนวยการโรงเรียน จำนวน 1 คน ครูปฏิบัติการสอนจำนวน 6 คน นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-3 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 จำนวน 1 ห้อง จำนวน 30 คน คณะกรรมการสถานศึกษา จำนวน 9 คน ชุมชน จำนวน 18 คน คณะกรรมการสถานศึกษา จำนวน 9 คน ชุมชน จำนวน 18 คน รวมจำนวน 65 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการประเมิน คือ แบบบันทึกภาคสนาม (Field Note Study) แบบสังเกต แบบสอบถาม เพื่อการประเมิน 4 ด้าน เก็บรวบรวมข้อมูลด้วยวิธีการสอบถามและการสังเกต วิเคราะห์ข้อมูล เชิงปริมาณด้วยค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าความถี่ ร้อยละ และวิเคราะห์เนื้อหา เชิงคุณภาพในลักษณะการบรรยายสรุป ผลการประเมินและข้อเสนอแนะสรุปได้ ดังนี้

ผลการประเมิน

การศึกษารายงานผลการพัฒนาโครงการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียน

บ้านม่วงวิทยา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสกลนคร เขต 1 ผลการประเมินพบว่า

1. การประเมินโครงการด้านบริบท (Context Evaluation)

1.1 ข้อมูลเชิงคุณภาพ พบว่า 1) มีการศึกษาความต้องการจำเป็นก่อนการดำเนินโครงการ 2) โครงการมีความสอดคล้องกับความต้องการของ ผู้บริหาร ครูปฏิบัติการสอน นักเรียน คณะกรรมการสถานศึกษาและชุมชน 3) การวางแผนการดำเนินงานเน้นการมีส่วนร่วม ระหว่างโรงเรียนกับคณะกรรมการสถานศึกษาและชุมชน 4) การกำหนด วิสัยทัศน์ พันธุกิจ กลยุทธ์ และเป้าหมาย ของสถานศึกษา ส่งผลต่อความสำเร็จ ในการดำเนินโครงการ 5) เป้าหมายในแผนพัฒนาคุณภาพของสถานศึกษา มีส่วนส่งเสริมสนับสนุนให้มีการดำเนินโครงการ 6) นโยบายของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา มีส่วนส่งเสริมสนับสนุนให้มีการดำเนินโครงการในโรงเรียน 7) ผู้บริหารให้ความสำคัญ และให้การส่งเสริมสนับสนุน การดำเนินโครงการ 8) บุคลากรทุกคนในโรงเรียนทราบและเข้าใจถึงวัตถุประสงค์การดำเนินโครงการ

9) สภาพแวดล้อมภายในโรงเรียนที่เหมาะสม ส่งผลต่อความสำเร็จของการดำเนินโครงการ 10) ชุมชน องค์กรท้องถิ่น เห็นความสำคัญ และให้การส่งเสริมสนับสนุนโรงเรียนในการดำเนินโครงการ

1.2 ข้อมูลเชิงปริมาณ พบว่า จากรายการประเมิน จำนวน 10 ข้อ ในภาพรวม มีความเหมาะสม มากที่สุด ( = 4.54 และ S.D. = 0.19) โดยที่ “มีการศึกษาความต้องการจำเป็นก่อนการดำเนินโครงการ” มีค่า สูงสุด เท่ากับ 4.63 และ “โครงการมีความสอดคล้องกับความต้องการของ ผู้บริหารครูปฏิบัติการสอน นักเรียน คณะกรรมการสถานศึกษาและ ชุมชน” ต่ำสุด เท่ากับ 4.28

2. การประเมินโครงการด้านปัจจัยเบื้องต้น (Input Evaluation)

2.1 ข้อมูลเชิงคุณภาพ พบว่า 1) การบริหารจัดการในการดำเนินโครงการสอดคล้อง

กับความต้องการของสถานศึกษา 2) บุคลากรทุกคนในโรงเรียนมีส่วนร่วมในการดำเนินโครงการ

3) บุคลากรที่เข้าร่วมกิจกรรมของโครงการได้รับการพัฒนาเพื่อความเข้าใจกระบวนการ ของการดำเนินโครงการ 4) บุคลากรทุกคนในโรงเรียนดำเนินโครงการตามวิธีการและขั้นตอนที่กำหนดอย่างเป็นระบบและถูกต้อง 5) บุคลากรที่ร่วมดำเนินโครงการมีจำนวนเพียงพอกับกิจกรรม ของโครงการ 6) มีการจัดสรรเวลาในการดำเนินงานตามกิจกรรมของโครงการ 7) มีการวางแผนบริหารเวลาที่ได้รับจัดสรรอย่างเหมาะสม 8) มีการจัดงบประมาณในการดำเนินงานเพื่อการใช้ดำเนินกิจกรรมอย่างเพียงพอ 9) โรงเรียนได้รับการสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินโครงการ จากชุมชนและองค์กรอื่น 10) มีการวางแผนบริหารงบปราณที่ได้รับจัดสรรอย่างเหมาะสม

2.2 ข้อมูลเชิงปริมาณ พบว่า จากรายการประเมิน จำนวน 10 ข้อ ในภาพรวม

มีความเหมาะสม มากที่สุด ( = 4.44 และ S.D. = 0.17) โดย “มีการจัดงบประมาณในการดำเนินงานเพื่อการใช้ดำเนินกิจกรรมอย่างเพียงพอ” มีค่า สูงสุด เท่ากับ 4.66 และ “มีการวางแผนบริหารงบประมาณที่ได้รับจัดสรรอย่างเหมาะสม” ต่ำสุด เท่ากับ 4.02

3. การประเมินโครงการด้านกระบวนการ (Process Evaluation)

3.1 ข้อมูลเชิงคุณภาพ พบว่า 1) สถานศึกษาจัดกิจกรรมวิเคราะห์ตนเอง (Situation Analysis) ก่อนการวางแผนการดำเนินโครงการ 2) คณะกรรมการสถานศึกษาและชุมชนมีส่วนร่วมในการดำเนินงานตามกิจกรรมของโครงการ 3) มีการประชุมวางแผนการดำเนินโครงการ โดยการมีส่วนร่วมระหว่างผู้บริหาร ครูปฏิบัติการสอน คณะกรรมการสถานศึกษา ชุมชน และบุคลากรอื่นที่เกี่ยวข้อง 4) บุคลากรในสถานศึกษาทุกคนมีส่วนร่วมในกระบวนการของการดำเนินโครงการ

5) สถานศึกษามีการแจ้งปฏิทินกิจกรรมของโครงการแก่ครูและบุคลากรทุกคน 6) ความรู้ ความเข้าใจในกระบวนการของกิจกรรมของโครงการของผู้บริหารสถานศึกษาส่งผลต่อความสำเร็จในการดำเนินโครงการ 7) สถานศึกษานำผลการประเมินการดำเนินกิจกรรมของโครงการมาปรับปรุงให้เหมาะสมกับบริบทของตนอย่างต่อเนื่องเพื่อความยั่งยืน 8) การสร้างเครือข่าย และการร่วมกิจกรรมของโครงการทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และสร้างเสริมประสบการณ์ระหว่างบุคลากร 9) สถานศึกษาเปิดโอกาสให้คณะกรรมการสถานศึกษาและชุมชน มีส่วนร่วมในการกำกับติดตามการดำเนินโครงการ 10) เมื่อสิ้นปีการศึกษาสถานศึกษาจัดทำเอกสารสรุปผลการดำเนินงานการพัฒนาโครงการ

3.1 ข้อมูลเชิงปริมาณ พบว่า จากรายการประเมิน จำนวน 10 ข้อ ในภาพรวม มีความเหมาะสม มากที่สุด ( = 4.50 และ S.D. = 0.25) โดย “ความรู้ ความเข้าใจในกระบวนการของกิจกรรมของโครงการของผู้บริหารสถานศึกษาส่งผลต่อความสำเร็จในการดำเนินโครงการ มีค่า สูงสุด เท่ากับ 4.69 และ “คณะกรรมการสถานศึกษาและชุมชนมีส่วนร่วมในการดำเนินงานตามกิจกรรมของโครงการ ” มีค่า ต่ำสุด เท่ากับ 4.31

4. การประเมินโครงการด้านผลผลิต (Product Evaluation)

4.1 ข้อมูลเชิงคุณภาพ พบว่า 1) ผลการดำเนินโครงการส่งผลต่อการเพิ่มขึ้นของจำนวนนักเรียนในแต่ละปีการศึกษา 2) โรงเรียนได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากหน่วยงานต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้น 3) โรงเรียนได้รับการยอมรับจากสถานศึกษาอื่นและเป็นต้นแบบในการศึกษาดูงาน

4) โรงเรียนได้รับรางวัลเนื่องจากผลที่เกิดจากการดำเนินโครงการ 5) สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา

นำแนวทางการดำเนินงานของโรงเรียนไปขยายผลให้กับโรงเรียนอื่น ๆ มากขึ้น 6) ครูได้รับการยอมรับและได้รับเชิญเป็นวิทยากรในการขยายผลให้กับโรงเรียนหรือหน่วยงานอื่น7) ครูและนักเรียนเกิดความรักและศรัทธาองค์กรมากขึ้น 8) สถานศึกษามีเอกลักษณ์และผลงานที่เป็นเลิศ (Best Practice) ที่เกิดจากการดำเนินโครงการ 9) ครูได้รับรางวัลดีเด่นในระดับต่าง ๆ มากขึ้น

10) ผู้บริหาร ครูปฏิบัติการสอน นักเรียนคณะกรรมการสถานศึกษาและชุมชน มีความพึงพอใจ ต่อการดำเนินโครงการ

4.2 ข้อมูลเชิงปริมาณ พบว่า จากรายการประเมิน จำนวน 10 ข้อ ในภาพรวม มีความเหมาะสมมากที่สุด ( = 4.40 และ S.D. = 0.47) โดย “ผู้บริหาร ครูปฏิบัติการสอน นักเรียนคณะกรรมการสถานศึกษาและชุมชน มีความพึงพอใจต่อการดำเนินโครงการ” มีค่า สูงสุด เท่ากับ 4.54 และ “สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษานำแนวทางการดำเนินงานของโรงเรียนไปขยายผลให้ กับโรงเรียนอื่น ๆ มากขึ้น” มีค่า ต่ำสุด เท่ากับ 4.20

นอกจากนี้จากการดำเนินงานตามกิจกรรมของโครงการดังกล่าว ยังได้ส่งผลกระทบต่อ ผู้บริหารโรงเรียน ครูปฏิบัติการสอน นักเรียน โรงเรียน คณะกรรมการสถานศึกษาและชุมชน ดังนี้

ผลที่เกิดกับผู้บริหาร

ผู้บริหารมีภาวะผู้นำ เน้นความสำคัญในการบริหารงานบริหารทั่วไป สนใจการจัดกิจกรรม

ของโครงการพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน และให้ความสำคัญกับการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ

ครูปฏิบัติการสอน

ส่งผลให้ครูปรับพฤติกรรมในการสอน จากที่เคยบอก อธิบาย มาเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง

การเรียนรู้ของนักเรียน มีการจัดการเรียนการสอนตอบสนองต่อความต้องการของผู้เรียน มีการทำงานเป็นทีม ร่วมวางแผน ร่วมสังเกตกิจกรรม ร่วมสะท้อนผล ร่วมปรับกิจกรรม วัฒนธรรมองค์การเปลี่ยนไปสู่การเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ และสามารถพัฒนาวิชาชีพของตนเองตามแนวทางการดำเนินกิจกรรมของโครงการ

ผลที่เกิดกับนักเรียน

นักเรียนมีโอกาสในการแสดงแนวคิดในการร่วมกิจกรรม ส่งผลให้ผู้เรียน กล้าคิด

กล้าแสดงออกอย่างมีเหตุผล สามารถอธิบายถึงเหตุผลของสิ่งที่เกิดขึ้นในกระบวนการทำงาน ในการร่วมกิจกรรม สามารถอธิบายสิ่งที่ตนเองคิดให้ผู้อื่นฟังและยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น ที่คิดต่างจากตน มีความเชื่อมั่นในตนเอง มีความเป็นผู้นำ มีทักษะชีวิตที่ดี และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยรวมของนักเรียนสูงขึ้น

ผลที่เกิดกับโรงเรียน คณะกรรมการสถานศึกษาและชุมชน

โรงเรียนมีผลงานที่เป็นเลิศ (Best practice) ได้รับการยอมรับจากสถานศึกษาอื่นและ

เป็นต้นแบบในการศึกษาดูงาน วัฒนธรรมองค์การเปลี่ยนไปสู่การเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ ชุมชนมีความพึงพอใจในผลผลิตที่เกิดขึ้นจากการดำเนินกิจกรรมของโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน และเข้ามามีส่วนร่วมในการสนับสนุนโรงเรียนมากขึ้น

โพสต์โดย ยุทธชัย : [16 มี.ค. 2562 เวลา 17:32 น.]
อ่าน [3132] ไอพี : 223.206.249.227
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 2,717 ครั้ง
ศรีลังกาสั่งปิดโรงเรียน-หน่วยราชการ ให้จนท.ทำงานที่บ้านประหยัดน้ำมัน
ศรีลังกาสั่งปิดโรงเรียน-หน่วยราชการ ให้จนท.ทำงานที่บ้านประหยัดน้ำมัน

เปิดอ่าน 9,479 ครั้ง
สวยสู้ฤดูหนาว ด้วยสารพัดอาหารผิวจากธรรมชาติ
สวยสู้ฤดูหนาว ด้วยสารพัดอาหารผิวจากธรรมชาติ

เปิดอ่าน 32,281 ครั้ง
วิธีแก้ปัญหาเสื้อผ้าเหม็นอับ
วิธีแก้ปัญหาเสื้อผ้าเหม็นอับ

เปิดอ่าน 16,570 ครั้ง
ไดร์ผมตรงอย่างมืออาชีพ
ไดร์ผมตรงอย่างมืออาชีพ

เปิดอ่าน 27,270 ครั้ง
7-11 สาขาแรกอยู่ที่ไหน
7-11 สาขาแรกอยู่ที่ไหน

เปิดอ่าน 7,630 ครั้ง
เชิญเข้าร่วมกิจกรรมอบรม "สิทธิผู้ใช้อินเทอร์เน็ตฯ..."
เชิญเข้าร่วมกิจกรรมอบรม "สิทธิผู้ใช้อินเทอร์เน็ตฯ..."

เปิดอ่าน 9,565 ครั้ง
เคล็ดลับการดูแลเท้า
เคล็ดลับการดูแลเท้า

เปิดอ่าน 11,661 ครั้ง
ไม่เชื่ออย่าลบหลู่!! ข้อคิดวันตรุษจีน
ไม่เชื่ออย่าลบหลู่!! ข้อคิดวันตรุษจีน

เปิดอ่าน 8,174 ครั้ง
คุณครูกับคนดี โดย กล้า สมุทวณิช
คุณครูกับคนดี โดย กล้า สมุทวณิช

เปิดอ่าน 18,772 ครั้ง
เปิดรายการ "ราคากลาง" ซ่อมรถหลังน้ำท่วม ป้องกันถูกเอาเปรียบ
เปิดรายการ "ราคากลาง" ซ่อมรถหลังน้ำท่วม ป้องกันถูกเอาเปรียบ

เปิดอ่าน 16,999 ครั้ง
สวมแหวนนิ้วไหนถึงจะมีโชค
สวมแหวนนิ้วไหนถึงจะมีโชค

เปิดอ่าน 18,671 ครั้ง
ปลูกมะนาวนอกฤดู 1 ไร่ ได้ 1 แสน
ปลูกมะนาวนอกฤดู 1 ไร่ ได้ 1 แสน

เปิดอ่าน 12,972 ครั้ง
ชมย้อนหลังวอลเล่ย์บอลสาวไทยชนะญี่ปุ่น 3-1เซตเมื่อ 16ก.ย.56
ชมย้อนหลังวอลเล่ย์บอลสาวไทยชนะญี่ปุ่น 3-1เซตเมื่อ 16ก.ย.56

เปิดอ่าน 27,838 ครั้ง
พืชอเนกประสงค์
พืชอเนกประสงค์

เปิดอ่าน 22,060 ครั้ง
ทำไมเบอร์โทรศัพท์เลข 2 ถึงอ่านว่า "โท"
ทำไมเบอร์โทรศัพท์เลข 2 ถึงอ่านว่า "โท"

เปิดอ่าน 29,659 ครั้ง
กุ้งลายเสือ - เรื่องน่ารู้
กุ้งลายเสือ - เรื่องน่ารู้
เปิดอ่าน 3,203 ครั้ง
ระบบหายใจ (respiration)
ระบบหายใจ (respiration)
เปิดอ่าน 14,885 ครั้ง
ลดสารพิษเพื่อสุขภาพด้วยสมุนไพร
ลดสารพิษเพื่อสุขภาพด้วยสมุนไพร
เปิดอ่าน 19,344 ครั้ง
เกมส์แข่งรถ
เกมส์แข่งรถ
เปิดอ่าน 20,930 ครั้ง
ระบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ (ฉบับที่ 6) พ.ศ.2545
ระบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ (ฉบับที่ 6) พ.ศ.2545

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ