ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
รูปแบบการพัฒนาบุคลากรครูเพื่อส่งเสริมสมรรถภาพการวิจัยในชั้นเรียนโรงเรียนเกษตรสมบูรณ์วิทยาคม สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ

ชื่อเรื่อง : รูปแบบการพัฒนาบุคลากรครูเพื่อส่งเสริมสมรรถภาพการวิจัยในชั้นเรียนโรงเรียนเกษตรสมบูรณ์วิทยาคม สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ

ผู้วิจัย : นายศุภชัย บุราณ

หน่วยงาน : โรงเรียนเกษตรสมบูรณ์วิทยาคม

ปีที่วิจัย : พ.ศ. 2559 - 2560

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลและสภาพความต้องการรูปแบบการพัฒนาบุคลากรครูเพื่อส่งเสริมสมรรถภาพการวิจัยในชั้นเรียน โรงเรียนเกษตรสมบูรณ์วิทยาคม สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ 2) เพื่อพัฒนารูปแบบการพัฒนาการพัฒนาบุคลากรครูเพื่อส่งเสริมสมรรถภาพการวิจัยในชั้นเรียน โรงเรียนเกษตรสมบูรณ์วิทยาคม สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ 3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการพัฒนาบุคลากรครูเพื่อส่งเสริมสมรรถภาพการวิจัยในชั้นเรียน โรงเรียนเกษตรสมบูรณ์วิทยาคม สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ 4) เพื่อประเมินรูปแบบการพัฒนาบุคลากรครูเพื่อส่งเสริมสมรรถภาพการวิจัยในชั้นเรียน โรงเรียนเกษตรสมบูรณ์วิทยาคม สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ โดยประชากรที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ครูผู้สอน จำนวน 81 คน และครูพี่เลี้ยงที่ร่วมกำกับติดตาม จำนวน 4 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย แบบวิเคราะห์เอกสาร แบบสัมภาษณ์ แบบทดสอบ แบบสอบถาม แบบสังเกต ประเด็นสนทนากลุ่ม และแบบสรุปผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่า t-test for Dependent ค่า Wilcoxon Signed – Rank Test และการวิเคราะห์เนื้อหา

ผลการวิจัยพบว่า

1. ผลการตรวจสอบความสมเหตุสมผลเชิงทฤษฎี ความเป็นไปได้ และความสอดคล้องของการพัฒนาบุคลากรครูเพื่อส่งเสริมสมรรถภาพการวิจัยในชั้นเรียน โรงเรียนเกษตรสมบูรณ์วิทยาคม สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ มีชื่อว่า ซีทีเออีอาร์ (CTAER Model) โดยผู้เชี่ยวชาญ พบว่า ความสมเหตุสมผลเชิงทฤษฎี มีค่าดัชนีความสอดคล้องรายข้อ ระหว่าง 0.80 - 1.00 ความเป็นไปได้ของรูปแบบ มีค่าดัชนีความสอดคล้องรายข้อ ระหว่าง 0.80 – 1.00 และความสอดคล้องของรูปแบบมีค่าดัชนีความสอดคล้องรายข้อ ระหว่าง 0.80 – 1.00 ทั้งนี้เนื่องมาจากขั้นตอนการพัฒนารูปแบบการพัฒนาบุคลากรครูเพื่อส่งเสริมสมรรถภาพการวิจัยในชั้นเรียนมีกระบวนการที่เป็นระบบ มีความเกี่ยวเนื่องสัมพันธ์กันทุกองค์ประกอบ ซึ่งก็คือ ปัจจัยนำเข้า กระบวนการ และผลลัพธ์ที่คาดหวัง

2. ผลการใช้รูปแบบการพัฒนาบุคลากรครูเพื่อส่งเสริมสมรรถภาพการวิจัยในชั้นเรียน โรงเรียนเกษตรสมบูรณ์วิทยาคม สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ สรุปได้ดังนี้

2.1 สมรรถภาพการวิจัยในชั้นเรียน ของผู้รับการอบรม หลังการใช้รูปแบบ โดยภาพรวม พบว่า การฝึกอบรมส่งเสริมสมรรถภาพการวิจัยในชั้นเรียน อยู่ในระดับมากที่สุด ยอมรับสมมติฐานการวิจัย ข้อ 1 ที่กำหนดไว้ และเมื่อพิจารณาการประเมินผลการฝึกอบรมส่งเสริมสมรรถภาพการวิจัยในชั้นเรียนเป็นรายด้านโดยเรียงลำดับจากมากไปน้อย พบว่า การประเมินด้านผลผลิต (Product) ด้านสภาวะแวดล้อม( Context ) ด้านปัจจัยนำเข้าของการฝึกอบรม (Inputs) และด้านกระบวนการ (Process) อยู่ในระดับมากที่สุด ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการวิจัยในชั้นเรียนของครูผู้นิเทศ พบว่า ก่อนและหลังการใช้

2.2 รูปแบบการพัฒนาบุคลากรครูเพื่อส่งเสริมสมรรถภาพการวิจัยในชั้นเรียน ครูพี่เลี้ยงมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการวิจัยในชั้นเรียน แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .05 โดยหลังการใช้รูปแบบพัฒนาบุคลากรครู เพื่อส่งเสริมสมรรถภาพการวิจัยในชั้นเรียน มีคะแนนสูงกว่า ก่อนการใช้รูปแบบพัฒนาบุคลากรครู เพื่อส่งเสริมสมรรถภาพการวิจัยในชั้นเรียน

2.3 ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับรูปแบบการพัฒนาบุคลากรครูเพื่อส่งเสริมสมรรถภาพการวิจัยในชั้นเรียน ครูผู้รับการอบรม มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการวิจัยในชั้นเรียน แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ยอมรับสมมติฐานการวิจัย ข้อ 2 ที่กำหนดไว้ โดยหลังการใช้รูปแบบพัฒนาบุคลากรครู เพื่อส่งเสริมสมรรถภาพการวิจัยในชั้นเรียน มีคะแนนสูงกว่า ก่อนการใช้รูปแบบพัฒนาบุคลากรครู เพื่อส่งเสริมสมรรถภาพการวิจัยในชั้นเรียน

2.4 สมรรถภาพการทำวิจัยในชั้นเรียนของครูผู้รับอบรม พบว่า ครูผู้รับการอบรม มีสมรรถภาพในการทำวิจัยในชั้นเรียน อยู่ในระดับมากที่สุด ยอมรับสมมติฐานการวิจัย ข้อ 2 ที่กำหนดไว้ และเมื่อพิจารณาสมรรถภาพในการทำวิจัยในชั้นเรียน พบว่า ครูผู้รับการอบรมมีสมรรถภาพในการทำวิจัยในชั้นเรียน อยู่ในระดับมากที่สุด

2.5 ความพึงพอใจของครูที่มีต่อรูปแบบการพัฒนาบุคลากรครู เพื่อส่งเสริมสมรรถภาพการวิจัยในชั้นเรียนของครู โดยภาพรวม พบว่า ครูมีความพึงพอใจต่อรูปแบบการการพัฒนาบุคลากรครู เพื่อส่งเสริมสมรรถภาพการวิจัยในชั้นเรียนของครู อยู่ในระดับมากที่สุด ยอมรับสมมติฐาน การวิจัยข้อ 3 ที่กำหนดไว้ เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ครูมีความพึงพอใจที่อยู่ในระดับ มากที่สุดทุกด้าน โดยเรียงลำดับคะแนนเฉลี่ยจากมากไปหาน้อยดังนี้ ลำดับที่ 1 ด้านกระบวนการนำรูปแบบไปใช้ ลำดับที่ 2 ด้านผลของการใช้รูปแบบ และลำดับที่ 3 ด้านองค์ประกอบของรูปแบบ เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ทุกข้ออยู่ในระดับมากที่สุด โดยเรียงลำดับคะแนนเฉลี่ย จากมากไปหาน้อยดังนี้ คือ ดับที่ 1 องค์ประกอบเชิงกระบวนการ แบ่งออกเป็น 4 ขั้น ได้แก่ 1) ขั้นคัดกรอง 2) ขั้นการให้ความรู้ก่อนการพัฒนา 3) ขั้นการดำเนินการ 4) ขั้นการประเมินผลการพัฒนามีความเหมาะสม สัมพันธ์กัน ลำดับที่ 2 องค์ประกอบของรูปแบบมีความชัดเจนและเป็นระบบ ลำดับที่ 3 องค์ประกอบเชิงหลักการและวัตถุประสงค์ มีความเหมาะสม ลำดับที่ 4 องค์ประกอบเชิงเงื่อนไข การนำไปใช้ และการติดตาม ดูแล มีความเหมาะสม และลำดับที่ 5 องค์ประกอบเชิงกระบวนการ และองค์ประกอบเชิงเงื่อนไขการนำไปใช้ มีความสอดคล้องสัมพันธ์กัน ทั้งนี้จากการสนทนากลุ่ม พบว่า องค์ประกอบของรูปแบบการพัฒนาบุคลากรครู เพื่อส่งเสริมสมรรถภาพการวิจัยในชั้นเรียนของครู ทุกองค์ประกอบมีความเหมาะสม และสอดคล้องซึ่งกันและกัน กระบวนการพัฒนาบุคลากรครู เพื่อส่งเสริมสมรรถภาพการวิจัยในชั้นเรียนมีความต่อเนื่องและสัมพันธ์กันในแต่ละขั้นตอน ถือเป็นกระบวนการที่มีประโยชน์มากในการพัฒนาคุณภาพการศึกษา ส่วนเงื่อนไขในการนำรูปแบบไปใช้นั้นเป็นสิ่งที่มีความจำเป็นอย่างยิ่งในการนำรูปแบบการพัฒนาบุคลากรครู เพื่อส่งเสริมสมรรถภาพการวิจัยในชั้นเรียนไปปฏิบัติจริง โดยเฉพาะเงื่อนไขของครูที่มีความมุ่งมั่น จริงใจในการพัฒนาการจัดการเรียนรู้ ด้วยความเต็มใจ ร่วมมือกัน มีความรับผิดชอบในการทำงาน และมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีต่อกันเป็นสิ่งที่มีความสำคัญมาก รวมทั้งผู้บริหารมีความตระหนักถึงความสำคัญของการพัฒนาบุคลากรครู เพื่อส่งเสริมสมรรถภาพการวิจัยในชั้นเรียน ให้การสนับสนุนด้านงบประมาณ สื่อ อุปกรณ์ สิ่งอำนวยความสะดวก และสร้างขวัญกำลังใจให้กับครูเป็นการส่งเสริมให้ครูเกิดการพัฒนาทั้งทางด้านการพัฒนาบุคลากรครู และการทำวิจัยในชั้นเรียน

2.6 ผลการเรียนรู้ของนักเรียนที่เกิดจากการทำวิจัยในชั้นเรียนของครูผู้ทำวิจัย พบว่า ก่อนและหลังการใช้รูปแบบการพัฒนาบุคลากรครูเพื่อส่งเสริมสมรรถภาพการวิจัยในชั้นเรียน นักเรียนมีผลการเรียนรู้แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ยอมรับสมมติฐานการวิจัย ข้อ 4 ที่กำหนดไว้ โดยหลังการใช้รูปแบบการพัฒนาบุคลากรครู เพื่อส่งเสริมสมรรถภาพการวิจัยในชั้นเรียน นักเรียนทุกระดับชั้นทุกห้อง มีคะแนนเฉลี่ยสูงกว่าก่อนการใช้รูปแบบการพัฒนาบุคลากรครู เพื่อส่งเสริมสมรรถภาพการวิจัยในชั้นเรียน

โพสต์โดย jooju : [23 มี.ค. 2562 เวลา 17:33 น.]
อ่าน [3233] ไอพี : 1.179.184.69
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 9,286 ครั้ง
Google Wave ของเล่นใหม่จากูเกิ้ล
Google Wave ของเล่นใหม่จากูเกิ้ล

เปิดอ่าน 3,350 ครั้ง
จัดอาหารกลางวันมีคุณภาพ กระตุ้นพัฒนาการเด็กวัยเรียน
จัดอาหารกลางวันมีคุณภาพ กระตุ้นพัฒนาการเด็กวัยเรียน

เปิดอ่าน 40,892 ครั้ง
พระประจำวันเกิด
พระประจำวันเกิด

เปิดอ่าน 35,102 ครั้ง
กลยุทธ์ในการเรียนภาษาให้ดี
กลยุทธ์ในการเรียนภาษาให้ดี

เปิดอ่าน 18,589 ครั้ง
ปัญหาเรื่องตา ในผู้ป่วยเบาหวาน
ปัญหาเรื่องตา ในผู้ป่วยเบาหวาน

เปิดอ่าน 20,985 ครั้ง
สื่อดังระดับโลกแห่ยกย่อง "โน้ต วีรฉัตร" ตีกลองกับภาพวาดกำแพง คนต่างชาติทึ่งความสามารถศิลปินไทย
สื่อดังระดับโลกแห่ยกย่อง "โน้ต วีรฉัตร" ตีกลองกับภาพวาดกำแพง คนต่างชาติทึ่งความสามารถศิลปินไทย

เปิดอ่าน 16,218 ครั้ง
เจาะเทคนิค "ฝึกภาษาอังกฤษ" ทำเองได้ ไม่ยากเลย
เจาะเทคนิค "ฝึกภาษาอังกฤษ" ทำเองได้ ไม่ยากเลย

เปิดอ่าน 1,025 ครั้ง
Blog คืออะไร
Blog คืออะไร

เปิดอ่าน 13,928 ครั้ง
ชี้เอเชียรู้จักเทคนิควาดภาพด้วยสีน้ำมันก่อนยุโรปหลายร้อยปี
ชี้เอเชียรู้จักเทคนิควาดภาพด้วยสีน้ำมันก่อนยุโรปหลายร้อยปี

เปิดอ่าน 23,651 ครั้ง
เรื่องของ"เลข 9" ในวันที่ 9 เดือน 9 ปี 2009
เรื่องของ"เลข 9" ในวันที่ 9 เดือน 9 ปี 2009

เปิดอ่าน 2,374 ครั้ง
ชวนลูกเล่น ตามรอยพระยุคลบาท… เด็กฉลาดสมวัย
ชวนลูกเล่น ตามรอยพระยุคลบาท… เด็กฉลาดสมวัย

เปิดอ่าน 17,808 ครั้ง
26 มิถุนายน วันสุนทรภู่
26 มิถุนายน วันสุนทรภู่

เปิดอ่าน 9,279 ครั้ง
"พันธุกรรม"ทำให้ คนลดน้ำหนักได้ไม่เท่ากัน
"พันธุกรรม"ทำให้ คนลดน้ำหนักได้ไม่เท่ากัน

เปิดอ่าน 2,381 ครั้ง
CBD และ THC ในพืชกัญชา คืออะไร?
CBD และ THC ในพืชกัญชา คืออะไร?

เปิดอ่าน 23,320 ครั้ง
เปิดความหมายคำว่า... พ่อ... กับเรื่องดีๆ ที่น่ารู้ในพยัญชนะตัว พ.ทั้ง 6
เปิดความหมายคำว่า... พ่อ... กับเรื่องดีๆ ที่น่ารู้ในพยัญชนะตัว พ.ทั้ง 6

เปิดอ่าน 20,841 ครั้ง
"ผักชี" ผักพิฆาตอธรรม
"ผักชี" ผักพิฆาตอธรรม
เปิดอ่าน 12,390 ครั้ง
เทคโนโลยีคัดกรองตัวอ่อน ความหวังใหม่ของคนอยากมีลูก (ปลอดโรคทางพันธุกรรม)
เทคโนโลยีคัดกรองตัวอ่อน ความหวังใหม่ของคนอยากมีลูก (ปลอดโรคทางพันธุกรรม)
เปิดอ่าน 2,753 ครั้ง
11 ผลไม้บำรุงผิว ช่วยให้ผิวที่เปล่งปลั่ง และสุขภาพดี
11 ผลไม้บำรุงผิว ช่วยให้ผิวที่เปล่งปลั่ง และสุขภาพดี
เปิดอ่าน 8,609 ครั้ง
กรมวิทย์ยัน ตรวจขวดน้ำพลาสติกทิ้งกลางแดดร้อน ไม่พบสารพิษไดออกซิน
กรมวิทย์ยัน ตรวจขวดน้ำพลาสติกทิ้งกลางแดดร้อน ไม่พบสารพิษไดออกซิน
เปิดอ่าน 12,618 ครั้ง
สอนอย่างไรให้เด็กคิดเขียน
สอนอย่างไรให้เด็กคิดเขียน

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ