บทคัดย่อ
ชื่อเรื่อง : รายงานผลการพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างลักษณะนิสัย
BANCHETAWAN Model วิชาบาร์โค้ดแลกแก้วลดโลกร้อน สำหรับนักเรียน
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
ผู้วิจัย : นางณัชเพ็ญฤดี กอบชัย ตำแหน่งครู วิทยฐานะครูชำนาญการพิเศษ
โรงเรียน : โรงเรียนสาธิตเทศบาลบ้านเชตวัน
ปีการศึกษา : 2560
การวิจัยในครั้งนี้เป็นกระบวนการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) โดยมีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนาการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างลักษณะนิสัย BANCHETAWAN Model วิชาบาร์โค้ดแลกแก้วลดโลกร้อน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยพัฒนาให้ได้ระดับเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนการพัฒนาเปรียบเทียบกับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังการพัฒนาโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างลักษณะนิสัย BANCHETAWAN Model วิชาบาร์โค้ดแลกแก้วลดโลกร้อน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อชุดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างลักษณะนิสัย BANCHETAWAN Model วิชาบาร์โค้ดแลกแก้วลดโลกร้อน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 กลุ่มตัวอย่างได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนสาธิตเทศบาลบ้านเชตวัน สำนักกองศึกษา เทศบาลเมืองแพร่ จำนวน 34 คนที่ได้มาจากการสุ่มอย่างง่าย (Simple Random Sampling) โดยการจับฉลากเลือกห้องเรียน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาคือ 1) ชุดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างลักษณะนิสัย BANCHETAWAN Model วิชาบาร์โค้ดแลกแก้วลดโลกร้อน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 3) แบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลคือ ค่า t-test การหาค่าเฉลี่ย (X-bar)ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) การหาประสิทธิภาพ (E1/E2) ค่าความยากง่าย (p) ค่าอำนาจจำแนก (r) ค่าความเชื่อมั่น (KR 20 )
ผลการวิจัยและพัฒนาพบว่า
1. ประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างลักษณะนิสัย BANCHETAWAN Model วิชาบาร์โค้ดแลกแก้วลดโลกร้อน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีประสิทธิภาพ 83.75/84.60 ซึ่งเป็นไป ตามเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้
2. ค่าดัชนีประสิทธิผลก่อนการพัฒนาและหลังการพัฒนานักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ก่อนเรียนร้อยละ 62.45 หลังเรียนร้อยละ 84.60 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนหลังเรียน สูงกว่าก่อนการพัฒนาอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อชุดกิจกรรมการเรียนรู้ มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก