บทคัดย่อ
นางพรีรัตน์ เพชรแก้ว
ครู วิทยฐานะครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนเทศบาลวัดเชียงยืน
การพัฒนารูปแบบการสอนโดยใช้หลักการ เรียนรู้เป็นทีมแบบ PHET Modelเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคอมพิวเตอร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี โรงเรียนเทศบาลวัดเชียงยืน เป็นการวิจัยและพัฒนาทางการศึกษา (Research and Development) โดยวัตถุประสงค์ในการวิจัยครั้งนี้เพื่อ 1) เพื่อพัฒนารูปแบบการสอนโดยใช้หลักการเรียนรู้เป็นทีมแบบ PHET Modelเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคอมพิวเตอร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 2) เพื่อศึกษาผลการใช้รูปแบบการสอนโดยใช้หลักการ เรียนรู้เป็นทีมแบบ PHET Modelเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคอมพิวเตอร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี โรงเรียนเทศบาลวัดเชียงยืนและ 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อรูปแบบการสอนโดยใช้หลักการ เรียนรู้เป็นทีมแบบ PHET Modelเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคอมพิวเตอร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี โรงเรียนเทศบาลวัดเชียงยืน ประชากรที่ใช้ในการวิจัย คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ในปีการศึกษา 2560 จำนวน 42 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบสัมภาษณ์ แบบวิเคราะห์รูปแบบการสอนโดยใช้หลักการเรียนรู้เป็นทีมแบบ PHET Model รูปแบบการสอนโดยใช้หลักการเรียนรู้เป็นทีมแบบ PHET Model แบบประเมินรูปแบบการสอนโดยใช้หลักการเรียนรู้เป็นทีมแบบ PHET Model แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียน วิเคราะห์ข้อมูลโดยหาค่าความถี่ ค่าเฉลี่ย และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
สรุปผลการวิจัย
การพัฒนารูปแบบการสอนโดยใช้หลักการเรียนรู้เป็นทีมแบบ PHET Modelเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคอมพิวเตอร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 สามารถสรุปผลการวิจัยได้ดังนี้
1. ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐานสำหรับการพัฒนา รูปแบบการสอนโดยใช้หลักการเรียนรู้เป็นทีมแบบ PHET Model
ผลการศึกษาสภาพและปัญหาการจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี พบว่า ครูยังคงเน้นการบรรยายเนื้อหาเป็นหลัก ไม่มีรูปแบบ เทคนิค วิธีการสอน และกระบวนการจัดการเรียนรู้ที่แปลกใหม่ กิจกรรมไม่น่าสนใจ สื่อและเทคโนโลยีในการจัดการเรียนรู้มีการนำมาใช้น้อย สื่อ อุปกรณ์ไม่เพียงพอ เก่าและขาดคุณภาพ ครูขาดการบูรณาการการเรียนรู้ นักเรียนมีความหลากหลายและแตกต่างกัน แหล่งเรียนรู้ภายในโรงเรียนไม่เพียงพอ นักเรียนไม่ตั้งใจเรียน เบื่อหน่ายขาดเรียนบ่อย ขาดความสามารถด้านกระบวนการคิด ไม่กระตือรือร้น ไม่สนใจใฝ่รู้
2. ผลการศึกษาแนวคิด ทฤษฎีเกี่ยวกับหลักการเรียนรู้เป็นทีมในกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี
ผลการศึกษาการจัดการเรียนรู้ในกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี พบว่า ในการสอนโดยใช้หลักการเรียนรู้เป็นทีมนั้น เป็นการจัดการเรียนรู้ที่เน้นให้ผู้เรียนแสวงหาความรู้ด้วยการลงมือปฏิบัติ โดยอาศัยกระบวนการเรียนรู้ที่หลากหลายเป็นเครื่องมือที่จะนำพาผู้เรียนไปสู่เป้าหมายของหลักสูตร การจัดกระบวนการเรียนรู้ต้องให้สอดคล้องกับความสนใจและความถนัดของผู้เรียนโดยคำนึงถึงความแตกต่างระหว่างบุคคล เน้นการฝึกทักษะกระบวนการคิดและการจัดการ การเผชิญสถานการณ์ และการประยุกต์ความรู้มาใช้เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหา และให้ผู้เรียนได้เรียนรู้จากประสบการณ์จริง การจัดการเรียนรู้ตามหลักการเรียนรู้เป็นทีมเป็นวิธีการเรียนรู้ที่ยึดปรัชญาการสร้างความรู้ด้วยตนเองผ่านวิธีการจัดการเรียนรู้แบบลงมือปฏิบัติ (Active Learning) โดยประเมินการใช้ข้อมูลร่วมกัน การค้นหา และนิยามปัญหา การได้มาซึ่งความรู้ และการแก้ปัญหาโดยใช้การประเมินตามสภาพจริง สร้างเกณฑ์การประเมินเพื่อประเมิน การอภิปรายเชื่อมโยงแนวคิดของผู้เรียนที่เกิดขึ้นในชั้นเรียนผ่านการเรียนรู้ร่วมกันเพื่อหาข้อสรุปของบทเรียน เพื่อบรรลุตามเป้าหมายที่วางไว้ ซึ่งจะส่งผลให้ครูผู้สอนสามารถพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณภาพและมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้นได้ในที่สุด
3. ผลการพัฒนารูปแบบการสอนโดยใช้หลักการเรียนรู้เป็นทีมแบบ PHET Model
3.1 ผลการพัฒนารูปแบบการสอนโดยใช้หลักการ เรียนรู้เป็นทีมแบบ PHET Modelเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคอมพิวเตอร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี โรงเรียนเทศบาลวัดเชียงยืน พบว่า มีองค์ประกอบที่สำคัญ คือ กระบวนการจัดการเรียนรู้ที่เน้นถึงความต้องการ และความสนใจของผู้เรียนเป็นสำคัญ โดยเปิดโอกาสให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการเรียนรู้ให้มากที่สุด เน้นให้ผู้เรียนสามารถสร้างองค์ความรู้ได้ด้วยตัวเองจากการลงมือปฏิบัติงานในสถานการณ์จริง สืบค้นหาความรู้ได้ตนเอง เพื่อให้เกิดทักษะที่จะนำสิ่งที่เรียนรู้ไปใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน และสามารถเข้าใจวิธีการเรียนรู้ของตนได้
การสอนโดยใช้หลักการ เรียนรู้เป็นทีม เป็นวิธีการจัดการเรียนรู้ที่สามารถตอบสนองต่อบริบทของสภาพและปัญหาการจัดการเรียนรู้ของกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี และสามารถสนองความต้องการในการเรียนรู้ของนักเรียนได้เป็นอย่างดี รูปแบบการสอนโดยใช้หลักการ เรียนรู้เป็นทีมแบบ PHET Model ประกอบด้วย ขั้นตอนที่ 1 Planning เป็นการวางแผนและกำหนดเป้าหมายการเรียนรู้ร่วมกัน คือ การที่สมาชิกในทีม (4-5 คน) มีบทบาทหน้าที่ที่ชัดเจน มีการสนทนากัน เปิดเผยความคิดและระดมสมองโดยที่สมาชิกทุกคนมีส่วนร่วมในการกำหนดเป้าหมายของงานและร่วมวางแผนการเรียนรู้ ขั้นตอนที่ 2 Hole sharing เป็นแลกเปลี่ยนเรียนรู้และตัดสินใจร่วมกัน คือ กระบวนการทำงานที่ผู้เรียนต้องเรียนรู้ร่วมกัน มีการอภิปราย มีการสื่อสารและมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นเพื่อเป็นการแสดงความคิดเห็นแลกเปลี่ยนความคิดและประสบการณ์ และตัดสินใจร่วมกัน ขั้นตอนที่ 3 Evaluation เป็นการประเมินผลงานร่วมกัน คือ การที่สมาชิกทุกคนในทีมสามารถประเมินผลงานของทีมร่วมกันได้ และขั้นตอนที่ 4 Transfer and Utilization เป็นการเชื่อมโยงและประยุกต์ใช้ความรู้ โดยนำความรู้ที่ได้ไปจัดทำชิ้นงาน คือ การที่สมาชิกทุกคนในทีมสามารถนำความรู้ที่ได้ไปใช้ในการสร้างสรรค์ชิ้นงาน (สื่อเพื่อการศึกษา) ซึ่งเป็นผลงานของทีมที่มีคุณภาพ โดยการจัด ปัจจัยสนับสนุนการจัดการเรียนรู้ ได้แก่ การจัดเตรียมวัสดุ อุปกรณ์ในการเรียนให้มีความพร้อม และพอเพียงในการจัด การเรียนรู้ จัดหาสื่อ และเทคโนโลยีสนับสนุนการจัด การเรียนการสอนให้เพียงพอ จัดหาแหล่งเรียนรู้ทั้งในและนอกโรงเรียนสนับสนุนการจัดการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับความต้องการของผู้เรียน พัฒนาความพร้อมของครูในการจัดการเรียนรู้โดยใช้ รูปแบบการสอนโดยใช้หลักการ เรียนรู้เป็นทีมแบบ PHET Model รวมถึงสร้างเจตคติของครูที่มีต่อผู้เรียนว่า ผู้เรียนทุกคนมีความสามารถในการเรียนรู้ พัฒนาตนเองได้ และถือว่าผู้เรียนมีความสำคัญที่สุด
3.2 ผลการตรวจสอบ รูปแบบการสอนโดยใช้หลักการ เรียนรู้เป็นทีมแบบ PHET Model โดยผู้ทรงคุณวุฒิ พบว่า มีความเหมาะสมและมีความเป็นไปได้อยู่ในระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.69 และ 4.64 ตามลำดับ และผลการหาประสิทธิภาพของวิธีการจัดการเรียนรู้เป็นทีมแบบ PHET Model พบว่า มีค่าประสิทธิภาพ (E1/E2) เท่ากับ 83.57/84.11 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 ที่กำหนดไว้
4. ผลการใช้รูปแบบการสอนโดยใช้หลักการเรียนรู้เป็นทีมแบบ PHET Modelเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคอมพิวเตอร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
ผลการทดลองใช้รูปแบบการสอนโดยใช้หลักการเรียนรู้เป็นทีมแบบ PHET Modelเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคอมพิวเตอร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 พบว่า นักเรียนที่เรียนด้วยรูปแบบการสอนโดยใช้หลักการเรียนรู้เป็นทีมแบบ PHET Modelเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคอมพิวเตอร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน
5. ผลการศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อรูปแบบการสอนโดยใช้หลักการเรียนรู้เป็นทีมแบบ PHET Modelเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคอมพิวเตอร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
ผลการศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อรูปแบบการสอนโดยใช้หลักการเรียนรู้เป็นทีมแบบ PHET Modelเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคอมพิวเตอร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ในภาพรวมมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากโดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.86 และมีค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.618