ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษด้วยแนวคิดคนขับเรือหางยาว สำหรับนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 และนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านไสไทย อำ

บทคัดย่อ

การศึกษานี้ เป็นการจัดกิจกรรม “ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้”มุ่งพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ ด้วยแนวคิดคนขับเรือหางยาว สำหรับนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 และนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านไสไทย อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 ได้จัดทำขึ้นเพื่อ 1) เพื่อพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 และนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านไสไทย 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาอังกฤษก่อนและหลังการจัดกิจกรรม “ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้” ด้านการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษด้วยแนวคิดคนขับเรือหางยาว สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 และนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านไสไทย 3) เพื่อให้นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 และนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านไสไทย มีเจตคติที่ดีต่อวิชาภาษาอังกฤษ และ 4) เพื่อศึกษาระดับความพึงพอใจของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 และผู้ปกครองนักเรียน โรงเรียนบ้านไสไทย ที่มีต่อการจัดกิจกรรม “ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้” ด้านการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษด้วยแนวคิดคนขับเรือหางยาว กลุ่มตัวอย่างได้จากการการสุ่มกลุ่มตัวอย่าง โดยวิธีแบบยกกลุ่ม (Cluster Sampling) ได้กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 (13 คน) และนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 (14 คน) โรงเรียนบ้านไสไทย อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 จำนวน 27 คน สำหรับเครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ประกอบด้วย

1. แผนการจัดกิจกรรม “ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้” มุ่งพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษด้วยแนวคิดคนขับเรือหางยาว สำหรับนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 และนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านไสไทย อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559

2. แบบประเมินการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ ด้านการพูด การฟัง และการสื่อสาร

3. แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้วิชาภาษาอังกฤษ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ สำหรับนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 และนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านไสไทย อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ จำนวน 20 ข้อ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559

4. แบบประเมินเจตคติของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 และนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านไสไทย อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 ต่อวิชาภาษาอังกฤษ

5. แบบประเมินวัดระดับความพึงพอใจของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 และนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 และผู้ปกครองนักเรียน โรงเรียนบ้านไสไทย อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 ที่มีต่อการจัดกิจกรรม “ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้” ด้านการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษด้วยแนวคิดคนขับเรือหางยาว

ผลการศึกษาพบว่า

1. นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 และนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านไสไทย อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 มีการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ หลังการจัดกิจกรรมสูงกว่าก่อนจัดกิจกรรมด้านการพูด การฟัง และการสื่อสาร ทักษะการพูด โดยมีค่าเฉลี่ยการพูดก่อนเข้าร่วมกิจกรรม เป็น 3.0 (SD = 0.7) มีค่าเฉลี่ยการพูดหลังเข้าร่วมกิจกรรม มี = 7.4 (SD = 0.6) ทักษะการฟัง มีค่าเฉลี่ยการฟังก่อนเข้าร่วมกิจกรรม = 3.0 (SD = 0.7) ค่าเฉลี่ยการฟังหลังเข้าร่วมกิจกรรมมี = 7.3 (SD = 0.5) ทักษะการสื่อสาร มีค่าเฉลี่ยการสื่อสารกับชาวต่างชาติ ก่อนนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรม

มี = 1.4 (SD = 0.5) ค่าเฉลี่ยการสื่อสารกับชาวต่างชาติหลังเข้าร่วมกิจกรรม มี = 7.5 (SD = 0.5)

2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังการจัดกิจกรรม “ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้” ด้านการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษด้วยแนวคิดคนขับเรือหางยาว สำหรับนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 และนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านไสไทย อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 พบว่า นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาอังกฤษสูงขึ้น โดยมีคะแนนเฉลี่ยก่อนเข้าร่วมกิจกรรม มี = 5.23 คะแนน (SD = 0.73) ในขณะที่มีคะแนนเฉลี่ยหลังเข้าร่วมกิจกรรม มี = 14.08 คะแนน (SD =1.04) มีผลต่างคะแนนก่อนและหลังการเข้าร่วมกิจกรรมเฉลี่ย เป็น 8.85 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 62.84 โดยมีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .01 และนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 มีคะแนนเฉลี่ยก่อนเข้าร่วมกิจกรรม = 4.71 คะแนน (SD= 0.73) ในขณะที่มีคะแนนเฉลี่ยหลังเข้าร่วมกิจกรรม มี = 14.93 คะแนน (SD = 0.83) มีผลต่างคะแนน ก่อนและหลังการเข้าร่วมกิจกรรมเฉลี่ยเป็น 10.21 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 68.42 โดยมีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .01

3. นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 และนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านไสไทย อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 มีเจตคติที่ดีต่อวิชาเรียนภาษาอังกฤษอยู่ในระดับมาก มี = 4.65 โดยก่อนเข้าร่วมกิจกรรมนักเรียนส่วนใหญ่ไม่ชอบเรียนวิชาภาษาอังกฤษ 59.26% ชอบเรียนวิชาภาษาอังกฤษ คือ 14.81% และเฉยๆ กับวิชาภาษาอังกฤษ 25.93% และหลังจากนักเรียนได้เข้าร่วมการจัดกิจกรรมทำให้นักเรียนมีความชอบวิชาภาษาอังกฤษเพิ่มขึ้น โดยมี 66.67% และนักเรียนที่ไม่ชอบเรียนวิชาภาษาอังกฤษลดลง 7.41% และรู้สึกเฉยๆ มี 18.52% ซึ่งการจัดกิจกรรมสามารถเปลี่ยนทัศนคติที่นักเรียนเคยมีต่อวิชาเรียนภาษาอังกฤษไปในทางที่ดีขึ้นได้

4. ระดับความพึงพอใจของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 และนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านไสไทย อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 ที่มีต่อการจัดกิจกรรม “ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้” ด้านการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษด้วยแนวคิดคนขับเรือหางยาว พบว่า ความพึงพอใจของนักเรียนอยู่ในระดับมากที่สุด โดยมี = 4.65 (SD = 0.48) และผู้ปกครองนักเรียนที่เข้าร่วมกิจกรรมมีความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมดังกล่าวอยู่ในระดับมากที่สุดเช่นกันโดยมี = 4.59 (SD = 0.50)

โดยสรุป การจัดกิจกรรม “ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้” ด้านการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษด้วยแนวคิดคนขับเรือหางยาว สำหรับนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 และนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านไสไทย อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 เป็นกิจกรรม มีประสิทธิภาพที่และประสิทธิผลที่เหมาะสมต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ภายใต้แนวคิด “ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้”ส่งผลให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาอังกฤษสูงขึ้น นักเรียนมีเจตคติที่ดี ต่อวิชาเรียนภาษาอังกฤษมากขึ้น และความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรม “ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้” ด้านการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษด้วยแนวคิดคนขับเรือหางยาวในระดับมากที่สุด ดังนั้น จึงควรสนับสนุนให้โรงเรียนมีการจัดกิจกรรมที่เน้นผู้เรียน เน้นปฏิบัติเป็นสำคัญสำหรับรายวิชาอื่นๆต่อไป

โพสต์โดย วลัย กาหลง : [4 ก.ค. 2562 เวลา 14:29 น.]
อ่าน [3414] ไอพี : 159.192.228.48
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 4,928 ครั้ง
รวม 4 เทคนิค ออนไลน์-ออนไซต์ จากคลาสแอคทีฟเลิร์นนิ่ง กระตุ้นสัมพันธ์ "นักเรียน – ครู" แบบไม่น่าเบื่อ
รวม 4 เทคนิค ออนไลน์-ออนไซต์ จากคลาสแอคทีฟเลิร์นนิ่ง กระตุ้นสัมพันธ์ "นักเรียน – ครู" แบบไม่น่าเบื่อ

เปิดอ่าน 41,350 ครั้ง
4 พฤติกรรมเสี่ยง ทำสิ่งเหล่านี้ในอนาคตปวดหลังเรื้อรังแน่นอน
4 พฤติกรรมเสี่ยง ทำสิ่งเหล่านี้ในอนาคตปวดหลังเรื้อรังแน่นอน

เปิดอ่าน 12,730 ครั้ง
วิธีเขียนอีเมล์เป็นภาษาอังกฤษได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม
วิธีเขียนอีเมล์เป็นภาษาอังกฤษได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม

เปิดอ่าน 19,358 ครั้ง
เรื่องของกราฟ
เรื่องของกราฟ

เปิดอ่าน 14,709 ครั้ง
ดนตรีโมสาร์ทช่วยทารกโตเร็วขึ้น
ดนตรีโมสาร์ทช่วยทารกโตเร็วขึ้น

เปิดอ่าน 12,359 ครั้ง
เก็บหนังสือเก่าไม่ให้ขึ้นรา
เก็บหนังสือเก่าไม่ให้ขึ้นรา

เปิดอ่าน 12,560 ครั้ง
เดินหน้าปฏิรูป โครงสร้างกระทรวงศึกษาธิการ 59 โดย เพชร เหมือนพันธุ์
เดินหน้าปฏิรูป โครงสร้างกระทรวงศึกษาธิการ 59 โดย เพชร เหมือนพันธุ์

เปิดอ่าน 15,732 ครั้ง
แอปเปิ้ลหลากสีหลากประโยชน์
แอปเปิ้ลหลากสีหลากประโยชน์

เปิดอ่าน 77,819 ครั้ง
การปอกผลไม้ไม่ให้ดำ
การปอกผลไม้ไม่ให้ดำ

เปิดอ่าน 45,847 ครั้ง
โปรแกรม วิเคราะห์ข้อสอบ
โปรแกรม วิเคราะห์ข้อสอบ

เปิดอ่าน 30,238 ครั้ง
เคล็ดลับ"ล้างเห็ด" ให้สะอาดทันใจ
เคล็ดลับ"ล้างเห็ด" ให้สะอาดทันใจ

เปิดอ่าน 16,660 ครั้ง
5 วิธีป้องกัน ไวรัสคอมพิวเตอร์ แบบง่าย ๆ
5 วิธีป้องกัน ไวรัสคอมพิวเตอร์ แบบง่าย ๆ

เปิดอ่าน 17,036 ครั้ง
ทำงานมาก็หลายปีแล้ว ควรจะมีเงินเก็บเท่าไหร่กัน? ลองคำนวณดูเลย
ทำงานมาก็หลายปีแล้ว ควรจะมีเงินเก็บเท่าไหร่กัน? ลองคำนวณดูเลย

เปิดอ่าน 10,596 ครั้ง
ปฏิรูปการศึกษา คือ รากฐานของการปฏิรูปประเทศ โดย รศ.วุฒิชัย กปิลกาญจน์
ปฏิรูปการศึกษา คือ รากฐานของการปฏิรูปประเทศ โดย รศ.วุฒิชัย กปิลกาญจน์

เปิดอ่าน 20,631 ครั้ง
เช็กสุขภาพ 12 ราศี พื้นดวงแบบนี้มีอะไรต้องระวัง
เช็กสุขภาพ 12 ราศี พื้นดวงแบบนี้มีอะไรต้องระวัง

เปิดอ่าน 18,863 ครั้ง
ฝรั่งสายพันธุ์ใหม่ "พิจิตร3" ทรงผลยาวคล้ายลูกแพร์
ฝรั่งสายพันธุ์ใหม่ "พิจิตร3" ทรงผลยาวคล้ายลูกแพร์
เปิดอ่าน 47,674 ครั้ง
เทคโนโลยีและนวัตกรรมการศึกษา
เทคโนโลยีและนวัตกรรมการศึกษา
เปิดอ่าน 3,003 ครั้ง
4 เรื่องไม่จริงเกี่ยวกับ PDPA พรบ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
4 เรื่องไม่จริงเกี่ยวกับ PDPA พรบ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
เปิดอ่าน 13,672 ครั้ง
อยากเปรี้ยวอย่างมีคุณค่า ต้องถามหา "จุลินทรีย์"
อยากเปรี้ยวอย่างมีคุณค่า ต้องถามหา "จุลินทรีย์"
เปิดอ่าน 9,233 ครั้ง
รับชม คุณครูฮ้องเพลงคำเมือง "ภูมิแพ้โปเกม่อน" ให้กำลังใจครูที่ปวดหัวกับนักเรียนที่มัวเล่นเกมล่าโปเกม่อน
รับชม คุณครูฮ้องเพลงคำเมือง "ภูมิแพ้โปเกม่อน" ให้กำลังใจครูที่ปวดหัวกับนักเรียนที่มัวเล่นเกมล่าโปเกม่อน

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ