ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนาทักษะการอ่าน การคิด และการเขียนของนักเรียนโดยใช้กิจกรรมสร้างสรรค์ ตามศักยภาพ 4 ลักษณะโรงเรียนบ้านหนองศรีจันทร์ จังห

ชื่อเรื่องวิจัย : การพัฒนาทักษะการอ่าน การคิด และการเขียนของนักเรียนโดยใช้กิจกรรมสร้างสรรค์

ตามศักยภาพ 4 ลักษณะโรงเรียนบ้านหนองศรีจันทร์ จังหวัดตรัง ปีการศึกษา

2560 - 2561

ชื่อผู้วิจัย : นายพัทธพงศ์ แก้วละเอียด ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านหนองศรีจันทร์

ปีการศึกษา : 2560 – 2561

บทคัดย่อ

การวิจัยเพื่อพัฒนาทักษะการอ่าน การคิด และการเขียนของนักเรียนโดยใช้กิจกรรมสร้างสรรค์ตามศักยภาพ 4 ลักษณะโรงเรียนบ้านหนองศรีจันทร์ จังหวัดตรัง ปีการศึกษา 2560 - 2561 มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาระดับคุณภาพการพัฒนาทักษะการอ่าน การคิด และการเขียนของนักเรียนโดยใช้กิจกรรมสร้างสรรค์ตามศักยภาพ 4 ลักษณะ โรงเรียนบ้านหนองศรีจันทร์ จังหวัดตรัง ปีการศึกษา 2560 - 2561 2) เพื่อศึกษาทักษะการอ่าน การคิด และการเขียนของนักเรียนโดยใช้กิจกรรมสร้างสรรค์ตามศักยภาพ 4 ลักษณะโรงเรียนบ้านหนองศรีจันทร์ จังหวัดตรัง หลังการพัฒนาปีการศึกษา 2560 - 2561 3) เพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระดับสถานศึกษา หลังการพัฒนา ปีการศึกษา 2560 - 2561 4) เพื่อศึกษาสมรรถนะสำคัญของผู้เรียนหลังการพัฒนาปีการศึกษา 2560 - 2561 5) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียน ครู ผู้ปกครอง และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานที่มีต่อการพัฒนาทักษะการอ่าน การคิด และการเขียนของนักเรียนโดยใช้กิจกรรมสร้างสรรค์ตามศักยภาพ 4 ลักษณะ โรงเรียนบ้านหนองศรีจันทร์ จังหวัดตรัง หลังการพัฒนา ปีการศึกษา 2560 - 2561

โดยประยุกต์ใช้หลักการวิจัยเพื่อพัฒนา 3 ระยะ 7 ขั้นตอน ประกอบด้วย ระยะที่ 1 การวิเคราะห์ปัญหา และความต้องการจำเป็น มี 3 ขั้นตอน ได้แก่ ขั้นตอนที่ 1 การวิเคราะห์สภาพปัญหา และความต้องการจำเป็นในการพัฒนา ขั้นตอนที่ 2 การกำหนดปัญหาในการวิจัย ขั้นตอนที่ 3 การกำหนดกรอบกิจกรรมในการพัฒนา ระยะที่ 2 การดำเนินการวิจัย ได้แก่ ขั้นตอนที่ 4 ดำเนินการวิจัยการพัฒนาทักษะการอ่าน การคิด และการเขียนของนักเรียน โดยใช้กิจกรรมสร้างสรรค์ตามศักยภาพ 4 ลักษณะ ระยะที่ 3 การประเมินผลการวิจัย ได้แก่ ขั้นตอนที่ 5 การประเมินผลการวิจัยเพื่อพัฒนาทักษะการอ่าน การคิด และการเขียนของนักเรียน ขั้นตอนที่ 6 วิเคราะห์ผลการประเมิน ขั้นตอนที่ 7 การสรุปรายงานผลการเผยแพร่ผลงาน ใช้ระยะเวลาในการพัฒนาต่อเนื่อง 2 ปีการศึกษา ตั้งแต่ภาคเรียนที่ 1 - 2 ปีการศึกษา 2560 - 2561 กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย ประชากรครู ปีการศึกษา 2560 จำนวน 13 คน ปีการศึกษา 2561 จำนวน 12 คน กลุ่มตัวอย่างนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 - 6 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 117 คน ปีการศึกษา 2561 จำนวน 108 คน กลุ่มตัวอย่างผู้ปกครอง ปีการศึกษา 2560 จำนวน 112 คน ปีการศึกษา 2561 จำนวน 104 คน และกลุ่มตัวอย่างคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีการศึกษา 2560 และปีการศึกษา 2561 จำนวน 7 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวมทั้งสิ้น 6 ฉบับ มี 2 ลักษณะ ได้แก่ แบบสอบถามที่มีลักษณะเป็น มาตราส่วน ประมาณค่า 5 ระดับ (Rating Scale) จำนวน 3 ฉบับ ที่มีการตรวจสอบค่าความเชื่อมั่น อยู่ระหว่าง 0.80 - 0.99 และแบบบันทึกข้อมูลตามสภาพจริง จำนวน 3 ฉบับ ได้แก่แบบบันทึกผลสัมฤทธิ์ระดับสถานศึกษาตามสภาพจริง แบบบันทึกผลการประเมินสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน และแบบบันทึกผลการคัดกรองความสามารถด้านอ่าน การคิดและการเขียนของนักเรียน จำแนกตามระดับคุณภาพ วิเคราะห์ข้อมูลด้วยโปรแกรม SPSS Version 16 สถิติที่ใช้คือ ร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย (Mean) และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation)

สรุปผลการวิจัย

1.ระดับคุณภาพการพัฒนาทักษะการอ่าน การคิด และการเขียนของนักเรียนโดยใช้กิจกรรมสร้างสรรค์ตามศักยภาพ 4 ลักษณะ โรงเรียนบ้านหนองศรีจันทร์ จังหวัดตรัง ปีการศึกษา 2560 -2561 ตามความคิดเห็นของ นักเรียน ครู ผู้ปกครอง และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน พบว่า

ปีการศึกษา 2560 โดยภาพรวมทุกกลุ่มที่ประเมิน มีคุณภาพอยู่ในระดับมาก และเมื่อพิจารณาจำแนกตามกลุ่มผู้ประเมิน พบว่า กลุ่มนักเรียนมีค่าเฉลี่ยสูงสุด ( = 3.91, S.D. = 0.52) อยู่ในระดับมาก รองลงมาได้แก่ กลุ่มผู้ปกครอง ( = 3.79, S.D. = 0.48) อยู่ในระดับมาก ส่วนกลุ่มคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานมีค่าเฉลี่ยต่ำสุด ( = 3.71, S.D. = 0.48) อยู่ในระดับมากเช่นกัน

ปีการศึกษา 2561 โดยภาพรวมทุกกลุ่มที่ประเมิน มีคุณภาพอยู่ในระดับมากที่สุด และเมื่อพิจารณาจำแนกตามกลุ่มผู้ประเมิน พบว่า กลุ่มครูมีค่าเฉลี่ยสูงสุด ( = 4.60,  = 0.19) อยู่ในระดับมากที่สุด รองลงมาได้แก่ กลุ่มนักเรียน ( = 4.54 , S.D = 0.28) อยู่ในระดับมากที่สุด ส่วนกลุ่มผู้ปกครอง มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด ( = 4.50, S.D. = 0.44) อยู่ในระดับมาก สอดคล้องตามสมมติฐาน

2. ทักษะการอ่าน การคิด และการเขียนของนักเรียนโดยใช้กิจกรรมสร้างสรรค์ตามศักยภาพ 4 ลักษณะ โรงเรียนบ้านหนองศรีจันทร์ จังหวัดตรัง หลังการพัฒนาปีการศึกษา 2560 - 2561 ตามความคิดเห็นของ ครู และผู้ปกครอง พบว่า

ปีการศึกษา 2560 โดยภาพรวมทุกกลุ่มที่ประเมิน มีคุณภาพอยู่ในระดับมาก และเมื่อพิจารณาจำแนกตามกลุ่มผู้ประเมิน พบว่า กลุ่มครูมีค่าเฉลี่ยสูงสุด ( = 4.09,  = 0.19) มีคุณภาพอยู่ในระดับมาก รองลงมาได้แก่ กลุ่มผู้ปกครอง ( = 3.94, S.D. = 0.41 ) มีคุณภาพอยู่ในระดับมากเช่นกัน

ปีการศึกษา 2561 โดยภาพรวมทุกกลุ่มที่ประเมิน มีคุณภาพอยู่ในระดับมากที่สุด และเมื่อพิจารณาจำแนกตามกลุ่มผู้ประเมิน พบว่า กลุ่มผู้ปกครองมีค่าเฉลี่ยสูงสุด ( = 4.64, S.D. = 0.15 ) มีคุณภาพอยู่ในระดับมากที่สุด รองลงมาได้แก่ กลุ่มครู ( = 4.59,  = 0.19) มีคุณภาพอยู่ในระดับมากที่สุดเช่นกัน สอดคล้องตามสมมติฐาน

3. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระดับสถานศึกษา หลังการพัฒนาปีการศึกษา 2560 – 2561 พบว่า

ก่อนการพัฒนาปีการศึกษา 2559 มีค่าเฉลี่ยร้อยละ 70.73 หลังการพัฒนาปีการศึกษา 2560 มีค่าเฉลี่ยร้อยละ 71.39 และหลังการพัฒนาปีการศึกษา 2561 มีค่าเฉลี่ยร้อยละ 75.12 แสดงให้เห็นว่าผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระดับสถานศึกษาหลังการพัฒนาสูงกว่าก่อนการพัฒนา สอดคล้องตามสมมติฐาน

4. ผลการประเมินสมรรถนะสำคัญของผู้เรียนหลังการพัฒนาปีการศึกษา 2560 - 2561 พบว่า

ก่อนการพัฒนาปีการศึกษา 2559 โดยรวมมีคุณภาพอยู่ในระดับดี – ดีเยี่ยม มีค่าเฉลี่ยร้อยละ 79.09 หลังการพัฒนาปีการศึกษา 2560 โดยรวมมีคุณภาพอยู่ในระดับดี – ดีเยี่ยม มีค่าเฉลี่ยร้อยละ 82.70 และหลังการพัฒนาปีการศึกษา 2561 โดยรวมมีคุณภาพอยู่ในระดับดี – ดีเยี่ยม มีค่าเฉลี่ยร้อยละ 88.14 แสดงให้เห็นว่าสมรรถนะสำคัญของผู้เรียนหลังการพัฒนามีค่าเฉลี่ยร้อยละสูงกว่าก่อนการพัฒนาสอดคล้องกับสมมติฐาน

5. ความพึงพอใจของนักเรียน ครู ผู้ปกครอง และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานที่มีต่อการพัฒนาทักษะการอ่าน การคิด และการเขียนของนักเรียนโดยใช้กิจกรรมสร้างสรรค์ตามศักยภาพ 4 ลักษณะ โรงเรียนบ้านหนองศรีจันทร์ จังหวัดตรัง หลังการพัฒนา ปีการศึกษา 2560 – 2561 พบว่า

ปีการศึกษา 2560 โดยภาพรวมทุกกลุ่มที่ประเมิน มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก และเมื่อพิจารณาจำแนกตามกลุ่มผู้ประเมิน พบว่า กลุ่มนักเรียนมีค่าเฉลี่ยสูงสุด ( = 3.95, S.D. = 0.35 ) อยู่ในระดับมาก รองลงมาได้แก่ กลุ่มผู้ปกครอง มีค่าเฉลี่ย ( = 3.87, S.D. = 0.43 ) อยู่ในระดับมาก และกลุ่มครู มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด ( = 3.62,  = 0.53 ) อยู่ในระดับมากเช่นกัน

ปีการศึกษา 2561 โดยภาพรวมทุกกลุ่มที่ประเมิน มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด และเมื่อพิจารณาจำแนกตามกลุ่มผู้ประเมิน พบว่า กลุ่มครูมีค่าเฉลี่ยสูงสุด (= 4.63,  = 0.27 ) อยู่ในระดับมากที่สุด รองลงมาได้แก่ กลุ่มผู้ปกครอง มีค่าเฉลี่ย ( = 4.54, S.D. = 0.24 ) อยู่ในระดับมากที่สุด และกลุ่มคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานมีค่าเฉลี่ยต่ำสุด ( = 4.50, S.D. = 0.39 ) อยู่ในระดับมาก สอดคล้องกับสมมติฐาน

ข้อเสนอแนะ

ข้อเสนอแนะการนำผลการประเมินไปประยุกต์ใช้

1. โรงเรียนควรแก้ปัญหาและพัฒนาทักษะการอ่าน การคิด และการเขียนของนักเรียน โดยจำแนกตามกลุ่มคุณภาพที่สอดคล้องกับสภาพปัญหาของนักเรียนตามผลการคัดกรองนักเรียนเป็นรายบุคคล

2. การแก้ปัญหาหรือการพัฒนาทักษะการอ่าน การคิด และการเขียนของนักเรียนเป็นภารกิจที่

โรงเรียนและครูทุกคน รวมถึงผู้ปกครองต้องเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไข/พัฒนา ไม่ควรปล่อยให้เป็นภารกิจของครูผู้สอนวิชาภาษาไทยแต่เพียงกลุ่มเดียว

3. การจัดกิจกรรมการพัฒนาการอ่าน การคิด และการเขียนของนักเรียนจะประสบผลสำเร็จ

ผู้บริหารโรงเรียนต้องให้ความสำคัญในทุก ๆ ด้านและที่สำคัญต้องมีการนิเทศติดตามอย่างต่อเนื่องและจริงจัง

ข้อเสนอแนะเพื่อการวิจัยครั้งต่อไป

1. ควรมีการวิจัยและพัฒนารูปแบบการพัฒนาการอ่าน การคิด และการเขียนของนักเรียนระดับประถมศึกษาทุกสังกัด

2. ควรศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างพัฒนาการอ่าน การคิด และการเขียนของนักเรียนระดับ

ประถมศึกษาต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในมิติ O-NET, NT และ PISA

โพสต์โดย ผอ.เอ๋ : [17 ก.ค. 2562 เวลา 06:59 น.]
อ่าน [3834] ไอพี : 171.6.232.73
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 10,271 ครั้ง
วิธีแต่งหน้าใส ๆ สวยสบายผิวหน้า
วิธีแต่งหน้าใส ๆ สวยสบายผิวหน้า

เปิดอ่าน 11,305 ครั้ง
ผลสำรวจพบคนใช้รถ50%เลือกซื้อรถในใจ
ผลสำรวจพบคนใช้รถ50%เลือกซื้อรถในใจ

เปิดอ่าน 13,880 ครั้ง
ลี กวน ยู บุรุษผู้ยิ่งใหญ่
ลี กวน ยู บุรุษผู้ยิ่งใหญ่

เปิดอ่าน 14,868 ครั้ง
เด็กไทยเป็นอัจฉริยะ 4.0 ได้ง่าย ถ้าฝึกช่วงเรียนรู้ไว (3-6 ขวบ)
เด็กไทยเป็นอัจฉริยะ 4.0 ได้ง่าย ถ้าฝึกช่วงเรียนรู้ไว (3-6 ขวบ)

เปิดอ่าน 221,850 ครั้ง
การคำนวณอัตรากำลังข้าราชการครูโรงเรียนประถมศึกษาและโรงเรียนมัธยมศึกษา
การคำนวณอัตรากำลังข้าราชการครูโรงเรียนประถมศึกษาและโรงเรียนมัธยมศึกษา

เปิดอ่าน 16,164 ครั้ง
พระประวัติ  สมเด็จพระญาณสังวร  สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
พระประวัติ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก

เปิดอ่าน 7,734 ครั้ง
ตอบโจทย์ "ปฏิรูปการศึกษา"?
ตอบโจทย์ "ปฏิรูปการศึกษา"?

เปิดอ่าน 18,052 ครั้ง
คาร์ล เบนซ์ เป็นผู้ให้กำเนิดรถยนตร์คันแรกของโลก
คาร์ล เบนซ์ เป็นผู้ให้กำเนิดรถยนตร์คันแรกของโลก

เปิดอ่าน 10,294 ครั้ง
ตูนส์ศึกษา : หลักฐานยอดฮิต ที่แสดงว่าเด็กไทยคิดเป็น
ตูนส์ศึกษา : หลักฐานยอดฮิต ที่แสดงว่าเด็กไทยคิดเป็น

เปิดอ่าน 15,184 ครั้ง
เหตุใดคนญี่ปุ่นจึงมีความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการสูง นี่อาจจะเป็นส่วนหนึ่งของคำตอบนี้..
เหตุใดคนญี่ปุ่นจึงมีความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการสูง นี่อาจจะเป็นส่วนหนึ่งของคำตอบนี้..

เปิดอ่าน 123,585 ครั้ง
ลายมือที่มี กากบาทแห่งความสำเร็จ
ลายมือที่มี กากบาทแห่งความสำเร็จ

เปิดอ่าน 13,825 ครั้ง
กังนัมอะยาย ศึกประชัน เต้นกังนัมสไตล์ ระหว่าง ยาย VS โคโยตี้
กังนัมอะยาย ศึกประชัน เต้นกังนัมสไตล์ ระหว่าง ยาย VS โคโยตี้

เปิดอ่าน 13,641 ครั้ง
เรื่องของวันหยุดยาวในเดือนเมษายน กับการเปิด-ปิดเทอมของมหาวิทยาลัย
เรื่องของวันหยุดยาวในเดือนเมษายน กับการเปิด-ปิดเทอมของมหาวิทยาลัย

เปิดอ่าน 54,917 ครั้ง
สาระน่ารู้เกี่ยวกับ"คำนำหน้านาม"
สาระน่ารู้เกี่ยวกับ"คำนำหน้านาม"

เปิดอ่าน 25,066 ครั้ง
หนังสืออ่านเพิ่มเติม เรื่องที่ 1...ไหว้ครู
หนังสืออ่านเพิ่มเติม เรื่องที่ 1...ไหว้ครู

เปิดอ่าน 58,161 ครั้ง
Revo Uninstall สุดยอดโปรแกรมถอนการติดตั้ง
Revo Uninstall สุดยอดโปรแกรมถอนการติดตั้ง
เปิดอ่าน 19,445 ครั้ง
2012 วันสิ้นโลก จริงหรือ?
2012 วันสิ้นโลก จริงหรือ?
เปิดอ่าน 28,766 ครั้ง
ชมกันหรือยัง? เทคนิคการสอน ห้องเรียนกลับด้าน (Flipped Classroom)
ชมกันหรือยัง? เทคนิคการสอน ห้องเรียนกลับด้าน (Flipped Classroom)
เปิดอ่าน 14,639 ครั้ง
เคี้ยวหมากฝรั่งหยับๆ เขยิบสมองให้ไวขึ้น
เคี้ยวหมากฝรั่งหยับๆ เขยิบสมองให้ไวขึ้น
เปิดอ่าน 11,165 ครั้ง
สำคัญที่ผู้สอน (ครู, อาจารย์)
สำคัญที่ผู้สอน (ครู, อาจารย์)

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ