ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
รายงานการประเมินโครงการพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนนาสะไมพิทยาคม สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี

ชื่อเรื่อง รายงานการประเมินโครงการพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน

โรงเรียนนาสะไมพิทยาคม สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี

ชื่อผู้ประเมิน นายวิเชียร จันทะบุตร

ปีที่พิมพ์ 2561

บทคัดย่อ

รายงานการประเมินโครงการพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนนาสะไมพิทยาคม สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี ใช้รูปแบบการประเมินของ สตัฟเฟิลบีม (Stufflebeam) หรือรูปแบบจำลองซิป (CIPP Model) เพื่อประเมินการบริหารและวางแผน 4 ประเภท (สมบูรณ์ ตันยะ 2551 : 30) คือการประเมินสภาวะแวดล้อม (Context evaluation) การประเมินปัจจัย (Input evaluation) การประเมินกระบวนการ (Process evaluation) และการประเมินผลผลิต (Product evaluation) ซึ่งเป็นการประเมินตามจุดประสงค์ของโครงการ ดังนี้

1. เพื่อประเมินโครงการพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนนาสะไมพิทยาคม สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี

2. เพื่อเปรียบเทียบผลการประเมินโครงการพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียน นาสะไมพิทยาคม สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี ระหว่างก่อนและหลังการดำเนินโครงการ

กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการประเมินโครงการ ได้แก่ มีส่วนเกี่ยวข้องกับการประเมินโครงการพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนนาสะไมพิทยาคม สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี ในปีการศึกษา 2561 โดยกำหนดขนาดตัวอย่างตามตารางของ Krejcie and Morgan (ทองใบ สุดชารี 2546 : 2) จำนวนทั้งสิ้น 214 คน แยกเป็น ครูในโรงเรียน จำนวน 19 คน นักเรียน จำนวน 181 คน และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 14 คน

เครื่องมือที่ใช้ในการประเมินครั้งนี้เป็นแบบสอบถาม การประเมินโครงการพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนนาสะไมพิทยาคม ผู้ตอบแบบสอบถาม คือ ครู นักเรียนและคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนนาสะไมพิทยาคม มีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ .96

การวิเคราะห์ข้อมูล หาค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ของกลุ่มตัวอย่าง นำค่าเฉลี่ยที่ได้จากการวิเคราะห์ไปทำการเปรียบเทียบกับเกณฑ์เพื่อใช้ในการแปลความหมายทั้งรายข้อ รายด้านและโดยรวม และตัดสินผลการประเมินตามเกณฑ์ที่กำหนดและวิเคราะห์ผลความความแตกต่างระหว่างก่อนดำเนินโครงการและหลังดำเนินโครงการ

สรุปผล

1. ผลการปะเมินโครงการก่อนดำเนินงาน ผลปรากฏดังนี้

1.1 ด้านสภาวะแวดล้อม พบว่า ผลการประเมินโครงการพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนนาสะไมพิทยาคม โดยรวมอยู่ในระดับมาก ( = 3.95)

1.2 ด้านปัจจัย พบว่า ผลการประเมินโครงการพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนนาสะไมพิทยาคม โดยรวมอยู่ในระดับไม่แน่ใจ ( = 2.88)

1.3 ด้านกระบวนการ พบว่า ผลการประเมินโครงการพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนนาสะไมพิทยาคม มีการปฏิบัติงานอยู่ในภาพรวมระดับ มาก ( = 4.20)

1.4 ด้านผลผลิต พบว่า ผลการประเมินโครงการพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนนาสะไมพิทยาคม โดยภาพรวมผลการประเมินอยู่ในระดับพอใช้ ( = 2.29)

2. ผลการประเมินโครงการหลังการดำเนินงาน ผลปรากฏดังนี้

2.1 ด้านสภาวะแวดล้อม พบว่า ผลการประเมินโครงการหลังการดำเนินโครงการพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนนาสะไมพิทยาคม การจัดกิจกรรมโครงการสอดคล้องกับสภาวะแวดล้อมโดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก ( = 4.40) โดยโครงการมีหลักการวัตถุประสงค์ของเป้าหมาย โครงการที่มีความสอดคล้องกับความจำเป็นในปัจจุบัน มีการกำหนดเป้าหมาย วิธีดำเนินการและระยะเวลาดำเนินการนำไปสู่การปฏิบัติได้

2.2 ด้านปัจจัย พบว่า ผลการประเมินโครงการพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนนาสะไมพิทยาคม โดยภาพรวมอยู่ในระดับเห็นด้วย ( = 4.48) ที่หลังดำเนินโครงการพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนนาสะไมพิทยาคม การจัดกิจกรรมโครงการมีการพัฒนาด้านปัจจัย มีงบประมาณดำเนินโครงการจากการสนับสนุนของโรงเรียน มีคณะกรรมการดำเนินกิจกรรมโครงการประกอบด้วยผู้บริหาร ครู และบุคลากรในชุมชน

2.3 ด้านกระบวนการ พบว่า ด้านคุณภาพการปฏิบัติงานหลังการดำเนินกิจกรรมโครงการพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนนาสะไมพิทยาคม มีการปฏิบัติงานโดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.51) โดยมีการดำเนินกิจกรรมที่กำหนดในโครงการตามขั้นตอนทุกกิจกรรม มีการวิเคราะห์และนำผลการประเมินมาพัฒนางานอย่างต่อเนื่อง

2.4 ด้านผลผลิต พบว่า ผลการประเมินโครงการพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนนาสะไมพิทยาคม โดยภาพรวมผลการประเมินอยู่ในระดับดี ( = 2.70) นักเรียนมีสุขภาพกายที่ดี นักเรียนสามารถเรียนรู้ได้ตามศักยภาพและมีความสุขในการเรียน มีสุขภาพจิตที่ดี สามารถเข้ากับสังคม และสิ่งแวดล้อมได้อย่างเหมาะสม

โพสต์โดย วิเชียร nasamai : [26 ส.ค. 2562 เวลา 07:59 น.]
อ่าน [3315] ไอพี : 118.175.7.201
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 34,012 ครั้ง
7 วิชาชีพที่สามารถย้ายแรงงานฝีมืออย่างเสรีในประชาคมอาเซียน
7 วิชาชีพที่สามารถย้ายแรงงานฝีมืออย่างเสรีในประชาคมอาเซียน

เปิดอ่าน 13,874 ครั้ง
ไม่ใช่แค่ไอคิว!! สร้างเด็กไทยพันธุ์ใหม่ "เก่ง-ฉลาด-ดี" ต้อง "ฝึกทักษะสมอง EF"
ไม่ใช่แค่ไอคิว!! สร้างเด็กไทยพันธุ์ใหม่ "เก่ง-ฉลาด-ดี" ต้อง "ฝึกทักษะสมอง EF"

เปิดอ่าน 14,713 ครั้ง
สโลว์ฟู้ด อาหารสำหรับคนอยากผอม
สโลว์ฟู้ด อาหารสำหรับคนอยากผอม

เปิดอ่าน 18,192 ครั้ง
ไม่ยากเกินความพยายาม 10 วิธีง่ายๆ ช่วยให้ลูกเก่งภาษา
ไม่ยากเกินความพยายาม 10 วิธีง่ายๆ ช่วยให้ลูกเก่งภาษา

เปิดอ่าน 7,759 ครั้ง
รมต.สาธารณสุข แนะเลี้ยงลูกเทพให้พอดี ถ้าคิดว่าตอบโต้ได้ควรปรึกษาแพทย์
รมต.สาธารณสุข แนะเลี้ยงลูกเทพให้พอดี ถ้าคิดว่าตอบโต้ได้ควรปรึกษาแพทย์

เปิดอ่าน 11,643 ครั้ง
"ยาชื่อสามัญ"... นามนั้นสำคัญฉะนี้
"ยาชื่อสามัญ"... นามนั้นสำคัญฉะนี้

เปิดอ่าน 21,141 ครั้ง
มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก / Mark Elliot Zuckerberg ผู้ก่อตั้ง facebook
มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก / Mark Elliot Zuckerberg ผู้ก่อตั้ง facebook

เปิดอ่าน 13,681 ครั้ง
น่ารักสุดๆ วงโยธวาทิตมหาวิทยาลัยโอไฮโอเล่นกังนัมสไตล์
น่ารักสุดๆ วงโยธวาทิตมหาวิทยาลัยโอไฮโอเล่นกังนัมสไตล์

เปิดอ่าน 32,124 ครั้ง
พืชกับศิลปะไทยโบราณ
พืชกับศิลปะไทยโบราณ

เปิดอ่าน 15,645 ครั้ง
คุณครูจะช่วยเพิ่มสมาธิและความสนใจของนักเรียน ได้ด้วยเทคนิคนี้
คุณครูจะช่วยเพิ่มสมาธิและความสนใจของนักเรียน ได้ด้วยเทคนิคนี้

เปิดอ่าน 13,868 ครั้ง
ชวน สวดมนต์ข้ามปี รับ ปีใหม่ 2553
ชวน สวดมนต์ข้ามปี รับ ปีใหม่ 2553

เปิดอ่าน 18,624 ครั้ง
คู่มือการอุทธรณ์และการร้องทุกข์และแนววินิจฉัยของ อ.ก.ค.ศ.วิสามัญสำหรับครู
คู่มือการอุทธรณ์และการร้องทุกข์และแนววินิจฉัยของ อ.ก.ค.ศ.วิสามัญสำหรับครู

เปิดอ่าน 17,426 ครั้ง
วันที่
วันที่ ''ไมโครซอฟท์'' ไร้บิลล์ เกตส์

เปิดอ่าน 1,293,475 ครั้ง
อริยสัจ 4
อริยสัจ 4

เปิดอ่าน 190,247 ครั้ง
บทบาทของครูในการเรียนรู้แบบ Active Learning
บทบาทของครูในการเรียนรู้แบบ Active Learning

เปิดอ่าน 16,368 ครั้ง
อาหารมงคล 10 อย่าง สำหรับบ่าวสาว
อาหารมงคล 10 อย่าง สำหรับบ่าวสาว
เปิดอ่าน 12,961 ครั้ง
พระราชบัญญัติการศึกษาพระปริยัติธรรม พ.ศ.2562
พระราชบัญญัติการศึกษาพระปริยัติธรรม พ.ศ.2562
เปิดอ่าน 15,360 ครั้ง
คอกาแฟมีหวังอายุยืนกว่าคนไม่ดื่ม ช่วยป้องกันภัยโรคหัวใจหลอดเลือด
คอกาแฟมีหวังอายุยืนกว่าคนไม่ดื่ม ช่วยป้องกันภัยโรคหัวใจหลอดเลือด
เปิดอ่าน 9,609 ครั้ง
แนะพ่อแม่ติดโปรแกรมไอซีทีเฮาส์คีปเปอร์
แนะพ่อแม่ติดโปรแกรมไอซีทีเฮาส์คีปเปอร์
เปิดอ่าน 27,380 ครั้ง
เอกสารแนวทางการดำเนินงานโครงการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษาตั้งแต่ระดับอนุบาลจนจบการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ.2559
เอกสารแนวทางการดำเนินงานโครงการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษาตั้งแต่ระดับอนุบาลจนจบการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ.2559

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ