ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้โครงงานคณิตศาสตร์ที่เสริมสร้างทักษะ การแก้ปัญหาและความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ทางคณิตศาสตร์ของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่

ชื่องานวิจัย : การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้โครงงานคณิตศาสตร์ที่เสริมสร้างทักษะ

การแก้ปัญหาและความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ทางคณิตศาสตร์ของนักเรียน

ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

ผู้วิจัย : นางทัศนีย์ นอนา

ปีการศึกษา : 2561

สถานศึกษา : โรงเรียนเทศบาล 1 (บ้านในเมือง)

บทคัดย่อ

1. การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อพัฒนาและหาประสิทธิภาพของรูปแบบการจัดการเรียนรู้โครงงานคณิตศาสตร์ที่เสริมสร้างทักษะการแก้ปัญหาและความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ทางคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 (6D Model) 2) เพื่อเปรียบเทียบความสามารถในการแก้ปัญหาและความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ก่อนเรียนและหลังเรียน ด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้โครงงานคณิตศาสตร์ที่เสริมสร้างทักษะการแก้ปัญหาและความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ทางคณิตศาสตร์ (6D Model) 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่มีต่อการสอนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้โครงงานคณิตศาสตร์ที่เสริมสร้างทักษะการแก้ปัญหาและความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ทางคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 (6D Model) กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6/4 ที่กำลังศึกษาใน ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 โรงเรียนเทศบาล 1 บ้านในเมือง จำนวน 40 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย รูปแบบการจัดการเรียนรู้ โครงงานคณิตศาสตร์ที่เสริมสร้างทักษะการแก้ปัญหา และความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ทางคณิตศาสตร์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 แผนการจัดการเรียนรู้ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโครงงานคณิตศาสตร์ที่เสริมสร้างทักษะการแก้ปัญหาและความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ทางคณิตศาสตร์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 30 ข้อ แบบทดสอบวัดทักษะการแก้ปัญหา แบบทดสอบวัดทักษะความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ แบบประเมินทักษะความสามารถในการแก้ปัญหา แบบประเมินทักษะความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ทางคณิตศาสตร์ และแบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อรูปแบบการจัดการเรียนรู้โครงงานคณิตศาสตร์ที่เสริมสร้างทักษะการแก้ปัญหาและความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ทางคณิตศาสตร์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าร้อยละ สถิติทดสอบที (t- test)

ผลการวิจัย พบว่า

1. รูปแบบการจัดการเรียนรู้โครงงานคณิตศาสตร์ที่เสริมสร้างทักษะการแก้ปัญหาและความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ทางคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่ดำเนินการพัฒนาและตรวจสอบคุณภาพ มีชื่อเรียกว่า “6D Model” มีองค์ประกอบ คือ หลักการ วัตถุประสงค์ กระบวนการเรียนการสอน สาระหลัก สิ่งที่ส่งเสริมการเรียนรู้ ระบบสังคม หลักการตอบสนอง และสิ่งสนับสนุน กระบวนการจัดการเรียนรู้มี 6 ขั้นตอน คือ 1) ขั้นการกำหนดปัญหา (Define: D)

2) ขั้นการอภิปราย (Discuss: D) 3) ขั้นการสาธิต (Demonstrate :D) 4) ขั้นการโต้แย้ง (Debate: D) 5) ขั้นตัดสินใจ (Decide: D) 6) ขั้นพัฒนา (Develop: D) โดยที่รูปแบบการจัดการเรียนรู้โครงงานคณิตศาสตร์ที่เสริมสร้างทักษะการแก้ปัญหา และความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ทางคณิตศาสตร์

ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่พัฒนาขึ้นมานี้มีประสิทธิภาพเท่ากับ 86.61/85.50 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่กำหนดไว้

2. ความสามารถในการคิดแก้ปัญหา และความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ทางคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 หลังเรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้โครงงานคณิตศาสตร์ที่เสริมสร้างทักษะการแก้ปัญหาและความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ทางคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

3. ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่มีต่อรูปแบบการจัดการเรียนรู้โครงงานคณิตศาสตร์ที่เสริมสร้างทักษะการแก้ปัญหา และความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ทางคณิตศาสตร์

ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 อยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.69, S.D = 0.46)

โพสต์โดย ครู ท.1 : [29 ส.ค. 2562 เวลา 19:38 น.]
อ่าน [3030] ไอพี : 134.196.41.136
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 27,625 ครั้ง
การพิมพ์หนังสือราชการภาษาไทยด้วยโปรแกรมการพิมพ์ในเครื่องคอมพิวเตอร์ (ตามระเบียบสำนักนายกฯ)
การพิมพ์หนังสือราชการภาษาไทยด้วยโปรแกรมการพิมพ์ในเครื่องคอมพิวเตอร์ (ตามระเบียบสำนักนายกฯ)

เปิดอ่าน 12,141 ครั้ง
เกมลับสมองกับการศึกษาและความสำเร็จอื่น ๆ
เกมลับสมองกับการศึกษาและความสำเร็จอื่น ๆ

เปิดอ่าน 17,703 ครั้ง
โปรตีนสำหรับนักกีฬา
โปรตีนสำหรับนักกีฬา

เปิดอ่าน 25,475 ครั้ง
พระกฤษณะ
พระกฤษณะ

เปิดอ่าน 15,760 ครั้ง
ยอดวิวเยอะมาก รายการ "ดูให้รู้ ตอน คุณครูฮาร์ดคอร์"
ยอดวิวเยอะมาก รายการ "ดูให้รู้ ตอน คุณครูฮาร์ดคอร์"

เปิดอ่าน 13,202 ครั้ง
แชร์กระจาย ฝีมือการแต่งนิทานของเด็ก 7 ขวบ ครีเอทได้น่ารักมาก
แชร์กระจาย ฝีมือการแต่งนิทานของเด็ก 7 ขวบ ครีเอทได้น่ารักมาก

เปิดอ่าน 12,625 ครั้ง
มั่งคั่งอย่างไร ... ไม่รู้จบ
มั่งคั่งอย่างไร ... ไม่รู้จบ

เปิดอ่าน 15,616 ครั้ง
8 เทคนิครักษาดอกกุหลาบให้อยู่ได้นานขึ้น
8 เทคนิครักษาดอกกุหลาบให้อยู่ได้นานขึ้น

เปิดอ่าน 26,361 ครั้ง
เผย 5 สมุนไพร ลดความดันโลหิตสูง ที่คุณคาดไม่ถึง
เผย 5 สมุนไพร ลดความดันโลหิตสูง ที่คุณคาดไม่ถึง

เปิดอ่าน 20,242 ครั้ง
ลักษณะของช้างดี
ลักษณะของช้างดี

เปิดอ่าน 28,568 ครั้ง
สัตว์พวกปลาไม่มีความรู้สึกเจ็บปวดเลย โดนถูกเบ็ดเกี่ยวดิ้น ก็ไม่ได้ตกอกตกใจ(วิทย์)
สัตว์พวกปลาไม่มีความรู้สึกเจ็บปวดเลย โดนถูกเบ็ดเกี่ยวดิ้น ก็ไม่ได้ตกอกตกใจ(วิทย์)

เปิดอ่าน 11,207 ครั้ง
ปลุกเด็กเขียนจดหมาย ลดใช้ facebook
ปลุกเด็กเขียนจดหมาย ลดใช้ facebook

เปิดอ่าน 19,655 ครั้ง
วิธีควบคุมรถเมื่อ "สุนัข-มอไซค์" ตัดหน้า
วิธีควบคุมรถเมื่อ "สุนัข-มอไซค์" ตัดหน้า

เปิดอ่าน 12,405 ครั้ง
ว่านชักมดลูก
ว่านชักมดลูก

เปิดอ่าน 97,967 ครั้ง
จุดธูปกี่ดอกบอกอะไร?
จุดธูปกี่ดอกบอกอะไร?

เปิดอ่าน 37,633 ครั้ง
ครม.ตั้ง "จ.บึงกาฬ" จังหวัดที่77 แยกจากหนองคาย
ครม.ตั้ง "จ.บึงกาฬ" จังหวัดที่77 แยกจากหนองคาย
เปิดอ่าน 83,505 ครั้ง
10 คำถามสัมภาษณ์ที่คุณควรตอบอย่างมีสติ ถ้าอยากจะเข้าเรียนคณะที่ใฝ่ฝัน
10 คำถามสัมภาษณ์ที่คุณควรตอบอย่างมีสติ ถ้าอยากจะเข้าเรียนคณะที่ใฝ่ฝัน
เปิดอ่าน 24,530 ครั้ง
วิวัฒนาการ ตู้ไปรษณีย์ สู่สัญลักษณ์ที่สุดเมืองไทย
วิวัฒนาการ ตู้ไปรษณีย์ สู่สัญลักษณ์ที่สุดเมืองไทย
เปิดอ่าน 155,281 ครั้ง
การอ่านจับใจความสำคัญ
การอ่านจับใจความสำคัญ
เปิดอ่าน 34,871 ครั้ง
หนังตะลุง
หนังตะลุง

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ