ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ รอบรู้เรื่องเงื่อนเชือก เพื่อเสริมสร้างการเรียนรู้แบบระบบกลุ่ม สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

เรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ

รอบรู้เรื่องเงื่อนเชือก เพื่อเสริมสร้างการเรียนรู้แบบระบบกลุ่ม

สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

ผู้วิจัย นายบรรจง หอธรรมกุล

กลุ่มสาระการเรียนรู้ กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน

ปีการศึกษา 2561

บทคัดย่อ

การวิจัย เรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ รอบรู้เรื่องเงื่อนเชือก เพื่อเสริมสร้างการเรียนรู้แบบระบบกลุ่ม สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เป็นลักษณะของการวิจัยและพัฒนา (Research and Development : R&D) ใช้แบบแผนการวิจัยแบบกลุ่มเดียว ทดสอบก่อนและหลัง (The One Group Pretest – Posttest Design) ประชากรที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ได้แก่ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 3 ห้องเรียน รวมจำนวนนักเรียน 79 คน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ นักชั้นประถมศึกษาปีที่ 6/1 จำนวน 27 คน ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561 โรงเรียนเทศบาลบ้านนาเหนือ

ผู้วิจัยได้กำหนดรายละเอียดวิธีดำเนินการวิจัยมี 4 ขั้นตอน ดังนี้ ขั้นตอนที่ 1 วิจัย (R1 : Research) : การศึกษาข้อมูลพื้นฐานและความต้องการ ขั้นตอนที่ 2 พัฒนา (D1 : Development) : การพัฒนารูปแบบการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้เป็นสื่อประกอบ ขั้นตอนที่ 3 วิจัย (R2 : Research) : การทดลองใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้เป็นสื่อประกอบ ขั้นตอนที่ 4 พัฒนา (D2 : Development) : การประเมินผลและปรับปรุงรูปแบบการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้เป็นสื่อประกอบ มีวัตถุประสงค์ (1)เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานและความต้องการในการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ รอบรู้เรื่องเงื่อนเชือก เพื่อเสริมสร้างการเรียนรู้แบบระบบกลุ่ม สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 (2) เพื่อพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ รอบรู้เรื่องเงื่อนเชือก เพื่อเสริมสร้างการเรียนรู้แบบระบบกลุ่ม สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 85/85 (3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ รอบรู้เรื่องเงื่อนเชือก เพื่อเสริมสร้างการเรียนรู้แบบระบบกลุ่ม สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 (4) การประเมินผลและปรับปรุงรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ รอบรู้เรื่องเงื่อนเชือก เพื่อเสริมสร้างการเรียนรู้แบบระบบกลุ่ม สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีวัตถุประสงค์เฉพาะดังนี้ (4.1) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้แบบระบบกลุ่ม ก่อนและหลังเรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ รอบรู้เรื่องเงื่อนเชือก เพื่อเสริมสร้างการเรียนรู้แบบระบบกลุ่ม สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และ (4.2) เพื่อศึกษาความคิดเห็นของนักเรียนที่เรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ รอบรู้เรื่องเงื่อนเชือก เพื่อเสริมสร้างการเรียนรู้แบบระบบกลุ่ม สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วยแผนการจัดการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ จำนวน 4 แผน ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ จำนวน 4 ชุด แบบทดสอบวัดความสามารถในการเรียนรู้แบบระบบกลุ่มเป็นแบบปฏิบัติ จำนวน 1 ข้อ แบบสอบถามที่ศึกษาข้อมูลพื้นฐานและความต้องการของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 แบบสัมภาษณ์เป็นการถามข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ รอบรู้เรื่องเงื่อนเชือก เพื่อเสริมสร้างการเรียนรู้แบบระบบกลุ่ม สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เป็นแบบสอบถามแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scales) 5 ระดับ และสำหรับการวิเคราะห์ข้อมูลและสถิติที่ใช้คือ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ("X" ̅) ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ( S.D) การทดสอบค่าที (t - test) แบบ Dependent และการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis) สรุปผลการวิจัยได้ดังนี้

ผลการวิจัยพบว่า

ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐานและความต้องการของนักเรียนและครูกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เห็นความสำคัญต่อการเรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ รอบรู้เรื่องเงื่อนเชือก เพื่อเสริมสร้างการเรียนรู้แบบระบบกลุ่ม สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ซึ่งผลการวิเคราะห์กิจกรรมพัฒนาผู้เรียนตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 และหลักสูตรสถานศึกษา กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน โรงเรียนเทศบาลบ้านนาเหนือ ที่จัดให้ผู้เรียนได้เรียน เนื้อหา เรื่อง รอบรู้เรื่องเงื่อนเชือก ใช้เวลา 14 ชั่วโมง (รวมการทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน) ประกอบด้วยเนื้อหา การผูกเงื่อนด้วยเชือกที่มีขนาดเดียวกัน การผูกเงื่อนด้วยเชือกที่มีขนาดต่างกันและการทำเป็นบ่วง การผูกเงื่อนด้วยเชือกกับวัสดุอย่างใดอย่างหนึ่งและวิธีการผูกแน่น และ การประยุกต์ใช้งานของเงื่อนเชือก และใช้การจัดการเรียนรู้แบบแบบกลุ่มร่วมมือขั้นตอนต่อไปนี้ ขั้นเตรียมเรียนรู้ (Preparing to learn) ขั้นเรียนรู้สิ่งใหม่ (Learn something new) ขั้นคิดและคุยกัน (Think Pairs Share) ขั้นการสรุปและจัดระเบียบความรู้ (The process of summarizing and organizing knowledge) ขั้นการแสดงผลงาน (Show the work) ขั้นการประยุกต์ใช้ความรู้ (The application of knowledge)

ผลการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ รอบรู้เรื่องเงื่อนเชือก เพื่อเสริมสร้างการเรียนรู้แบบระบบกลุ่ม สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 85/85 พบว่า ผลการการเรียนระหว่างเรียน (E1) มีคะแนนเฉลี่ยร้อยละ 86.40 และผลการทดสอบหลังเรียน (E2) มีคะแนนเฉลี่ยร้อยละ 87.40 แสดงว่าประสิทธิภาพ 86.40/87.40 เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด 85/85

ผลการทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ รอบรู้เรื่องเงื่อนเชือก เพื่อเสริมสร้างการเรียนรู้แบบระบบกลุ่ม สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 27 คน ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561 โรงเรียนเทศบาลบ้านนาเหนือ ระยะเวลาในการทดลองจำนวน 14 ชั่วโมง (รวมทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน) จำนวน 4 แผนการเรียนรู้ พบว่า ผลการการเรียนระหว่างเรียน (E1) มีคะแนนเฉลี่ยร้อยละ 88.19 และผลการทดสอบหลังเรียน (E2) มีคะแนนเฉลี่ยร้อยละ 88.44 แสดงว่าประสิทธิภาพ 88.19/88.44 เป็นไปสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด 85/85

ผลการประเมินและปรับปรุงรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ รอบรู้เรื่องเงื่อนเชือก เพื่อเสริมสร้างการเรียนรู้แบบระบบกลุ่ม สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีผลดังนี้

ผลการเปรียบเทียบความสามารถในการเรียนรู้แบบระบบกลุ่ม ก่อนและหลังเรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ รอบรู้เรื่องเงื่อนเชือก เพื่อเสริมสร้างการเรียนรู้แบบระบบกลุ่ม สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 พบว่าความสามารถในการเรียนรู้แบบระบบกลุ่มหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

4.2 ผลการศึกษาความคิดเห็นของนักเรียนที่เรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ รอบรู้เรื่องเงื่อนเชือก เพื่อเสริมสร้างการเรียนรู้แบบระบบกลุ่ม สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 พบว่า ความคิดเห็นโดยภาพรวมอยู่ในระดับดีมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า นักเรียนเห็นด้วยในระดับดีมากทุกด้าน เรียงตามลำดับ คือ ด้านบรรยากาศในการเรียนรู้ด้านการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ และด้านการวัดและประเมินผล ระดับความคิดเห็นเท่ากับด้านประโยชน์ที่ได้รับ ดี และให้นักเรียนเขียนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการเรียนด้วยรูปแบบการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ โดยใช้ชุดกิจกรรมเป็นสื่อประกอบ

โพสต์โดย ครูนา : [1 ก.ย. 2562 เวลา 08:23 น.]
อ่าน [3420] ไอพี : 184.22.191.3
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 19,930 ครั้ง
เทคนิคการปลูกกล้วย ให้มีกลิ่นต่างๆ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มได้อย่างดี
เทคนิคการปลูกกล้วย ให้มีกลิ่นต่างๆ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มได้อย่างดี

เปิดอ่าน 17,414 ครั้ง
แจกฟรี powerpoint ฟิสิกส์ ม.ปลาย (บริษัท วิทยพัฒน์ จำกัด)
แจกฟรี powerpoint ฟิสิกส์ ม.ปลาย (บริษัท วิทยพัฒน์ จำกัด)

เปิดอ่าน 17,755 ครั้ง
How To Learn English
How To Learn English

เปิดอ่าน 20,339 ครั้ง
LearnSquare
LearnSquare

เปิดอ่าน 97,431 ครั้ง
ดูให้รู้ - วิธีการสอนเพื่อพัฒนาสมองทั้งซีกขวาและซ้ายในญี่ปุ่น
ดูให้รู้ - วิธีการสอนเพื่อพัฒนาสมองทั้งซีกขวาและซ้ายในญี่ปุ่น

เปิดอ่าน 84,808 ครั้ง
Adjectives ( articles -a/an )
Adjectives ( articles -a/an )

เปิดอ่าน 18,733 ครั้ง
ประโยชน์และโทษของ ชา
ประโยชน์และโทษของ ชา

เปิดอ่าน 9,561 ครั้ง
"มิเชล โอบามา" สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของอเมริกา มีวันนี้ได้เพราะความเสียสละของแม่
"มิเชล โอบามา" สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของอเมริกา มีวันนี้ได้เพราะความเสียสละของแม่

เปิดอ่าน 103,565 ครั้ง
มรรค 8 ( อัฏฐังคิกมรรค )
มรรค 8 ( อัฏฐังคิกมรรค )

เปิดอ่าน 11,800 ครั้ง
5 ประโยชน์จากน้ำมันมะกอก
5 ประโยชน์จากน้ำมันมะกอก

เปิดอ่าน 7,238 ครั้ง
คนคือความท้าทาย
คนคือความท้าทาย

เปิดอ่าน 3,004 ครั้ง
4 เรื่องไม่จริงเกี่ยวกับ PDPA พรบ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
4 เรื่องไม่จริงเกี่ยวกับ PDPA พรบ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

เปิดอ่าน 12,476 ครั้ง
มข.ค้นพบยีสต์สายพันธุ์ใหม่ แบ่งตัวเร็ว ผลิตเอทานอลสูง
มข.ค้นพบยีสต์สายพันธุ์ใหม่ แบ่งตัวเร็ว ผลิตเอทานอลสูง

เปิดอ่าน 15,330 ครั้ง
การดูแลรถเมื่อน้ำท่วม
การดูแลรถเมื่อน้ำท่วม

เปิดอ่าน 2,690 ครั้ง
การเป็นพลเมืองที่ดี
การเป็นพลเมืองที่ดี

เปิดอ่าน 40,257 ครั้ง
ธุรกิจออนไลน์ที่น่าลงทุนในปี 2020 สำหรับสร้างรายได้เสริม
ธุรกิจออนไลน์ที่น่าลงทุนในปี 2020 สำหรับสร้างรายได้เสริม
เปิดอ่าน 66,449 ครั้ง
วิธีการทดสอบน้ำผึ้งแท้หรือปลอม
วิธีการทดสอบน้ำผึ้งแท้หรือปลอม
เปิดอ่าน 19,174 ครั้ง
กิน "มะรุม" ยับยั้งมะเร็งแพร่ลำไส้ใหญ่ได้ แต่กินดิบระวังตับพัง แนะนำให้ปรุงสุกก่อนรับประทาน
กิน "มะรุม" ยับยั้งมะเร็งแพร่ลำไส้ใหญ่ได้ แต่กินดิบระวังตับพัง แนะนำให้ปรุงสุกก่อนรับประทาน
เปิดอ่าน 16,356 ครั้ง
หมอชี้ "มะเร็งตับอ่อน" ไม่กินเหล้าสูบบุหรี่ก็เป็นได้ แนะ 5 ทำ 5 ไม่
หมอชี้ "มะเร็งตับอ่อน" ไม่กินเหล้าสูบบุหรี่ก็เป็นได้ แนะ 5 ทำ 5 ไม่
เปิดอ่าน 6,561 ครั้ง
ประวัตินาฏศิลป์ไทย
ประวัตินาฏศิลป์ไทย

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ