ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการสอนวิทยาศาสตร์ตามแนวคิดสะเต็มศึกษา เพื่อส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหาสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ผลงานครูจินตนา คำบุง

ชื่อเรื่อง : การพัฒนารูปแบบการสอนวิทยาศาสตร์ตามแนวคิดสะเต็มศึกษา

เพื่อส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหาสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3

ผู้วิจัย : จินตนา คำบุง

ปีที่วิจัย : 2561

บทคัดย่อ

การจัดการเรียนการสอนตามแนวคิดสะเต็มศึกษานับว่าเป็นการจัดการเรียนการสอน แบบใหม่ที่ซึ่งยังไม่มีขั้นตอนการเรียนการสอนอย่างชัดเจน ผู้วิจัยจึงมุ่งมั่นจะหาแนวทางให้เกิด ความกระจ่าง การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) สร้างและตรวจสอบคุณภาพของรูปแบบการสอน 2) เพื่อศึกษาผลการทดลองใช้รูปแบบการสอน โดย 2.1) เปรียบเทียบทักษะการแก้ปัญหา 2.2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังเรียนด้วยรูปแบบการสอนที่พัฒนาขึ้น 2.3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อรูปแบบการสอน ดำเนินการวิจัยตามกระบวนการวิจัยและพัฒนา ขั้นตอนที่ 1 การสร้างและตรวจสอบคุณภาพของรูปแบบการจัดการเรียนรู้ โดยผู้เชี่ยวชาญ

5 ท่าน และทดลองนำร่องกับนักเรียนที่ไม่ใช่กลุ่มตัวอย่าง 23 คน โรงเรียนเทศบาล 5 (วัดพันปี) ขั้นตอนที่ 2 การศึกษาผลการทดลองใช้รูปแบบการสอนกับนักเรียนกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 20 คน

1. ผลการสร้างและตรวจสอบคุณภาพรูปแบบ พบว่า

1.1 รูปแบบการสอนที่พัฒนาขึ้นประกอบด้วย 5 องค์ประกอบ ได้แก่ หลักการของ

รูปแบบ วัตถุประสงค์ เนื้อหา กิจกรรมการเรียนรู้ และการวัดและประเมินผล กิจกรรมการเรียนรู้มี 5 ขั้น คือ ขั้นที่ 1 สงสัยใคร่รู้ ขั้นที่ 2 ค้นดูเร่งเสาะหา ขั้นที่ 3 ออกแบบและพัฒนา ขั้นที่ 4 ทดสอบและประเมินผล ขั้นที่ 5 นำเสนอผลลัพธ์เพื่อตอบแทนสังคม ผลการตรวจสอบคุณภาพโดยผู้เชี่ยวชาญรูปแบบการสอนที่พัฒนาขึ้นมีความ เหมาะสมระดับมากที่สุด

1.2 ดัชนีประสิทธิผลของรูปแบบการสอนที่พัฒนาขึ้นมีค่าเท่ากับ 0.7238

2. ผลการทดลองใช้รูปแบบการจัดการสอนพบว่า

2.1 นักเรียนที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามรูปแบบการสอนวิทยาศาสตร์ตาม

แนวคิดสะเต็มศึกษา เพื่อส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหาสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีทักษะ การแก้ปัญหาหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญ ทางสถิติที่ระดับ .01

2.2 นักเรียนที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนตามรูปแบบการสอนวิทยาศาสตร์

ตามแนวคิดสะเต็มศึกษา เพื่อส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหาสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญ ทางสถิติที่ระดับ .01

2.3 ผลการประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตาม

รูปแบบการสอนวิทยาศาสตร์ตามแนวคิดสะเต็มศึกษา เพื่อส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหาสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีความพึงพอใจอยู่ระดับมาก (= 4.39, = 0.65)

โพสต์โดย จิน : [1 ก.ย. 2562 เวลา 20:22 น.]
อ่าน [3446] ไอพี : 134.196.43.247
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 191,683 ครั้ง
เทคโนโลยี มีกี่ระดับอะไรบ้าง
เทคโนโลยี มีกี่ระดับอะไรบ้าง

เปิดอ่าน 13,524 ครั้ง
ทำไมสุนัขถึงเดินเป็นวงกลมก่อนจะนอนลง
ทำไมสุนัขถึงเดินเป็นวงกลมก่อนจะนอนลง

เปิดอ่าน 922 ครั้ง
ของฝากประจำจังหวัดศรีสะเกษ สินค้าแนะนำภาคอีสาน
ของฝากประจำจังหวัดศรีสะเกษ สินค้าแนะนำภาคอีสาน

เปิดอ่าน 16,750 ครั้ง
สมุนไพรไทย
สมุนไพรไทย

เปิดอ่าน 5,530 ครั้ง
ติดฟิล์มรถยนต์ราคาถูก ติดรุ่นไหนดี ควรเลือกอย่างไร ?
ติดฟิล์มรถยนต์ราคาถูก ติดรุ่นไหนดี ควรเลือกอย่างไร ?

เปิดอ่าน 14,329 ครั้ง
ปลา...สินสมุทร สรวงฟ้า ของเล่นใหม่ นักเลี้ยงปลาตู้
ปลา...สินสมุทร สรวงฟ้า ของเล่นใหม่ นักเลี้ยงปลาตู้

เปิดอ่าน 9,950 ครั้ง
รู้เรา รู้ใคร... จากนิสัยท่องเที่ยว
รู้เรา รู้ใคร... จากนิสัยท่องเที่ยว

เปิดอ่าน 31,301 ครั้ง
ประโยชน์ของ e-Learning
ประโยชน์ของ e-Learning

เปิดอ่าน 33,780 ครั้ง
ปลิงหรือทากกัด
ปลิงหรือทากกัด

เปิดอ่าน 11,792 ครั้ง
คู่มือการจัดหาประโยชน์จากที่ดิน ของสถานศึกษา
คู่มือการจัดหาประโยชน์จากที่ดิน ของสถานศึกษา

เปิดอ่าน 10,774 ครั้ง
คลิปลูกสาวจัดวิวาห์ที่ รพ. เพื่อให้ได้เต้นรำกับพ่อก่อนตาย
คลิปลูกสาวจัดวิวาห์ที่ รพ. เพื่อให้ได้เต้นรำกับพ่อก่อนตาย

เปิดอ่าน 9,092 ครั้ง
ฮิตทะลุโลก เผยยอดผู้ใช้เฟซบุ๊คมีจำนวนกว่าครึงพันล้านคน ใหญ่เท่ากับปท.อันดับสามของโลก
ฮิตทะลุโลก เผยยอดผู้ใช้เฟซบุ๊คมีจำนวนกว่าครึงพันล้านคน ใหญ่เท่ากับปท.อันดับสามของโลก

เปิดอ่าน 16,785 ครั้ง
มังคุดคัด
มังคุดคัด

เปิดอ่าน 11,826 ครั้ง
ขอบพระคุณคอลัมน์ "คลิกเฮียร์" หนังสือพิมพ์"เดลินิวส์"
ขอบพระคุณคอลัมน์ "คลิกเฮียร์" หนังสือพิมพ์"เดลินิวส์"

เปิดอ่าน 30,011 ครั้ง
6 นิสัยที่ทำให้อายุยืน ใช่คุณครบทุกข้อไหม
6 นิสัยที่ทำให้อายุยืน ใช่คุณครบทุกข้อไหม

เปิดอ่าน 15,894 ครั้ง
กิน เล่น เต้น วาด สุดยอดวิชาพัฒนาเด็ก
กิน เล่น เต้น วาด สุดยอดวิชาพัฒนาเด็ก
เปิดอ่าน 82,753 ครั้ง
การจัดรายวิชาเพิ่มเติมเพื่อส่งเสริมและพัฒนาทักษะทางอาชีพในหลักสูตรสถานศึกษา
การจัดรายวิชาเพิ่มเติมเพื่อส่งเสริมและพัฒนาทักษะทางอาชีพในหลักสูตรสถานศึกษา
เปิดอ่าน 11,953 ครั้ง
จดหมายฉบับที่ 51 ถึงนายกรัฐมนตรี+รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
จดหมายฉบับที่ 51 ถึงนายกรัฐมนตรี+รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
เปิดอ่าน 9,679 ครั้ง
อะแคนทะมีบา ภัย คอนแทคเลนส์
อะแคนทะมีบา ภัย คอนแทคเลนส์
เปิดอ่าน 105,576 ครั้ง
รายชื่อโรงเรียนที่มีจำนวนนักเรียนตั้งแต่ 4,000 คนขึ้นไป ปีการศึกษา 2559 (เรียงลำดับตามจำนวนนักเรียนจากมากไปน้อย)
รายชื่อโรงเรียนที่มีจำนวนนักเรียนตั้งแต่ 4,000 คนขึ้นไป ปีการศึกษา 2559 (เรียงลำดับตามจำนวนนักเรียนจากมากไปน้อย)

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ