ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้แบบอุปนัย เพื่อส่งเสริมความสามารถในการให้เหตุผล

ชื่อเรื่อง การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้แบบอุปนัย เพื่อส่งเสริมความสามารถในการให้เหตุผล

ทางคณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2

ผู้วิจัย นางสาวสุพี สีน้อย

ปีที่ทำวิจัย 2561

บทคัดย่อ

การดำเนินการวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้แบบอุปนัย เพื่อส่งเสริมความสามารถในการให้เหตุผลทางคณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ให้มีประสิทธิภาพ 75/75 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน ก่อนเรียนและหลังเรียน ด้วยกิจกรรมการเรียนรู้แบบอุปนัย เพื่อส่งเสริมความสามารถในการให้เหตุผลทางคณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 3) เพื่อเปรียบเทียบความสามารถในการให้เหตุผลทางคณิตศาสตร์ของนักเรียน ก่อนเรียนและหลังเรียน ด้วยกิจกรรมการเรียนรู้แบบอุปนัย เพื่อส่งเสริมความสามารถในการให้เหตุผลทางคณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้ด้วยกิจกรรมการเรียนรู้แบบอุปนัย เพื่อส่งเสริมความสามารถในการให้เหตุผลทางคณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/3 โรงเรียนไพรธรรมคุณวิทยา องค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 จำนวน 32 คน โดยใช้วิธีการสุ่มแบบแบ่งกลุ่ม (Cluster random sampling) โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยในการสุ่ม จำแนกตามห้องเรียนแต่ละห้องเรียน นักเรียนมีผลการเรียนคละกัน

เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) แผนการจัดการเรียนรู้แบบอุปนัย เพื่อส่งเสริมความสามารถในการให้เหตุผลทางคณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 18 แผน มีระดับความเหมาะสมโดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ในการทดลองใช้ครั้งที่ 1 ประสิทธิภาพมีค่า 62.92/62.22 ในการทดลองใช้ครั้งที่ 2 ประสิทธิภาพมีค่า 71.75/71.33 และในการทดลองใช้ครั้งที่ 3 ประสิทธิภาพมีค่า 75.38/75.22 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ วิชาคณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เป็นแบบปรนัยเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ มีค่าดัชนีความสอดคล้อง .60 - 1.00 มีค่าความยากง่ายอยู่ระหว่าง .30 - .67 มีค่าอำนาจจำแนก .25 - .88 และค่าความเชื่อมั่น .88 3) แบบทดสอบวัดความสามารถในการให้เหตุผลทางคณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ วิชาคณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เป็นแบบอัตนัย จำนวน 6 ข้อ มีค่าดัชนีความสอดคล้อง .80 - 1.00 ค่าความยากง่ายอยู่ระหว่าง .47 - .56 มีค่าอำนาจจำแนก .34 - .56 และค่าความเชื่อมั่น .80 4) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้ด้วยกิจกรรมการเรียนรู้แบบอุปนัย เพื่อส่งเสริมความสามารถในการให้เหตุผลทางคณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ซึ่งเป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating scale) 5 ระดับ จำนวน 15 ข้อ มีค่าดัชนีความสอดคล้อง .60 - 1.00 มีค่าอำนาจจำแนกระหว่าง .44–.67 และค่าความเชื่อมั่น .89 การวิเคราะห์ข้อมูลใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การหาประสิทธิภาพ และการทดสอบค่าที

ผลการวิจัยพบว่า

1. ประสิทธิภาพของกิจกรรมการเรียนรู้แบบอุปนัย เพื่อส่งเสริมความสามารถในการให้เหตุผลทางคณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่พัฒนาขึ้น มีค่าเท่ากับ 79.30/78.13 สูงกว่าเกณฑ์ 75/75 ที่ตั้งไว้

2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ของนักเรียนหลังเรียนด้วยกิจกรรมการเรียนรู้แบบอุปนัย เพื่อส่งเสริมความสามารถในการให้เหตุผลทางคณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

3. ความสามารถในการให้เหตุผลทางคณิตศาสตร์ ของนักเรียนหลังเรียนด้วยกิจกรรมการเรียนรู้แบบอุปนัย เพื่อส่งเสริมความสามารถในการให้เหตุผลทางคณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

4. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้ด้วยกิจกรรมการเรียนรู้แบบอุปนัย เพื่อส่งเสริมความสามารถในการให้เหตุผลทางคณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยรวมอยู่ในระดับมาก

โพสต์โดย พี : [22 ก.พ. 2563 เวลา 15:15 น.]
อ่าน [2784] ไอพี : 101.51.47.188
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 12,669 ครั้ง
ปฏิรูปการศึกษา : มุ่งการขยายโครงสร้าง คือเลือกทางสู่ความล้มเหลว โดย ประเสริฐ ตันสกุล
ปฏิรูปการศึกษา : มุ่งการขยายโครงสร้าง คือเลือกทางสู่ความล้มเหลว โดย ประเสริฐ ตันสกุล

เปิดอ่าน 27,555 ครั้ง
ทำไมบริษัทห้างร้านบางแห่งจึงมีรูปครุฑอยู่ที่หน้าอาคาร
ทำไมบริษัทห้างร้านบางแห่งจึงมีรูปครุฑอยู่ที่หน้าอาคาร

เปิดอ่าน 16,788 ครั้ง
หลักเกณฑ์และวิธีการเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลของบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามาตรา 36 ค.(2)
หลักเกณฑ์และวิธีการเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลของบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามาตรา 36 ค.(2)

เปิดอ่าน 15,054 ครั้ง
เตือนภัย : ฝนตก ยุงลายชุกชุม ระวังไข้เลือดออกคุกคามเด็กๆ
เตือนภัย : ฝนตก ยุงลายชุกชุม ระวังไข้เลือดออกคุกคามเด็กๆ

เปิดอ่าน 2,802 ครั้ง
เขียน Resume อย่างไรให้ได้งานดี
เขียน Resume อย่างไรให้ได้งานดี

เปิดอ่าน 5,979 ครั้ง
อุตสาหกรรมที่จะพลิกโฉมเศรษฐกิจและสังคมแห่งโลกอนาคต
อุตสาหกรรมที่จะพลิกโฉมเศรษฐกิจและสังคมแห่งโลกอนาคต

เปิดอ่าน 9,413 ครั้ง
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับโครงงานวิทยาศาสตร์
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับโครงงานวิทยาศาสตร์

เปิดอ่าน 11,447 ครั้ง
รับชมย้อนหลัง การประชุมทางไกล "เครือข่ายโรงเรียนดีใกล้บ้าน" 2 ธันวาคม 2559
รับชมย้อนหลัง การประชุมทางไกล "เครือข่ายโรงเรียนดีใกล้บ้าน" 2 ธันวาคม 2559

เปิดอ่าน 50,230 ครั้ง
มารยาทในการกล่าวขอโทษ (Excuse me)
มารยาทในการกล่าวขอโทษ (Excuse me)

เปิดอ่าน 26,607 ครั้ง
ดาวน์โหลดเอกสารมาตรฐานห้องสมุดโรงเรียน ฉบับใหม่ ปี 2556
ดาวน์โหลดเอกสารมาตรฐานห้องสมุดโรงเรียน ฉบับใหม่ ปี 2556

เปิดอ่าน 70,703 ครั้ง
การแบ่งเกรดดินสอตามความแข็ง
การแบ่งเกรดดินสอตามความแข็ง

เปิดอ่าน 14,891 ครั้ง
ตักขี้ควายขายรายได้เดือนละ 2 หมื่น
ตักขี้ควายขายรายได้เดือนละ 2 หมื่น

เปิดอ่าน 22,517 ครั้ง
ความแตกต่างระหว่าง แก๊ส LPG และ ก๊าซ NGV
ความแตกต่างระหว่าง แก๊ส LPG และ ก๊าซ NGV

เปิดอ่าน 54,911 ครั้ง
สาระน่ารู้เกี่ยวกับ"คำนำหน้านาม"
สาระน่ารู้เกี่ยวกับ"คำนำหน้านาม"

เปิดอ่าน 932 ครั้ง
เครื่องหมาย ฯลฯ (ไปยาลใหญ่ หรือ เปยยาลใหญ่)
เครื่องหมาย ฯลฯ (ไปยาลใหญ่ หรือ เปยยาลใหญ่)

เปิดอ่าน 15,233 ครั้ง
ชาอู่หลง ช่วยลดน้ำหนักได้จริงหรือ
ชาอู่หลง ช่วยลดน้ำหนักได้จริงหรือ
เปิดอ่าน 1,208 ครั้ง
การป้องกันการเกิดอาการ "ฮีทสโตรก"
การป้องกันการเกิดอาการ "ฮีทสโตรก"
เปิดอ่าน 10,130 ครั้ง
อิ่มอร่อย หลับสบาย
อิ่มอร่อย หลับสบาย
เปิดอ่าน 3,946 ครั้ง
พกมือถือในกระเป๋ากางเกง หันหน้าเข้าหรือหันหน้าออกดี?
พกมือถือในกระเป๋ากางเกง หันหน้าเข้าหรือหันหน้าออกดี?
เปิดอ่าน 15,737 ครั้ง
8 วิธี ฟื้นฟูจิตใจ
8 วิธี ฟื้นฟูจิตใจ

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ