ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสะเต็มศึกษา (STEM) เรื่อง พลังงานน่ารู้สู่การประหยัด กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

ผลงาน การพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสะเต็มศึกษา (STEM) เรื่อง พลังงานน่ารู้ สู่การประหยัด กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

ผู้วิจัย ชาตรี วิเชียรสว่าง

ปีที่วิจัย 2560

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนาการจัดการเรียนการสอนกลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 2) เพื่อพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสะเต็มศึกษา (STEM) เรื่อง พลังงานน่ารู้สู่การประหยัด กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 3) เพื่อทดลองใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสะเต็มศึกษา (STEM) เรื่อง พลังงานน่ารู้สู่การประหยัด กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 4) เพื่อผลการประเมินและปรับปรุงแก้ไขชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสะเต็มศึกษา (STEM) เรื่อง พลังงานน่ารู้สู่การประหยัด กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ในการทดลองใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสะเต็มศึกษา (STEM) เรื่อง พลังงานน่ารู้สู่การประหยัด กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561 จำนวน 1 ห้องเรียนนักเรียน 35 คน สถิติที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่าที (t – test) แบบ Dependent และการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis) แล้วนำเสนอแบบพรรณนาความ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1) ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสะเต็มศึกษา (STEM) เรื่อง พลังงานน่ารู้สู่การประหยัด กลุ่มสาระ การเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 7 เล่ม 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทาง การเรียน 3) แบบประเมินทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าเฉลี่ย ค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐานและการทดสอบค่าที (t-test)

ผลการศึกษาพบว่า

1) จากการสอบถามความคิดเห็น แนวทางในการพัฒนาการจัดการเรียนการสอนสาระที่ 5 พลังงาน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามให้แนวคิดเกี่ยวกับแนวทางการพัฒนาจัดการสอน สาระที่ 5 พลังงาน การจัดการศึกษาควรบูรณาการความรู้ใน 4 สหวิทยาการ ได้แก่ วิทยาศาสตร์ วิศวกรรม เทคโนโลยี และคณิตศาสตร์ โดยเน้นการนำความรู้ไปใช้แก้ปัญหาในชีวิตจริง รวมทั้งการพัฒนากระบวนการหรือผลผลิตใหม่ ที่เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิต และการทำงาน ช่วยนักเรียนสร้างความเชื่อมโยงระหว่าง 4 สหวิทยาการ กับชีวิตจริงและการทำงานการจัดการเรียนรู้แบบสะเต็มศึกษา (STEM) เป็นการจัดการเรียนรู้ที่ไม่เน้นเพียงการท่องจำทฤษฎีหรือกฎทางวิทยาศาสตร์ และคณิตศาสตร์ แต่เป็นการสร้างความเข้าใจทฤษฎีหรือกฎเหล่านั้นผ่านการปฏิบัติให้เห็นจริงควบคู่กับการพัฒนาทักษะการคิด ตั้งคำถาม แก้ปัญหาและการหาข้อมูลและวิเคราะห์ข้อค้นพบใหม่ๆ พร้อมทั้งสามารถนำข้อค้นพบนั้นไปใช้หรือบูรณาการกับชีวิตประจำวันได้

2) นำข้อมูลที่ได้ศึกษาวิเคราะห์ในขั้นตอนที่ 1 มาสังเคราะห์เป็น ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสะเต็มศึกษา (STEM) เรื่อง พลังงานน่ารู้สู่การประหยัด กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 7 เรื่อง ได้แก่ ความหมายพลังงาน พลังงานแสง พลังงานเสียง พลังงานความร้อน พลังงานไฟฟ้า พลังงานแม่เหล็กและการประหยัดพลังงาน เมื่อนำมาทดลองหาค่าประสิทธิภาพขั้นทดลองภาคสนาม พบว่ามีประสิทธิภาพเท่ากับ 81.90/82.67 มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 ที่กำหนดไว้

3) ผลการดำเนินการการเรียนรู้โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสะเต็มศึกษา (STEM) เรื่อง พลังงานน่ารู้สู่การประหยัด กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 พบว่าประสิทธิภาพขั้นทดลองกับกลุ่มตัวอย่างเท่ากับ 82.94/83.71 จากการทดลองพบว่านักเรียนสามารถบูรณาการความรู้ข้ามสาระ ระหว่างวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ และเทคโนโลยี ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นักเรียนนำความรู้ ทักษะ และเจตคติไปสร้างงาน แก้ปัญหาและใช้ในชีวิตประจำวันได้ด้วยตนเอง นักเรียนมีการเรียนรู้โดยผ่านการสืบค้นข้อมูลจากแหล่งข้อมูลที่หลากหลาย โดยนักเรียนมีอิสระในการเลือกเรื่องตนเองมีความสนใจ เช่น การทำโครงงานทำให้นักเรียนเกิดการค้นคว้า เรียนรู้จากการสืบค้นข้อมูล การฝึกประสบการณ์ตรงจากแหล่งเรียนรู้ทำให้นักเรียนมีทักษะในการเรียนรู้ กระตือรือร้นที่จะเรียนรู้และใช้ทักษะการคิดขั้นสูง เป็นการยกระดับศักยภาพการรับรู้สิ่งใหม่ๆ ให้กับตัวนักเรียน นักเรียนรู้จักการค้นคว้าและสร้างสรรค์ความรู้เชิงนวัตกรรมด้วยตนเอง นักเรียนได้เห็นการเชื่อมโยงของความรู้ ในวิชาต่างๆ ช่วยให้เกิดการทำงานแบบร่วมมือกับเพื่อนในกลุ่ม

4) ผลการพัฒนา (Development) เป็นการประเมินและปรับปรุงชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสะเต็มศึกษา (STEM) เรื่อง พลังงานน่ารู้สู่การประหยัด กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้

(1) ผลการหาประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสะเต็มศึกษา (STEM) เรื่อง พลังงานน่ารู้สู่การประหยัด กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ได้ค่าประสิทธิภาพ E1 เท่ากับ 82.94 และค่า E2 เท่ากับ 83.71 จากการทดลองพบว่ามีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80

(2) ผลการหาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ผลการเปรียบเทียบคะแนนระหว่างก่อนเรียนและหลังการเรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสะเต็มศึกษา (STEM) เรื่อง พลังงานน่ารู้สู่การประหยัด กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 พบว่ามีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 และเมื่อพิจารณาพบว่า หลังเรียนมีคะแนนสูงกกว่าก่อนเรียน

(3) การประเมินทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ในภาพรวม อยู่ในระดับมาก

โพสต์โดย chalermpon4 laothiang : [14 มี.ค. 2563 เวลา 06:11 น.]
อ่าน [3301] ไอพี : 184.22.97.111
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 14,585 ครั้ง
วิธีฝึกสมาธิเพื่อให้เรียนหนังสือเก่ง
วิธีฝึกสมาธิเพื่อให้เรียนหนังสือเก่ง

เปิดอ่าน 41,528 ครั้ง
กินสเต๊กอย่างถูกวิธี
กินสเต๊กอย่างถูกวิธี

เปิดอ่าน 9,994 ครั้ง
สีแดงกับสมอง ความเชื่อมโยงอันน่าอัศจรรย์ที่คุณไม่เคยรู้
สีแดงกับสมอง ความเชื่อมโยงอันน่าอัศจรรย์ที่คุณไม่เคยรู้

เปิดอ่าน 16,989 ครั้ง
ข้าวโพดสีม่วง ช่วยต้านมะเร็ง
ข้าวโพดสีม่วง ช่วยต้านมะเร็ง

เปิดอ่าน 15,326 ครั้ง
ติดพนันเสียคนตอนแก่เนื่องมาจากเป็นเพราะสมองเสื่อมโทรม
ติดพนันเสียคนตอนแก่เนื่องมาจากเป็นเพราะสมองเสื่อมโทรม

เปิดอ่าน 56,559 ครั้ง
กองทุนเพื่อความเสมอภาค ทางการศึกษา...คืออะไร?
กองทุนเพื่อความเสมอภาค ทางการศึกษา...คืออะไร?

เปิดอ่าน 11,749 ครั้ง
7 วิธีทำให้หน้าเด็ก
7 วิธีทำให้หน้าเด็ก

เปิดอ่าน 11,677 ครั้ง
รัดผมตึง...ระวังโรคเครียด
รัดผมตึง...ระวังโรคเครียด

เปิดอ่าน 28,852 ครั้ง
SCORM (Shareable Content Object Reference Model)
SCORM (Shareable Content Object Reference Model)

เปิดอ่าน 12,670 ครั้ง
๒๐ คำถามกับท่าน ว.วชิรเมธี
๒๐ คำถามกับท่าน ว.วชิรเมธี

เปิดอ่าน 2,967 ครั้ง
ประโยชน์ของขมิ้นชัน
ประโยชน์ของขมิ้นชัน

เปิดอ่าน 19,902 ครั้ง
สำรวจหาดาวเคราะห์แบบเดียวกับโลก มี 100 พันล้านดวง
สำรวจหาดาวเคราะห์แบบเดียวกับโลก มี 100 พันล้านดวง

เปิดอ่าน 15,954 ครั้ง
รวมผักกินยากแสนอร่อยแต่เปี่ยมคุณค่า
รวมผักกินยากแสนอร่อยแต่เปี่ยมคุณค่า

เปิดอ่าน 18,340 ครั้ง
บริหารงานอย่างไร จึงจะครองใจลูกน้อง
บริหารงานอย่างไร จึงจะครองใจลูกน้อง

เปิดอ่าน 13,648 ครั้ง
ปรัชญาการศึกษา คือแก่นของหลักสูตร
ปรัชญาการศึกษา คือแก่นของหลักสูตร

เปิดอ่าน 9,235 ครั้ง
เสียงหัวเราะ ให้คุณมากกว่าความสดใส
เสียงหัวเราะ ให้คุณมากกว่าความสดใส
เปิดอ่าน 12,039 ครั้ง
8 การออกกำลังดีที่สุด และแย่ที่สุดสำหรับหัวใจ
8 การออกกำลังดีที่สุด และแย่ที่สุดสำหรับหัวใจ
เปิดอ่าน 3,956 ครั้ง
ต้นทองอุไร ไม้ดอกมงคล ปลูกง่าย โตไว
ต้นทองอุไร ไม้ดอกมงคล ปลูกง่าย โตไว
เปิดอ่าน 10,104 ครั้ง
เที่ยวมหกรรมนวดนานาชาติ ในงานแฟร์สุขภาพ
เที่ยวมหกรรมนวดนานาชาติ ในงานแฟร์สุขภาพ
เปิดอ่าน 14,717 ครั้ง
10 กิจที่ต้องทำ วันตรุษจีน
10 กิจที่ต้องทำ วันตรุษจีน

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ