ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบกระบวนการเรียนรู้แบบโครงงาน เพื่อเสริมสร้างทักษะในศตวรรษที่ 21 เรื่อง ของดีเมืองลุง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3

บทคัดย่อ

ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบกระบวนการเรียนรู้แบบโครงงาน เพื่อเสริมสร้างทักษะในศตวรรษที่ 21 เรื่อง ของดีเมืองลุง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3

กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี

คำสำคัญ รูปแบบการจัดกระบวนการเรียนรู้/ตามรูปแบบโครงงาน/ทักษะในศตวรรษที่ 21

ชื่อผู้วิจัย นางสาวอัญชลี แก้ววิเศษ

การวิจัยเรื่อง การพัฒนารูปแบบกระบวนการเรียนรู้แบบโครงงาน เพื่อเสริมสร้างทักษะ

ในศตวรรษที่ 21 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ของโรงเรียนเทศบาลจุ่งฮั่ว มีเพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการการพัฒนารูปแบบกระบวนการเรียนรู้แบบโครงงาน เพื่อเสริมสร้างทักษะในศตวรรษที่ 21 เรื่อง ของดีเมืองลุง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 การพัฒนารูปแบบกระบวนการเรียนรู้แบบโครงงาน เพื่อเสริมสร้างทักษะในศตวรรษที่ 21 เรื่อง ของดีเมืองลุง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เพื่อทดลองใช้รูปแบบกระบวนการเรียนรู้แบบโครงงาน เพื่อเสริมสร้างทักษะในศตวรรษที่ 21 เรื่อง ของดีเมืองลุง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และเพื่อประเมินผลและปรับปรุงรูปแบบกระบวนการเรียนรู้แบบโครงงาน เพื่อเสริมสร้างทักษะในศตวรรษที่ 21 เรื่อง ของดีเมืองลุง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เกี่ยวกับประสิทธิภาพของรูปแบบกระบวนการเรียนรู้แบบโครงงาน เพื่อเสริมสร้างทักษะในศตวรรษที่ 21 เรื่อง ของดีเมืองลุง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และประสิทธิผลการใช้รูปแบบกระบวนการเรียนรู้แบบโครงงาน เพื่อเสริมสร้างทักษะในศตวรรษที่ 21 เรื่อง ของดีเมืองลุง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ดังนี้ ทักษะในศตวรรษที่ 21 และการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง ดำเนินการวิจัย 4 ขั้นตอน ได้แก่ ขั้นตอน ที่ 1 การวิเคราะห์และสังเคราะห์ข้อมูลเพื่อกำหนดรูปแบบกระบวนการเรียนรู้ จากเอกสารงานวิจัยและความคิดเห็น ของผู้เชี่ยวชาญ ขั้นตอน ที่ 2 การออกแบบและพัฒนารูปแบบกระบวนการเรียนรู้ ซึ่งมี 6 องค์ประกอบ ขั้นตอน ที่ 3 การทดลองใช้กับกลุ่มตัวอย่างที่เป็นครูและนักเรียนที่เลือกมาโดยการสุ่มแบบง่าย และขั้นตอน ที่ 4 หาประสิทธิผลของรูปแบบกระบวนการเรียนรู้ การรับรองรูปแบบกระบวน การเรียนรู้ และจัดทำข้อเสนอแนะในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยมี 5 ฉบับ คือ 1) ประเด็นการสนทนากลุ่ม 2) ประเด็นสัมมนาอิงผู้เชี่ยวชาญ 3) แบบประเมินทักษะศตวรรษที่ 21 ประกอบด้วย วิธีการคิด วิธีการทำงาน เครื่องมือในการทำงาน และการดำรงชีวิตในโลก เป็นแบบมาตรประมาณค่ามีค่าสัมประสิทธิ์ แอลฟาครอนบาค เท่ากับ 0.948, 0.955, 0.972 และ 0.968 ตามลำดับ 4) แบบสังเกตพฤติกรรมการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง และแบบบันทึกการเรียนรู้ของผู้เรียน มีค่าสัมประสิทธิ์แอลฟาครอนบาค เท่ากับ 0.868 และ 5) แบบสอบถามความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อรูปแบบกระบวนการเรียนรู้ การวิเคราะห์ข้อมูลใช้สถิติภาคบรรยาย และการวิเคราะห์เนื้อหา ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้

1. รูปแบบกระบวนการเรียนรู้แบบโครงงาน เพื่อเสริมสร้างทักษะในศตวรรษที่ 21 เรื่อง ของดีเมืองลุง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่พัฒนาขึ้นมีองค์ประกอบ ได้แก่ 1) หลักการ 2) วัตถุประสงค์ 3) กระบวนการจัดการเรียนรู้ 4) การวัดและประเมินผล 5) ปัจจัยสนับสนุน 6) เงื่อนไขสำคัญ ในการนำรูปแบบไปใช้ โดยในกระบวนการเรียนรู้ประกอบด้วย 6 ขั้น ได้แก่ E ขั้นที่ 1 เร้าความสนใจ S ขั้นที่ 2 ศึกษาข้อมูล P ขั้นที่ 3 แผนงาน P ขั้นที่ 4 ลงมือปฏิบัติ L ขั้นที่ 5 ผลการเรียนรู้ และ P ขั้นที่ 6 นำเสนอ (ESPPLP Model) ประสิทธิภาพของรูปแบบกระบวนการเรียนรู้แบบโครงงาน เพื่อเสริมสร้างทักษะในศตวรรษที่ 21 เรื่อง ของดีเมืองลุง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีความเหมาะสม เป็นไปได้ และเป็นประโยชน์โดยภาพรวม อยู่ในระดับมากที่สุด

2. ประสิทธิผลของรูปแบบกระบวนการเรียนรู้แบบโครงงาน เพื่อเสริมสร้างทักษะในศตวรรษที่ 21 เรื่อง ของดีเมืองลุง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด ดังนี้

2.1 ผู้เรียนที่ผ่านกระบวนการเรียนรู้ด้วยรูปแบบกระบวนการเรียนรู้ ดังกล่าว มีทักษะ

ในศตวรรษที่ 21 ได้แก่ 1) ความสามารถในวิธีการคิดเกี่ยวกับการคิดแก้ปัญหา การคิดสร้างสรรค์ และนวัตกรรม 2) ความสามารถในวิธีการทำงานเกี่ยวกับทักษะการสื่อสาร และการร่วมมือทำงานเป็นทีม 3) ความสามารถในการใช้เครื่องมือการทำงานเกี่ยวกับการรู้เท่าทันสารสนเทศ การรู้เท่าทันสื่อ และการรู้เท่าทันเทคโนโลยีสารสนเทศ และ 4) การประพฤติและปฏิบัติในการดำรงชีวิตเกี่ยวกับ เป็นพลเมืองและพลโลก ความรู้ ทักษะ และเจตคติอยู่ในระดับมากทุกด้าน

2.2 ผลการประเมินการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง พบว่า ผู้เรียนให้ความร่วมมือ

ในการทำกิจกรรมต่างๆ มีความกระตือรือร้นในการหาความรู้เพิ่มเติมทั้งในและนอกห้องเรียน กล้าแสดง ความคิดเห็นในมุมมองที่แตกต่างกันด้วยความมั่นใจ แสดงแนวคิดที่แปลกใหม่หลากหลายในการแก้ปัญหา ผู้เรียนมีการนำเสนอเหตุผลในการเรียนรู้และท้าทาย นำเสนอผลงานจากการระดมความคิด การวิพากษ์ และให้ข้อเสนอแนะ นอกจากนี้ผู้เรียนสามารถปรับตัวในการอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้ดี มีความประทับใจที่ได้เรียนรู้และฝึกทักษะรวมทั้งสามารถนำมาเป็นแนวทางในการเรียนรู้ของตนเอง

โพสต์โดย อัญชลี แก้ววิเศษ : [19 มี.ค. 2563 เวลา 17:48 น.]
อ่าน [3355] ไอพี : 171.7.222.61
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 9,378 ครั้ง
ปฏิรูปการศึกษาสิงคโปร์
ปฏิรูปการศึกษาสิงคโปร์

เปิดอ่าน 9,169 ครั้ง
ฟรีแวร์สำหรับแสดงและแก้ไขรูปภาพ
ฟรีแวร์สำหรับแสดงและแก้ไขรูปภาพ

เปิดอ่าน 11,418 ครั้ง
5 ทริคประหยัดเงินค่าอาหารในช่วงใกล้สิ้นเดือน
5 ทริคประหยัดเงินค่าอาหารในช่วงใกล้สิ้นเดือน

เปิดอ่าน 21,040 ครั้ง
หลักสูตรการผลิตครู ควรเป็น 4 หรือ 5 ปีดี โดย : ดิเรก พรสีมา
หลักสูตรการผลิตครู ควรเป็น 4 หรือ 5 ปีดี โดย : ดิเรก พรสีมา

เปิดอ่าน 6,146 ครั้ง
เอกสาร ก้าวแรกการจัดการเรียนรู้โดยใช้โครงงานเป็นฐาน Project Based Learnning PBL
เอกสาร ก้าวแรกการจัดการเรียนรู้โดยใช้โครงงานเป็นฐาน Project Based Learnning PBL

เปิดอ่าน 21,002 ครั้ง
"ท่าออกกำลัง" ป้องกันหลอดเลือดอุดตัน
"ท่าออกกำลัง" ป้องกันหลอดเลือดอุดตัน

เปิดอ่าน 9,272 ครั้ง
ต้านเหงือกติดเชื้อด้วยการกินโฮลวีท
ต้านเหงือกติดเชื้อด้วยการกินโฮลวีท

เปิดอ่าน 5,511 ครั้ง
สับสนกับเมเจอร์ที่เลือก แต่ไม่อยากรีแอดมิชชั่นต้องทำยังไง
สับสนกับเมเจอร์ที่เลือก แต่ไม่อยากรีแอดมิชชั่นต้องทำยังไง

เปิดอ่าน 11,498 ครั้ง
อันตราย! ดื่มน้ำเกินพิกัด
อันตราย! ดื่มน้ำเกินพิกัด

เปิดอ่าน 19,127 ครั้ง
แนะนำวิธีจัดโต๊ะคอมพิวเตอร์ให้เหมาะสมกับครู
แนะนำวิธีจัดโต๊ะคอมพิวเตอร์ให้เหมาะสมกับครู

เปิดอ่าน 12,479 ครั้ง
7 วิธีเติมความมีชีวิตชีวาให้ชีวิต
7 วิธีเติมความมีชีวิตชีวาให้ชีวิต

เปิดอ่าน 13,287 ครั้ง
20 เรื่องเหลือเชื่อทางวิทยาศาสตร์
20 เรื่องเหลือเชื่อทางวิทยาศาสตร์

เปิดอ่าน 71,923 ครั้ง
อีโมติคอน อักษรแสดงอารมณ์
อีโมติคอน อักษรแสดงอารมณ์

เปิดอ่าน 7,334 ครั้ง
กว่าจะมาเป็น "ไอโฟน" จุดกำเนิดและความบังเอิญ
กว่าจะมาเป็น "ไอโฟน" จุดกำเนิดและความบังเอิญ

เปิดอ่าน 20,161 ครั้ง
เกมส์ทําอาหาร
เกมส์ทําอาหาร

เปิดอ่าน 16,666 ครั้ง
ประวัติไข้หวัดใหญ่ที่เคยระบาดบนโลก
ประวัติไข้หวัดใหญ่ที่เคยระบาดบนโลก
เปิดอ่าน 9,142 ครั้ง
เปิดม่านการศึกษา : 16 เม.ย. 58 : โดย...ครูแจ่ม
เปิดม่านการศึกษา : 16 เม.ย. 58 : โดย...ครูแจ่ม
เปิดอ่าน 8,219 ครั้ง
ความผูกพันสำคัญต่อองค์กรอย่างไร ?
ความผูกพันสำคัญต่อองค์กรอย่างไร ?
เปิดอ่าน 10,702 ครั้ง
สู่ความสำเร็จในการทำงานตามแนวพุทธ
สู่ความสำเร็จในการทำงานตามแนวพุทธ
เปิดอ่าน 10,630 ครั้ง
8 วิธีกำจัดขาโต๊ะสนุ้ก
8 วิธีกำจัดขาโต๊ะสนุ้ก

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ