ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการสอนคณิตศาสตร์เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและ ทักษะการคิดแก้ปัญหาของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2

ผู้วิจัย นางสาวอวยชัย สุขสวาง ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ

โรงเรียนบัวขาว สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธุ์

ปีการศึกษา 2561

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1)พัฒนารูปแบบการสอนคณิตศาสตร์เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะการคิดแก้ปัญหาของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2เรื่อง การประยุกต์ของสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว 2)ศึกษาผลการใช้รูปแบบการสอนคณิตศาสตร์เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะการคิดแก้ปัญหาของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เรื่องการประยุกต์ของสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว รูปแบบการวิจัยเป็นการวิจัยและพัฒนา(Research and Development) กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/1 โรงเรียนบัวขาว สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธุ์ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561 จำนวน 38 คน ได้มาด้วยวิธีการสุ่มแบบกลุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ 1)รูปแบบการสอนคณิตศาสตร์เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะการคิดแก้ปัญหา2) แผนการจัดการเรียนรู้3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 4) แบบทดสอบวัดทักษะการคิดแก้ปัญหา 5) แบบสอบถามความพึงพอใจ สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบสมมติฐานด้วยสถิติค่าที (t-test) แบบ Dependent Samples

ผลการวิจัยพบว่า

1. รูปแบบการสอนคณิตศาสตร์เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะการคิดแก้ปัญหาของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เรื่องการประยุกต์ของสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว “OPCA Model”มี6 องค์ประกอบ ได้แก่ แนวคิดและทฤษฎีพื้นฐานวัตถุประสงค์ของรูปแบบขั้นตอนการจัดการเรียนการสอน ระบบสังคมหลักการตอบสนอง และระบบสนับสนุนโดยมีขั้นตอนการจัดการเรียนการสอน4 ขั้นตอน คือ 1) ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน(Orientation: O)2) ขั้นเผชิญสถานการณ์ปัญหา (Problem: P) 3) ขั้นสร้างความรู้และคิดแก้ปัญหา (Collaborative Problem Solving: C) และ 4) ขั้นนำไปใช้ (Application: A) และรูปแบบการสอนคณิตศาสตร์ที่พัฒนาขึ้นมีประสิทธิภาพ เท่ากับ 84.06/81.58เมื่อเทียบกับเกณฑ์80/80 ที่กำหนดไว้

2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่เรียนโดยใช้รูปแบบการสอนคณิตศาสตร์เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะการคิดแก้ปัญหา“OPCA Model” หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ.05

3. ทักษะการคิดแก้ปัญหาของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีคะแนนเฉลี่ย เท่ากับ 21.27คิดเป็นร้อยละ 88.63และมีจำนวนนักเรียนที่ผ่านเกณฑ์คิดเป็นร้อยละ84.21ของจำนวนนักเรียนทั้งหมด ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 80 ที่ได้กำหนดไว้

4. ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2ที่มีต่อรูปแบบการสอนคณิตศาสตร์เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะการคิดแก้ปัญหา“OPCA Model” โดยรวมอยู่ในระดับมาก (x ̅ = 4.50,S.D.=0.56)

โพสต์โดย อวยชัย สุขสวาง : [1 เม.ย. 2563 เวลา 11:46 น.]
อ่าน [3797] ไอพี : 182.52.210.21
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 1,444 ครั้ง
ประโยชน์ของกวักมรกต
ประโยชน์ของกวักมรกต

เปิดอ่าน 24,936 ครั้ง
นานาไอเดีย แปลงยางรถยนต์เก่า มาใช้อย่างเก๋ไก๋ ทำไว้ใช้เองที่บ้าน/ที่โรงเรียน หรือทำขายเป็นอาชีพเสริมก็ได้
นานาไอเดีย แปลงยางรถยนต์เก่า มาใช้อย่างเก๋ไก๋ ทำไว้ใช้เองที่บ้าน/ที่โรงเรียน หรือทำขายเป็นอาชีพเสริมก็ได้

เปิดอ่าน 35,596 ครั้ง
ปรากฏการณ์ Earth Shine คืออะไร
ปรากฏการณ์ Earth Shine คืออะไร

เปิดอ่าน 175,493 ครั้ง
ประโยชน์ของการสื่อสารข้อมูล
ประโยชน์ของการสื่อสารข้อมูล

เปิดอ่าน 20,938 ครั้ง
วิธีดูสุริยุปราคาที่ถูกต้อง
วิธีดูสุริยุปราคาที่ถูกต้อง

เปิดอ่าน 13,947 ครั้ง
 16 พฤติการณ์ เข้าข่ายผู้เป็นอิทธิพล
16 พฤติการณ์ เข้าข่ายผู้เป็นอิทธิพล

เปิดอ่าน 16,365 ครั้ง
แนะนำ 5 เทคนิคดีๆ ในการฝึก
แนะนำ 5 เทคนิคดีๆ ในการฝึก 'อ่านภาษาอังกฤษ' ให้เก่งขั้นเทพ…!!

เปิดอ่าน 12,440 ครั้ง
สภาวะการศึกษาไทย ปี 2557/2558 จะปฏิรูปการศึกษาไทยให้ทันโลกในศตวรรษที่ 21 ได้อย่างไร
สภาวะการศึกษาไทย ปี 2557/2558 จะปฏิรูปการศึกษาไทยให้ทันโลกในศตวรรษที่ 21 ได้อย่างไร

เปิดอ่าน 9,714 ครั้ง
มาแล้ว! เอ็มวี ซิงเกิ้ล "Gentleman" ของ "ไซ (PSY)"
มาแล้ว! เอ็มวี ซิงเกิ้ล "Gentleman" ของ "ไซ (PSY)"

เปิดอ่าน 38,715 ครั้ง
เทควันโด : ประโยชน์ของการเล่นกีฬาเทควันโด
เทควันโด : ประโยชน์ของการเล่นกีฬาเทควันโด

เปิดอ่าน 19,040 ครั้ง
ปัญหาโรงเรียนขนาดเล็กปัญหาคุณภาพคนรากหญ้า...สู่ปัญหาชาติ
ปัญหาโรงเรียนขนาดเล็กปัญหาคุณภาพคนรากหญ้า...สู่ปัญหาชาติ

เปิดอ่าน 924 ครั้ง
ของฝากประจำจังหวัดศรีสะเกษ สินค้าแนะนำภาคอีสาน
ของฝากประจำจังหวัดศรีสะเกษ สินค้าแนะนำภาคอีสาน

เปิดอ่าน 12,718 ครั้ง
ไฟหมุนร้านตัดผมมีที่มาอย่างไร
ไฟหมุนร้านตัดผมมีที่มาอย่างไร

เปิดอ่าน 16,902 ครั้ง
สุดทึ่ง นักโบราณคดีอึ้ง รูปปั้นนักรบเฝ้าสุสานจีน 7 พันตัว ถูกปั้น"ตามใบหน้าจริงแต่ละคน
สุดทึ่ง นักโบราณคดีอึ้ง รูปปั้นนักรบเฝ้าสุสานจีน 7 พันตัว ถูกปั้น"ตามใบหน้าจริงแต่ละคน

เปิดอ่าน 8,644 ครั้ง
เรื่องเล่าดีๆ เมื่อหนุ่มทำมือถือตกในแท็กซี่ โทรไปก็ไม่มีคนรับ ผลสุดท้ายคือ...
เรื่องเล่าดีๆ เมื่อหนุ่มทำมือถือตกในแท็กซี่ โทรไปก็ไม่มีคนรับ ผลสุดท้ายคือ...

เปิดอ่าน 17,863 ครั้ง
แฉกลโกง40ขายตรงตุ๋นผู้บริโภคหมื่นล.
แฉกลโกง40ขายตรงตุ๋นผู้บริโภคหมื่นล.
เปิดอ่าน 6,736 ครั้ง
กองทุนการศึกษา โครงการพระราชดำริสุดท้าย ด้วยความห่วงใยอนาคตชาติ
กองทุนการศึกษา โครงการพระราชดำริสุดท้าย ด้วยความห่วงใยอนาคตชาติ
เปิดอ่าน 22,962 ครั้ง
10 สุดยอดโปรแกรมป้องกันไวรัส ฟรี!! ปี 2013
10 สุดยอดโปรแกรมป้องกันไวรัส ฟรี!! ปี 2013
เปิดอ่าน 13,393 ครั้ง
โซเชียลแชร์ กระดาษคำตอบแบบใหม่ กันลอกข้อสอบ
โซเชียลแชร์ กระดาษคำตอบแบบใหม่ กันลอกข้อสอบ
เปิดอ่าน 14,062 ครั้ง
ADSL ทำงานอย่างไร?
ADSL ทำงานอย่างไร?

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ